เป็นผู้บริหารสาวรุ่นใหม่ไฟแรงด้วยวัยเพียง 28 ปี ปิ๋ม-ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม กรรมการผู้จัดการ บริษัทสุภัทรา เรียลเอสเตท จำกัด ผู้บริหารโครงการท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์ ที่เน้นวัฒนธรรมวิถีชีวิตริมเจ้าพระยาและความมีศิลปะ เธอเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลเรือด่วนเจ้าพระยา ที่กำลังต่อยอดพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
หลานสาวคนเก่งของ คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ เจ้าของเรือด่วนเจ้าพระยา ปิ๋ม-ณัฐปร ไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ชั้นประถมจนจบไฮสคูลที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ หลังจากนั้นไปต่อปริญญาตรีทางด้านโรงแรมและการจัดการ ที่มหาวิทยาลัยคอแนล สหรัฐอเมริกา แล้วเดินทางกลับมาทำงานด้านวิเคราะห์ตัวเลขการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เกือบ 2 ปี จึงกลับไปเรียนต่อปริญญาโทด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา หลังจากจบก็มาทำงานให้กับบริษัทของครอบครัวอยู่ 2 ปีกว่า จนกระทั่งเมื่อ ปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทสุภัทรา มีนโยบายพัฒนาที่ดินที่มีอยู่ริมน้ำให้ต่อยอดธุรกิจให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เธอจึงเข้ามาดูแลงานใหญ่ชิ่นนี้อย่างเต็มตัว
ปิ๋ม-ณัฐปร มาทำธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 ล่าสุดดูแลโครงการท่ามหาราชไลฟ์สไตล์มอล์ เป็นอาคาร 3 ชั้น ริมแม่นำเจ้าพระยา ทั้งหมด 7 ตึกลงทุน 550 ล้านบนเนื้อที่ 3 ไร่ ตรงท่ามหาราช เพื่อเป็นจุดนัดพบริมน้ำแห่งใหม่ของเกาะรัตนโกสินทร์ ขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 60% โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2557 นี้ แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้นจำนวน 7 อาคาร ใช้งบการลงทุนทั้งสิ้น 550 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มเปาหมายเป็นนักศึกษาและคนทำงานในย่านศิริราช ท่าพระจันทร์ ท่าช้าง ผู้ใช้บริการทางเรือ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดในกลุ่มบี
นอกจากนั้น นโยบาย 2-3 ปี ข้างหน้านี้ทางบริษัท จะเน้นการต่อยอดธุรกิจในพื้นที่ของบริษัทที่อยู่ริมน้ำทั้งหมดให้เพิ่มมูลค่าและมีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น เช่นโครงการโรงแรมขนาด 35 ห้อง ที่ย่านท่าเตียนตรงข้ามวัดอรุณ และพลาซ่าในย่านท่าเรือวังหลังใกล้กับท่าศิริราช รวมทั้งหากในอนาคตหากพื้นที่ใดที่มีแนวโน้มดีมีศักยภาพในการลงทุนในพื้นที่ระดับบี เช่น ย่านรอบๆนอกของหัวหิน ระยอง หรืออาจจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
“คือพื้นที่เกรดเอ ใจกลางเมืองทำเลห้าดาวคงหายากแล้วหรือไม่ก็ราคาแพงจนสู้ไม่ไหว เราก็มองบริเวณโดยรอบรองๆออกมาที่มองเห็นโอกาสในการพัฒนาต่อไปได้ซึ่งเป็นในระยะ2-3 ปี ข้างหน้า เมื่อเราพัฒนาที่ดินที่เรามีอยู่เกือบหมดแล้ว”
ผู้บริหารสาวรุ่นใหม่อย่างเธอ มุ่งมั่นตั้งใจมีไฟในการทำงานไม่แพ้ผู้ชายเลยทีเดียว จัดว่าเป็นคุณหนูสู้งานคนหนึ่งในยุคนี้ เธอยิมรับว่า มีแม่แบบในการทำงานจากผู้หญิง 2 ท่านในชีวิตของเธอ ก็คือ คุณยาย-คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ และคุณแม่สุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม นั่นเองที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงานของเธอ
“คุณยายเป็นนักกฏหมายยุคแรกๆ ในสมัยนั้นและยังทำธุรกิจของครอบครัวควบคู่กันไปด้วย แถมคุณยายก็ยังทำงานเพื่อสังคม โดยเฉพาะการช่วยเหลือเด็กและผู้หญิงทางด้านกฏหมาย ให้ทุนการศึกษา ขณะที่คุณแม่ก็เป็นผู้หญิงทำงานที่ช่วยพัฒนาสังคมและชุมชนในย่านที่บริษัทตั้งอยู่ รวมทั้งให้ความสำคัญในเรื่องการให้ทุนการศึกษากับพนักงานระดับปฏิบัติการ ควบคู่กับการทำหน้าที่แม่บ้าน
เท่าที่จำได้คือคุณแม่ทำงานมาตลอด และท่านก็มีคุณยายเป็นแบบอย่าง ชื่อบริษัทก็เป็นชื่อคุณยายท่านเป็นแบบอย่างเป็นแรงบันดาลใจที่ดีของเรา คุณแม่เองท่านก็ไม่เคยอยู่นิ่งเฉยเลย และท่านยังสอนเสมอว่าเมื่อการงานของเรามั่นคงดีแล้ว อย่าลืมทำอะไรเพื่อสังคมและชุมชนของเราบ้าง ท่านเห็นความสำคัญของงานในด้านจิตอาสามาตั้งนานแล้ว ทุกวันนี้คุณแม่ก็ดูแลสิบทอดเจตนารมณ์ของคุณยายทางด้านมูลนิธิสุภัทรา ซึ่งเน้นความสำคัญของการศึกษามาในอันดับแรก”
เมื่อถามถึงปรัชญาในการทำงาน ปิ๋ม-ณัฐปร ทิ้งท้ายว่า ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด โฟกัสในสิ่งที่ทำอย่างตรงจุด มีความซื่อสัตย์ในงานที่ทำ เริ่มจากเล็กๆ แล้วค่อยเติบโต เรียนรู้อยู่เสมอ เมื่อเจอปัญหาอุปสรรคอย่าท้อถอย พยายามมองโลกในแง่ดี ไม่เครียด ไม่คิดมาก แล้วเริ่มต้นใหม่ให้ได้ ทำการบ้านอยู่เสมอ การทำงานก็เหมือนเรียนหนังสือหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ ทุกอย่างจะดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี