Birth of Venus
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า วีนัสเทพีแห่งความงาม ความรัก ความปรารถนา และความมั่งคั่งนี้เป็นเทพีที่สวยที่สุดในโลก ศิลปินทุกยุคทุกสมัยจึงชื่นชอบที่จะสร้างสรรค์วีนัสเพื่อพิสูจน์ฝีมือ ส่วนวีนัสที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในโลกคงไม่มีภาพใดเกิน Birth of Venus ของ Sandro Botticelli ที่นักท่องเที่ยวต้องต่อคิวยาวบางครั้งกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อซื้อตั๋วเข้าไปชมใน Uffizi ฟลอเรนซ์ และยังต่อคิวยาวร่วมชั่วโมงเพื่อจะได้มีโอกาสชื่นชมภาพนี้
Birth of Venus ผลงานชิ้นเอกของศิลปินผู้นี้ถูกเขียนขึ้นบนผืนผ้าใบโดยคำสั่งของ Lorenzo di Pierfrancesco ราวปี 1484
ภาพวีนัสเทพีแห่งความรักเปลือยกายยืนอยู่บนฝาหอยที่วางอยู่พื้นดินราวกับเพิ่งโผล่ออกมาจากน้ำทะเลนี้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของตำนานกรีกโบราณในบริบทของวงการศิลปะยุคเรอเนสซองส์อย่างเด่นชัด ภาพวีนัสที่เป็นภาพเปลือยเต็มตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนจักรชิ้นแรกของยุคคลาสสิกนี้ถูกยืมเหตุการณ์มาจากตอนที่วีนัสถูกเป่าโดย Zephyrus เทพเจ้าแห่งลมมาขึ้นเกาะที่ Paphos ในไซปรัส ในขณะที่ Hora เทพเจ้าแห่งฤดูใบไม้ผลิยืนรออยู่บนฝั่งเพื่อหยิบยื่นผ้าไว้คลุมกายอันเปลือยเปล่าของวีนัส แม้สายตาของวีนัสจะดูเศร้าสร้อย แต่ท่าทางและผิวเนื้อที่เรียบเนียนอมชมพู ร่วมกับผมยาวเหยียดหยิกเป็นลอนราวไหมกลับสะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของนางราวกับงานประติมากรรมกรีกชั้นเยี่ยม เมื่อวีนัสเกิดมาเพื่อเป็นเทพีแห่งความงาม และผู้ชมกำลังเป็นประจักษ์พยานของการสร้างที่สมบูรณ์แบบเยี่ยงนี้ เราจึงได้เห็นท่วงท่าในขณะที่วีนัสกำลังจะเยื้องย่างออกจากฝาหอยเชลล์โดยมีลมพัดดอกกุหลาบซึ่งตามตำนานกรีกนั้นกุหลาบออกดอกครั้งแรกตอนวีนัสเกิดอาบรอบตัวของเธอ ขณะเดียวกันส้มบนต้นก็ออกลูกเป็นสีทองสวยงาม
Venus
พลาโต นักปรัชญาชาวกรีกเห็นว่าวีนัสเป็นเทพีแห่งความรักที่สร้างแรงบันดาลใจแห่งความรักทางด้านร่างกาย และยังเป็นเทพีแห่งท้องฟ้าที่สร้างแรงบันดาลใจแห่งความรักทางปัญญาด้วย นั่นหมายความว่าความสวยงามทางกายภาพสามารถกระตุ้นจิตใจให้เข้าใจความงามทางด้านจิตใจได้ด้วย เนื่องจากภาพนี้ถูกเชื่อว่าศิลปินถูกว่าจ้างให้เขียนขึ้นเพื่อเป็นของขวัญในงานแต่งงานของ Lorenzo the Magnificat การเขียนภาพจึงถูกตีความถึงความรักของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวได้อย่างลงตัว นอกจากนี้นักวิจารณ์ศิลป์บางคนยังเชื่อว่า ภาพวีนัสนี้ศิลปินเขียนถึง Simonetta Cattaneo Vespucci ภรรยาลับของทั้ง Giuliano de’ Medici และตัว Lorenzo ซึ่งเธอเกิดที่เมืองชายฝั่ง Portovenereหรือ Port of Venus แต่หากตีความตามแนวคิดของคริสเตียนแล้ว ความเปลือยเปล่าของวีนัสสะท้อนให้เห็นถึงเอวาในสวนของอีเดน และการถือกำเนิดขึ้นของวีนัสจากทะเลก็เหมือนกับพระนางมารีให้กำเนิดพระคริสต์ อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์ภาพบางคนกลับเปรียบเทียบภาพนี้กับช่วงเวลาในการบาติสมาพระเยซูอันเป็นช่วงเวลาที่พระองค์นำความรักของพระเจ้ามาสู่
มวลมนุษย์
แม้ Botticelli จะอยู่ในยุคเดียวกันกับ Andrea Mantegna แต่เขากลับมีวิธีการวาดรูปร่างของวีนัสแตกต่างกับศิลปินในยุคเดียวกัน นั่นคือ เขาจะวาดให้เรือนร่าง บริเวณคอ และมือของวีนัสออกแนวยาวๆ ดูเลื่อนลอยราวกับไม่มีน้ำหนักและตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงตามแบบศิลปะไบเซนไทน์
Detail
แม้สุภาษิตจะมีว่า Beauty is in the eye of the beholder หรือความสวยงามขึ้นกับสายตาของผู้ชม แต่หลังจากที่นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสชื่นชมวีนัสที่มีความวิจิตรบรรจงและน่าหลงใหลนี้เรียบร้อย คงไม่มีใครสงสัยว่าเหตุใดภาพนี้จึงเป็น Masterpiece of all time และวีนัสของ Botticelli จึงเป็นวีนัสที่สวยที่สุดในโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี