ในยุคที่คลินิกเสริมความงามเปิดขึ้นเป็นดอกเห็ดมีทั้งแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ ขยายสาขากันทุกมุมเมือง โปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันสารพัด ใครที่แข็งแกร่งที่สุดจึงจะอยู่รอดในธุรกิจนี้ แต่สำหรับ หมอแจง-แพทย์หญิงปิยวดี จิตะสมบัติที่เป็นทั้งผู้บริหาร และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหนึ่งเดียวประจำ Sincere Beauty Clinic บอกว่า โปรโมชั่นใดๆ ก็ประสบความสำเร็จได้ไม่เท่ากับ “ความจริงใจ” เพราะเธอได้พิสูจน์แล้วตลอด 12 ปีที่ให้การดูแลรักษาคนไข้
หมอแจง เล่าว่า แต่เดิมไม่ได้ตั้งใจจะเปิดคลินิกเสริมความงาม แต่หลังเรียนจบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง มีเพื่อนมาชวนเข้าหุ้นเปิดคลินิกแห่งแรก แต่ก็มีความคิดเห็นต่างกันในด้านการทำธุรกิจ จึงทำให้ต้องปิดตัวลง แต่ด้วยความที่คุณหมอมีลูกค้าติดใจในการบริการอยู่แล้ว และไม่อยากทิ้งให้ลูกค้าที่น่ารักต้องเคว้ง คุณหมอได้ตัดสินใจเปิดคลินิกเป็นของตัวเองชื่อว่า Sincere Beauty Clinic ขึ้น
“ชื่อนี้ผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่งตั้งให้ มีที่มาจากภาษาจีน พ้องเสียงกับ Sincere ในภาษาอังกฤษพอดี และมีความหมายเดียวกัน คือ ความซื่อสัตย์ จริงใจ ซึ่งชื่อนี้สื่อถึงความเป็นตัวแจงเองด้วย ในการเปิดคลินิกแจงดูแลบริหารด้วยตัวเอง ลูกค้าที่มาแจงให้บริการด้วยตัวเองหมด ไม่มีหมอจากข้างนอก เป็นอย่างนี้มาสิบปี ลูกค้าคนไหนควรต้องดูแลอย่างไร อะไรควรทำไม่ควรทำ ดีไม่ดี แจงจะบอกกับลูกค้าตรงๆ ไม่มียัดเยียดขายคอร์สอะไรทั้งสิ้น ซึ่งคิดว่าตรงนี้แหละที่ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ และส่วนใหญ่มากันเป็นครอบครัว”
ทุกวันนี้ หมอแจง ทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ มีลูกค้ารอคิวทำสวยแน่นเอียด แต่คุณหมอคนสวยก็ยังไม่คิดขยายสาขา หรือรับแพทย์เพิ่ม ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการควบคุมคุณภาพการให้บริการ แต่นอกเหนือจากนั้นที่ หมอแจง ยอมเหนื่อย ด้วยเหตุผลสำคัญคือ...
“ถามว่าเหนื่อยไหม เพราะทั้งรักษาคนไข้และบริหารเอง ก็ต้องบอกตามตรงว่าเหนื่อยมาก แต่แจงยอมเหนื่อย เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาหา มีผิวพรรณ รูปร่างที่ดี ได้รับบริการเป็นเลิศ ในราคาที่ไม่โอเวอร์ มีความสุขกลับไป ตัวแจงเองก็รู้สึกว่าการที่เราได้ทำให้คนอื่นสวยและมีความสุข ก็เป็นกุศลอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน และแจงก็เป็นกังวลว่าถ้าเรารับหมอมาเพิ่ม เขาจะให้บริการกับลูกค้าอย่างไร หรือถ้าขยายสาขาแล้วมันควบคุมคุณภาพได้ยาก คือถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับซินเซีย แจงก็อยากให้มันเกิดจากตัวแจงเองดีกว่า เพราะแจงมั่นใจว่าแจงดูแลลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ จริงใจ ดูแลเหมือนเป็นคนในครอบครัว อย่างดีที่สุดแล้ว”
แต่ถึงจะเหนื่อยอย่างไรหมอแจง ก็ยังไม่หยุดนิ่งไม่เพียงแต่คลินิกเสริมความงามเท่านั้น ล่าสุดเธอยังเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ภายใต้ชื่อ REME BY SINCERE (เรมี่ บาย ซินเซีย) เกิดจากแรงบันดาลใจที่อยากเห็นสาวไทยได้ใช้เครื่องสำอางคุณภาพดีและมีสีสันในแบบฉบับสาวยุคใหม่ ที่คัดสรรวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอางคุณภาพแบบเดียวกันกับเคาน์เตอร์แบรนด์ คิดค้นแบบสีที่เหมาะกับสาวไทย ปัจจุบันลิปสติกของ REME มีหลากหลายเนื้อ ทั้งเนื้อแมท เนื้อเจล เนื้อกลอส และมีกว่า 80 สีให้สาวๆ ได้เลือกเปลี่ยนสีสันตามสไตล์ที่ตนเองชอบ
“เพราะเป็นหมอผิวหนัง ก็จะได้เจอคนไข้ที่แพ้เครื่องสำอางเป็นประจำ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรใหญ่โต ลิปสติกก็มีอยู่ไม่กี่สี แต่พอทำๆ ไป เราก็ชอบแต่งหน้าด้วย รู้สึกว่าสีลิปสติกที่มีมันน้อยไป ยังไม่ถูกใจ ทำไปทำมามีถึง 80 สี ปรากฏว่าลูกค้าชอบ เพราะเขารู้สึกว่ามีให้เลือกเยอะ แต่สำคัญที่สุดเขามั่นใจคุณภาพ เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวหมอแจงอยู่แล้ว ว่าต้องเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้เขาได้สนุกกับการดูแลผิวและแต่งหน้า มันก็เลยต้องทำจริงจังเป็นเรื่องราว ตอนนี้ก็จะเปิดตัวกับสื่อออนไลน์มากขึ้น”
เป็นคุณหมอสุดแอ๊กทีฟ ที่ขยันทำงาน สร้างสรรค์โปรเจกท์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา และจากการพูดคุยเราสัมผัสได้ถึงความเป็นคนจริงใจและสนุกสนานร่าเริง
“แจงเป็นคนชอบทำงาน เหนื่อยก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้ทำงาน ซึ่งในการทำงานมันต้องมีปัญหา มีอุปสรรค มีเรื่องเครียดๆ เข้ามาอยู่แล้ว แต่วิธีจัดการของแจงคือ แต่งตัวให้สวยเข้าไว้ ทำตัวให้สนุกสนาน ทำจิตใจให้แจ่มใส แค่นี้แจงก็ไม่หวั่นที่จะรับมือกับปัญหา ยิ่งเราเป็นหมอด้านความสวยความงาม ลูกค้ามาเจอหน้าหมอคิ้วขมวด ก็คงไม่มีใครกล้ามาใช้บริการแน่ๆ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณประสบการณ์ชีวิตที่สอนให้เรารู้จักวิธีจัดการปัญหา อีกอย่างแจงชอบอ่านหนังสือพวกปรัชญา ศาสนา ถ้ามีโอกาสก็ไปปฏิบัติธรรม หรือนั่งสมาธิอยู่ที่บ้านก็ช่วยให้จิตใจเราเข้มแข็ง ทำให้เรามองทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความจริง อย่างเรื่องธุรกิจ แจงก็คิดว่าจะทำเท่าที่ทำไหว ถ้าวันหนึ่งรู้สึกว่าเราเหนื่อยหรือทำงานไม่ไหว ก็คงจะหยุด แต่ไม่ขายต่อ เพราะกลัวว่าคนที่ทำต่อจากเราจะทำได้ไม่ดีเท่าเรา”
ใครที่มีปัญหาผิวพรรณ และรูปร่าง อยากได้คำปรึกษาดีๆ และมีความจริงใจก็ลองไปหาหมอแจงได้ที่ Sincere Beauty Clinic ซอยสุขุมวิท 53 กันได้เลยนะคะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี