25 เม.ย. 2568 (หนานจิง , ซินหัว) จักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ผลิตโดยจีนกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย เนื่องจากมีราคาถูกกว่ารถยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าจักรยานยนต์แบบดั้งเดิม และการออกแบบที่ล้ำสมัย โดยไพลิน ดาวรัตนหงษ์ พนักงานร้านตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ยาเดีย (Yadea) ของจีนในไทย กล่าวว่าจักรยานยนต์ไฟฟ้าของจีนมีดีไซน์ทั้งสวยงามน่ารักและเท่เรียบหรู มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความเร็ว และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มต่างๆ
ผู้คนในจีนนั้นใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าลักษณะนี้กันมานาน โดยตัวเลขสถิติระบุว่าจำนวนจักรยานยนต์ไฟฟ้าในจีนในปี 2023 สูงเกิน 400 ล้านคันแล้ว ขณะหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เริ่มต้นจัดสรรเงินอุดหนุนการซื้อจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2023 เพื่อส่งเสริมการใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าที่จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและมลพิษ ทำให้จักรยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนค่อยๆ กลายเป็นตัวเลือกใหม่ด้วยจุดเด่นด้านความปลอดภัยและความเป็นมิตรกับสิ่งแวล้อม
ข้อมูลจากเอบีม คอนซัลติง (ABeam Consulting) เผยว่าปัจจุบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แซงหน้ายุโรปและสหรัฐฯ กลายเป็นตลาดผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลกรองจากอินเดียและจีน ขณะจักรยานยนต์ไฟฟ้าของจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังแพร่หลายไปทั่วโลก โดยตัวเลขสถิติระบุว่ายอดส่งออกจักรยานยนต์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้าของจีนในปี 2024 สูงเกิน 4 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.83 แสนล้านบาท) เป็นครั้งแรก ซึ่งมีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดสำคัญ
จักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ส่งออกสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่มาจากเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน ซึ่งครองสมญานาม "บ้านเกิดยานพาหนะไฟฟ้าในจีน" ด้วยปริมาณการผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 15 ล้านคันต่อปี และส่งออกจักรยานยนต์ไฟฟ้าสู่ประเทศและภูมิภาคต่างๆ กว่า 140 แห่งทั่วโลก โดย "ยาเดีย" หรือหย่าตี๋เป็นแบรนด์หนึ่งที่มาจากเมืองอู๋ซี ซึ่งวางแผนพัฒนาธุรกิจในไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือเป็นตลาดบลูโอเชียน (Blue Ocean) ของธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้า
บรรดาบริษัทจักรยานยนต์ไฟฟ้าของจีนได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดียิ่งขึ้น เช่น "ยาเดีย" พัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่มืออาชีพที่สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3 วินาที ขณะ "เทลจี" (Tailg) หรือไถหลิงพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะการวิ่งขึ้นทางชัน พร้อมระบบระบุตำแหน่งและกันขโมยผ่านสมาร์ตโฟน ส่วน "ซันรา" (Sunra) หรือซินรื่อพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์ล้ำสมัย พร้อมคุณสมบัติค้นหาอัจฉริยะเพื่อตลาดไทยโดยเฉพาะ
เสิ่นอวี๋ ผู้อำนวยการบริหารของหย่าตี๋ โฮลดิง หรือยาเดีย กล่าวว่าลูกค้าชาวไทยส่วนใหญ่เหมือนลูกค้าชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับราคา ประสิทธิภาพทางพลังงาน และความสะดวกในการชาร์จ แต่ขณะเดียวกันลูกค้าชาวไทยให้ความสำคัญกับความทนทานของตัวรถในฤดูฝน รวมถึงความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสภาพถนนในพื้นที่ชนบทด้วย พร้อมเสริมว่าสงครามราคาไม่ใช่คำตอบ แต่การสร้างรากฐานคุณภาพที่แข็งแกร่งผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีจะช่วยให้จักรยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนได้รับเสียงตอบรับที่ดีในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนั้นเสิ่นกล่าวว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) และการบริการจัดส่งสินค้าหรืออาหารในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย ยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจแก่บริษัทจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดยหลายบริษัทเปิดตัวโมเดลเช่าจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือร่วมพัฒนาแบรนด์ใหม่กับแพลตฟอร์มจัดส่งด่วนในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้งานจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการยอมรับจักรยานยนต์ไฟฟ้าในหมู่ผู้บริโภค นำสู่การปลดปล่อยศักยภาพของตลาด
(ซินหัว) ภาพจากผู้ให้สัมภาษณ์ : บรรยากาศหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ "ยาเดีย" หรือหย่าตี๋ของจีนในไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี