27 เม.ย. 2568 ลอวเรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2568 ระบุว่า
“ชาวสิงคโปร์คงได้ยินข่าวไปแล้วว่าเราบล็อกโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ของตัวแสดงจากต่างชาติ 3 คนที่ขอให้ชาวสิงคโปร์ลงคะแนนตามแนวทางศาสนา”
“ช่วงบ่ายนี้ ผมใช้เวลาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้และรับคำถามจากสื่อ เราทุกคนต้องปฏิเสธการเมืองเชิงอัตลักษณ์ และอย่านำเชื้อชาติและศาสนามาปะปนกับการเมือง เราจะต้องไม่ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลภายนอกใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของเราเพื่อแบ่งแยกเราหรือรับใช้ผลประโยชน์ของตนเอง”
“จะไม่มีใครชนะหากสิงคโปร์แตกแยกกันมากขึ้น เรามาร่วมกันรักษาความสามัคคีและรักษาโอเอซิสแห่งสันติภาพและความสามัคคีนี้ต่อไปอีกหลายปี”
ในวันเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Singapore orders foreigners' Facebook posts taken down under new election rules ระบุว่า ทางการสิงคโปร์ได้สั่งให้บริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta ปิดกั้นการเข้าถึงโพสต์ของชาวสิงคโปร์ที่โพสต์โดยชาวต่างชาติ 3 คนที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามจะแทรกแซงการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงต้นเดือน พ.ค. 2568 โดยอิงจากเชื้อชาติและศาสนา ขณะที่ผู้ที่ถูกบล็อกโพสต์ 2 คนปฏิเสธ
กรมการเลือกตั้งและกระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ เปิดเผยเมื่อเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2568 ว่า สำนักงานพัฒนาการสื่อสารข้อมูลได้ออกคำสั่งดังกล่าว หลังจากที่พบว่าโพสต์ข้อความของชาวต่างชาติบางราย มีเจตนาที่จะส่งเสริมหรือก่อให้เกิดอคติต่อความสำเร็จในการเลือกตั้งหรือสถานะของพรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยสิงคโปร์จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 3 พ.ค. 2568 ซึ่งมีแนวโน้มว่าพรรคกิจประชา (PAP) จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคได้รับที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งทุกครั้งนับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2508
การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ยังเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้กฎการควบคุมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์กำหนดขึ้นในปี 2566 โดยห้ามชาวต่างชาติเผยแพร่โฆษณาการเลือกตั้งผ่านช่องทางออนไลน์ออนไลน์ในลักษณะที่เป็นคุณหรือเป็นโทษกับพรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งใดๆ
ทางการสิงคโปร์เปิดเผยชื่อผู้โพสต์ที่เป็นปัญหา 3 รายตามที่ถูกกล่าวอ้าง คือ 1.อิสกันดาร์ อับดุล ซามาด (Iskandar Abdul Samad) เหรัญญิกแห่งชาติของพรรค Islamist party Parti Islam Se-Malaysia 2.โมฮัมเหม็ด สุกรี โอมาร์ (Mohamed Sukri Omar) หัวหน้าเยาวชนของกลุ่ม Malaysian state of Selangor และ 3.ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ไซ นาล (Zai Nal)" ซึ่งระบุว่าคือ ซุลฟิการ์ บิน โมฮัมเหม็ด ชาริฟฟ์ (Zulfikar bin Mohamad Shariff) ชาวออสเตรเลียที่สละสัญชาติสิงคโปร์ไปแล้วเมื่อปี 2563
อิสกันดาร์ได้โพสต์ข้อความสนับสนุนไฟซาล มานาป (Faisal Manap) จากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในสิงคโปร์ ขณะที่ทางการสิงคโปร์ พบว่า ซุลฟิการ์กล่าวหาสมาชิกรัฐสภาชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูว่าไม่สามารถเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของชาวมุสลิมได้ และกล่าวว่า สิงคโปร์ไม่ต้องการสมาชิกรัฐสภาชาวมลายูอีกคนที่ไม่ใช่ตัวแทนความคิดเห็นของพวกเขา จากนั้นซุกรีได้แชร์โพสต์ของซุลฟิการ์ ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ มองว่า โพสต์ของทั้ง 3 แทรกแซงการเมืองในประเทศและมีอิทธิพลต่อประชาชนให้ลงคะแนนเสียงตามเชื้อชาติและศาสนา
ในวันที่ 26 เม.ย. 2568 สุกรี ชี้แจงภายหลังทราบเรื่องคำสั่งบล็อกโพสต์เฟซบุ๊กของรัฐบาลสิงคโปร์ ว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะแทรกแซงการเลือกตั้งของสิงคโปร์ แต่เกิดจากความรับผิดชอบทางศีลธรรมของตนในฐานะชาวมุสลิมและในฐานะบุคคลที่กังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายของชุมชนชาวมลายูมุสลิมในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ถูกละเลยมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา เศรษฐกิจ หรือเสรีภาพทางวัฒนธรรม
ขณะที่ ซุลฟิการ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้ท่าทีของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าพรรคกิจประชาที่เป็นรัฐบาลและผู้สนับสนุนพรรคดังกล่าวกำลังรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวัง และยังเปิดเผยด้วยว่า ตนกำลังสร้างช่องทางผ่านแอปพลิเคชั่นสนทนาอย่าง WhatsApp และเว็บไซต์อีกแห่งเพื่อสนับสนุนประเด็นต่างๆ
ในวันเดียวกัน พรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านในสิงคโปร์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า พรรคไม่มีอำนาจควบคุมพรรคการเมืองต่างประเทศที่แสดงการสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ขณะที่ไฟซาล ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคที่ถูกพาดพิงนั้น ให้ความเห็นว่าศาสนาควรแยกออกจากการเมือง เพื่อที่ศาสนาจะไม่ถูกใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใดๆ ด้านพรรคกิจประชาไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ในทันที ขณะที่ส่วนของ Meta, Iskandar และพรรค Parti Islam Se-Malaysia ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอให้แสดงความคิดเห็น
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี