29 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พรรคเสรีนิยมแคนาดา ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี มาร์ก คาร์นีย์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ท่ามกลางแรงกดดันจากการข่มขู่และมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โดยยังไม่แน่ชัดว่าพรรคจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้หรือไม่

นายปิแอร์ ปัวลิเยฟร์ ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคอนุรักษนิยม ยอมรับความพ่ายแพ้ และให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับรัฐบาลใหม่ในการปกป้องผลประโยชน์และอธิปไตยของแคนาดา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น

โดย มาร์ก คาร์นีย์ วัย 60 ปี อดีตผู้ว่าการธนาคารกลาง ที่เคยพาแคนาดาฝ่าวิกฤตการเงินปี 2008 และอังกฤษผ่าน Brexit กลายเป็นสัญลักษณ์ของกระแสต่อต้านทรัมป์ ด้วยนโยบายเน้นการปกป้องอธิปไตย และลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจกับสหรัฐฯ

มาตรการภาษีหนักที่ทรัมป์ประกาศกับสินค้าส่งออกหลัก เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม รถยนต์ และยา ทำให้เศรษฐกิจแคนาดาเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาร์นีย์เตือนว่าประชาชนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับ "วันที่ยากลำบาก" และเดินหน้าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ

แม้จะเปิดโอกาสเจรจากับทรัมป์ คาร์นีย์ยังเดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์กับพันธมิตรยุโรป เพื่อสร้างเครือข่ายใหม่ทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการทหาร พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า "เราจะยืนหยัดเพื่อคนงาน ธุรกิจ และอธิปไตยของแคนาดา"

ทั้งนี้ พรรคเสรีนิยม เป็นพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งติดต่อกัน 4 สมัยในแคนาดานับตั้งแต่ปี 2004