สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานพระโอวาทแก่
แพทย์ใหม่ และแพทย์ใช้ทุน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จ ไปยังโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประทานพระโอวาทแก่แพทย์ใหม่ และแพทย์ใช้ทุน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมี รศ.นพ.องค์การ เรืองรัตนอัมพรรักษาการรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการแพทย์และบริการ นำคณะแพทย์ใหม่ จำนวน 10 คน จากแผนกอายุรศาสตร์โรคหัวใจ, อายุรศาสตร์โรคไต, รังสีวินิจฉัย, อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา, จิตเวชศาสตร์, มะเร็งวิทยานรีเวช, โสต ศอ นาสิก,ตจวิทยา ศัลยกรรมตกแต่ง และแพทย์ใช้ทุน จำนวน 20 คน เฝ้ารับประทานพระโอวาทเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเพื่อให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นโรงพยาบาลสำหรับทุกคน และเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ณ ห้องประชุม ชั้น 10 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เมื่อหลายวันที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานพระโอวาทว่าขอต้อนรับ แพทย์ใหม่ที่มาร่วมทีมกับเรา และขอให้กำลังใจแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่แต่เดิมอยู่แล้ว อย่าเสียกำลังใจ การเป็นแพทย์นั้นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ข้อดีในเมืองไทย ต่างจากเมืองนอกมาก คือ คนทั่วไปเขาจะนับถือ และให้เกียรติผู้เป็นแพทย์มาก บางครั้งเปรียบเสมือนกับเทพเจ้าก็ว่าได้ ส่วนข้อเสีย คือ ทำงานหนัก แล้วยังต้องทำตัวให้ดี สมกับที่เขาให้ความไว้วางใจด้วย ที่เราพูดทุกอย่างวันนี้ ต้องบอกว่า ไม่ได้มายกหางตัวเอง และคำพูดที่เราสอนออกไป ไม่ใช่คำพูดของเรา แต่ว่าเป็นคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำสั่งสอนของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และคำสั่งสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จปู่ ท่านพูดว่าให้นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม เป็นอันดับหนึ่ง ประโยชน์ส่วนตนเป็นรอง จริงๆ ทรงพระปรีชามาก เพราะพวกเราทุกคนไม่มีใครอยู่คนเดียวได้ต้องมีสังคม เพราะฉะนั้นถ้าอุทิศตนช่วยสังคมที่ตนอยู่นั้นดีขึ้น เราเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่ถ้าเราปล่อยให้สังคมที่เราอยู่วุ่นวาย เราก็ปวดหัวด้วย ไม่ได้อะไรจากตรงนั้น
คณะแพทย์ใหม่ รับเสด็จ
ทั้งนี้ ทรงแนะวิธีการดูแล และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคนไข้ ว่า “การทำงานเป็นแพทย์นั้น ไม่ใช่แค่โผล่หน้าไปให้คนไข้เห็นอย่างเดียว โดยเฉพาะคนไข้หนักๆ เช่น คนไข้โรคมะเร็ง สิ่งที่เขาต้องการมากกว่ายาคือ ความสนใจของแพทย์ ต้องมีการพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบ เช่น “นอนได้ไหม” “อาหารทานได้หรือป่าว”ถ้าเขาบอกว่า “ไม่ได้” ก็ต้องตอบไปว่า “หมอจะจัดยาให้คนไข้จะได้สบายตัวมากขึ้น” แค่นี้เขาก็สบายใจขึ้นแล้ว นอกจากนี้ทรงเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้พบกับคนไข้รายหนึ่ง ว่า พอเข้าห้อง ข้าพเจ้าไปนั่งลงข้างเตียงเขาเลย เขาบอกกับข้าพเจ้าว่า “อาหารจะเอาแบบนี้แอร์ก็ไม่เย็น” ข้าพเจ้าได้แต่อึ้งไปเลย ตอบไม่ถูกเหมือนกัน พอตั้งตัวได้ก็บอกเขาว่าที่มีอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้วนะหนู บอกไปว่า ทุกอย่างมันต้องอยู่บนความมีเหตุมีผล นอกจากนี้ทรงเผยว่าแต่ถ้าทนไม่ได้จริงๆ ชนิดที่ว่าอยากร้องต่อหน้าคนไข้ ให้ใช้เทคนิคของข้าพเจ้า คือ เอาโทรศัพท์ใส่เสื้อกาวน์ไว้ แล้วบอกเขาว่าโทรศัพท์หมอสั่น ขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ก่อนแล้วจะเข้ามาใหม่ เวลาที่ออกไปให้ทำใจแล้วนับ 1 ถึง 100 ถึง 1,000 แล้วเข้าไปสู้ต่อ”
“อยากให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไป แต่เน้นที่โรคมะเร็ง มีหมอเชี่ยวชาญตรวจคนไข้ทุกด้าน และเปิดส่วนใหม่ของโรงพยาบาลจุฬาฯโดยอยากให้เป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในปี 2560 ฉะนั้น อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ ทำให้ความฝันเป็นความจริง ข้าพเจ้าอยากทำถวายท่าน เพราะตลอดชีวิตของข้าพเจ้าได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำอะไรก็ทรงนึกถึงประชาชน ไม่เคยนึกถึงพระองค์เองเลย แม้กระทั่งปัจจุบันท่านทรงพระประชวร ก็ยังนึกถึงประชาชน ด้วยความที่ข้าพเจ้าเป็น ประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิ พอ.สว. ต่อจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ากลับมาจากต่างจังหวัด ท่านจะถามข้าพเจ้าเสมอว่า ไปคราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง คนไข้เยอะไหม ท่านยังทรงห่วงผู้ปฏิบัติงาน รวมไปถึงแพทย์ พยาบาล ว่าเหนื่อยมากไหมก็ทูลท่านว่าทุกคนเหนื่อยมาก แต่ทุกคนตั้งใจ”
รวมไปถึงประทานคำแนะนำ ว่า “การเป็นหมอต้องมีความอดทนค่อนข้างสูง ถ้าอึดอัดใจบอกข้าพเจ้าได้ ถ้าไม่กล้าก็เขียนจดหมาย ข้าพเจ้าจะพยายามอ่าน จะพยายามแก้ไขปัญหาให้ตามความสามารถที่จะทำได้ และหวังว่า น้องๆ ทุกคน จะร่วมกันทำโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ให้เป็นโรงพยาบาลชั้นนำ ที่เป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทย และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าอยากฝากว่า อะเสวะนา จะ พาลานัง การไม่คบคนพาล ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา คบคนดี ปูชา จะปูชะนียานัง บูชาคนที่สมควรบูชา เอตัมมังคะละมุตตะมังฯ สามสิ่งนี้ เป็นมงคลอันสูงสุดขออวยพรให้น้องๆ ทุกคน ประสบแต่ความสุขความเจริญ ความราบรื่นในการทำงาน และในชีวิตครอบครัวตลอดไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี