"แปะก๊วย" สมุนไพรจีนมากประโยชน์ ที่หลายคนรู้จักจากการได้ทานอาหารที่มี "เมล็ดแปะก๊วย" ผสมอยู่ ซึ่งนอกจากจะเป็นอาหารรสเลิศแล้ว แปะก๊วยยังมีสรรพคุณทางยาสามารถช่วยป้องกันและรักษาอาการต่างๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้่คุณทราบหรือไม่ว่า แป๊ะก๊วย ไม่ได้มีแค่ประโยชน์แต่ถ้าใช้อย่างผิดวิธี อาจกลายเป็นนำผลเสียมาสู่คุณได้
วันนี้เราจึงมีความรู้เกี่ยวกับ "แปะก๊วย" มานำเสนอ เพื่อให้คุณรู้ถึงประโยชน์และโทษอย่างแท้จริง จะได้ทานอย่างถูกวิธี เลือกสิ่งดีๆ หลีกเลี่ยงผลเสียที่จะเกิดกับร่างกาย
รู้จัก "แปะก๊วย"
แปะก๊วย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ginkgo biloba มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน และถูกนำมาใช้ในแพทย์แผนจีนติดต่อกันมายาวนานกว่า 5,000 ปี ในอดีต แพทย์แผนจีนจะนิยมนำแปะก๊วยมาใช้ในการบำบัดอาการไอ หืด และภาวะภูมิแพ้ ซึ่งส่วนที่นิยมนำมาสกัดหรือใช้ในการรักษาโรคมากที่สุดคือส่วนของใบ นอกจากนี้หลายคนยังนิยมนำเมล็ดของแปะก๊วยมาเป็นส่วนประกอบอาหารต่าง ๆ เช่น ขนมหวาน หรือบะจ่าง อีกด้วย
สรรพคุณ
1. ลดระดับคอเลสเตอรอล
เมล็ดแปะก๊วยมีสรรพคุณในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรล โดยการศึกษาในปี 2008 จาก Food Research International พบว่าไขมันที่สามารถละลายน้ำได้ที่อยู่ในเมล็ดแปะก๊วย มีส่วนสำคัญในการลดระดับคอเลสเตอรอลในตับ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
2. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
เมล็ดแปะก๊วยเป็นแหล่งสะสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย ป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ในร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเกือบทุกชนิด ถึงแม้ว่าจะนำเมล็ดแปะก๊วยไปปรุงจนสุกแล้วก็ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระเหลืออยู่ถึง 60% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ
3. มีวิตามินและแร่ธาตุสูง
เราสามารถพบวิตามินบีชนิดต่างๆ อย่าง ริโบฟลาวิน ไนอะซิน ไทอามีน กรดแพนโทเทนิก โฟเลต และวิตามินบี 6 ซึ่งเป็นวิตามินบีที่ดีต่อร่างกายได้ในเมล็ดแปะก๊วย นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ อย่าง แมงกานีส โพแทสเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี และเซเรเนียม อยู่ในเมล็ดแปะก๊วยอีกไม่น้อยเลย โดยเฉพาะทองแดงที่เป็นแร่ธาตุอันมีความสำคัญต่อสารสื่อประสาท และระบบเผาผลาญ รวมทั้งเป็นส่วนประกอบในเม็ดเลือดแดง
4. แคลอรีต่ำ
เมื่อเทียบกับวอลนัทและอัลมอนด์แล้ว เมล็ดแปะก๊วยถือเป็นอาหารที่มีแคลอรีไม่สูง เพราะเมล็ดแปะก๊วย 100 กรัม มีปริมาณแคลอรีอยู่ที่ 182 แคลอรี ทำให้สามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องกลัวอ้วน
5. รักษาโรคซึมเศร้า
จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จะมีสภาวะอารมณ์ที่ดีขึ้นเมื่อรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากใบแปะก๊วย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งก็มีจิตแพทย์จำนวนไม่น้อยที่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วย ร่วมกับการรับประทานยาเพื่อรักษาอาการ แต่สารสกัดนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าหากใช้กับผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี จะให้ผลดีเทียบเท่ากับผู้ป่วยในวัยสูงอายุหรือไม่
6. เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ
ในรายที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยสามารถช่วยได้ เพราะสารสกัดนี้จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น แก้ไขปัญหาเลือดไหลเวียนในบริเวณอวัยวะเพศไม่สะดวก โดยจากการศึกษาหนึ่งพบว่าการรับประทานสารสกัดจากแปะก๊วยเป็นประจำติดต่อกัน 6 เดือน สามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้มากถึง 50%
7. รักษาโรคเรย์นาร์ด
โรคเรย์นาร์ดเกิดจากภาวะเส้นเลือดที่ปลายมือตีบตัน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก โดยสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ด้วยการรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วย ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ปลายมือได้สะดวก ลดปลายมือชา หรือเขียวคล้ำเมื่อสัมผัสกับความเย็น
8. รักษาอาการเบาหวานขึ้นตา
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาการเบาหวานขึ้นตานั้นส่งผลให้การมองเห็นแย่ลง เนื่องจากน้ำตาลในเลือดนั้นเข้าไปทำลายหลอดเลือดภายในดวงตา ซึ่งการรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยจะช่วยให้การมองเห็นสีสันของผู้ป่วยเบาหวานดีขึ้น
9.บรรเทาอาการของโรคพาร์กินสัน
ภาวะการขาดฮอร์โมนโดพามีน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการสั่นและการสูญเสียความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากโรคพาร์กินสัน โดยสารสกัดจากแปะก๊วยนั้นจะเข้าไปช่วยเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดในสมอง ทำให้ร่างกายสามารถผลิตฮอร์โมนโดพามีนได้มากขึ้น และนำส่งไปยังอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้อย่างเพียงพอ
10. รักษาอาการก่อนมีประจำเดือนของผู้หญิง
กลุ่มอาการ PMS หรืออาการก่อนมีประจำเดือน เป็นอาการที่สาวๆ เท่านั้นที่รู้ดีที่สุด โดยสารสกัดจากแปะก๊วยนั้นสามารถบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก และคัดเต้านมที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือนได้ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะความแปรปรวนของฮอร์โมนในร่างกายช่วงก่อนมีประจำเดือนได้ด้วย
นอกจากนี้ ในแพทย์แผนจีนยังมีการนำเมล็ดแปะก๊วยมาใช้ เพราะเชื่อว่าเมล็ดแปะก๊วยมีฤทธิ์ร้อนช่วยในการบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ สามารถช่วยรักษาโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และโรคระบบทางเดินปัสสาวะ แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการใช้ในปริมาณมากนั้นอาจะได้รับผลเสียที่อันตรายแทนได้
ข้อควรระวัง
แม้แปะก๊วยจะมีประโยชน์และสรรพคุณทางยาหลายด้าน แต่แปะก๊วยไม่ได้มีแต่ประโยชน์ ในบางประเทศจัดให้แปะก๊วยเป้นยาอันตราย ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้นจึงจะซื้อมาทานได้ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าแป๊ะก๊วยนั้นสามารถส่งผลเสียให้กับร่างกายได้ เช่น ปวดศีรษะ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน กระสับกระส่าย หรือมีอาการแพ้ที่บริเวณผิวหนัง
อีกหนึ่งข้อควรระมัดระวัง คือ สารบางชนิดในใบแปะก๊วย อาจไปรบกวนการทำงานของเกล็ดเลือด โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด หากรับประทานสารสกัดจากแปะก๊วยอาจทำให้เลือดไม่สามารถเกาะตัวกันได้ตามปกติ
นอกจากนี้ สตรีมีครรภ์หรือผู้มีประวัติการชักมาก่อน ไม่ควรรับประทานโดยเด็ดขาด รวมไปถึงผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดแต่รับประทานสารสกัดใบแปะก๊วยอยู่เป็นประจำก็ควรหยุดรับประทานก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเลือดแข็งตัวช้า
ข้อกำหนดการใช้สารสกัดใบแปะก๊วย
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ระบุข้อกำหนดในการใช้สารสกัดจากใบแปะก๊วย ไว้ดังนี้
1. ในการใช้สารสกัดแปะก๊วยเป็นยาแผนปัจจุบัน จะต้องมีข้อบ่งใช้สำหรับผู้ที่เป็นโรคเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ รวมทั้งโรคของหลอดเลือดในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนังผิดปกติ โดยให้รับประทาน 40 มิลลิกรัม วันละ 3-4 เม็ด
2. ในการใช้สารสกัดแปะก๊วยเป็นยาแผนโบราณ ให้ขึ้นทะเบียนในลักษณะผสมกับสมุนไพรตัวอื่นๆ ว่ามีสรรพคุณบำรุงร่างกาย และอนุญาตสรรพคุณของตำรับเป็นยาบำรุงร่างกาย
3. ในการใช้สารสกัดแปะก๊วย เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จะต้องได้รับใบสำคัญการใช้ฉลากอาหาร โดยอนุญาตเฉพาะที่มีขนาดรับประทานไม่เกินวันละ 120 มิลลิกรัม และจะต้องไม่ระบุสรรพคุณใดๆ ในการบำบัดรักษาโรคเลย
ทั้งนี้ สารสกัดจากใบแปะก๊วยจัดเป็นยาอันตราย ต้องขายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบัน และไม่ให้มีการโฆษณาสรรพคุณต่อสาธารณะ
ที่มา : kapook
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี