สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง จังหวัดเชียงราย เป็นสวนไม้ดอกและสวนป่าที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สวนแม่ฟ้าหลวงอยู่ในเขตพระตำหนักดอยตุง พระตำหนักทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่คนไทยภูเขาถวายพระนามว่า แม่ฟ้าหลวง สวนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระตำหนัก เป็นสวนไม้ดอกเมืองหนาวที่มีพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดให้ชมตลอดปี แต่ส่วนมากผู้คนมักนิยมไปชมสวนนี้ในช่วงหน้าหนาว เพราะจะได้ชมความงามและความหลากสีสันของดอกไม้แสนสวยจากเมืองหนาว อาทิ พิทูเนียบีโกเนีย ซัลเวีย แมกโนเลีย กุหลาบ ลิ้นมังกร หงอนไก่ บาซูก้า พวงคราม รักเร่ ดอกลำโพง และดอกไม้สวยๆ อีกสารพัดชนิดที่จำชื่อได้ไม่หมด
แต่มิใช่ว่าสวนแม่ฟ้าหลวงจะมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมเฉพาะในยามหน้าหนาวเท่านั้น แต่ต้องยืนยันว่าดอกไม้ที่สวนนี้สวยงามทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนหรือหน้าฝน เพราะพันธุ์ไม้ดอกในสวนจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ที่มีให้ชมตลอดปีก็คือกล้วยไม้ และบานชื่น
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้ประวัติความเป็นมาของพื้นที่แห่งนี้ก่อนที่จะสร้างพระตำหนักดอยตุง สวนป่าและสวนไม้ดอกแสนสวยรอบๆ ดอยตุงแห่งนี้ ในอดีตคือป่าหัวโล้น และไร่ฝิ่น รวมถึงยังเป็นเส้นทางลำเลียงฝิ่น เฮโรอีน และอาวุธสงคราม บนเทือกเขาของดอยนางนอน ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยประมาณ 1,200 เมตร
แต่ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จย่า แม่ฟ้าหลวงที่ทรงตั้งพระทัยจะพลิกฟื้นเขาหัวโล้นแห่งนี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ชาวไทยภูเขาที่อยู่อาศัยในเขตทุรกันดารแห่งนี้ได้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม มีอาชีพทำกินที่มั่นคง ดังนั้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2530 จึงได้มีการเริ่มก่อสร้างพระตำหนักดอยตุง ซึ่งสมเด็จย่าทรงตั้งพระทัยไว้ว่า เมื่อทรงมีพระชนมายุเกิน 90 พรรษาจะไม่เสด็จไปประทับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีก เนื่องจากทรงพระชรามาก การเสด็จพระราชดำเนินไปในต่างประเทศจะเป็นเรื่องยุ่งยากและลำบาก ดังนั้นเมื่อทรงมีพระชนมายุ 88 พรรษา ในปี 2530 ได้มีผู้ทูลเกล้าฯ เสนอที่บนดอยตุงให้ทรงพิจารณา เมื่อทรงเห็นที่แห่งนี้แล้วจึงตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระตำหนักดอยตุง ซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่าบ้านดอยตุง และทรงมีรับสั่งว่าจะปลูกป่าบนดอยสูงแห่งนี้
จากนั้นก็ได้มีกำเนิดโครงการพัฒนาดอยตุงขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ มากมาย อาทิ กรมชลประทาน กรมป่าไม้ และหน่วยงานด้านกรมการปกครอง รวมถึงทหารและตำรวจ แล้วโครงการพัฒนาดอยตุงก็สามารถพลิกฟื้นคืนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ได้สำเร็จหลังจากดำเนินกิจการไปได้ระยะเวลาหนึ่ง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ บริเวณดอยตุงและเขตป่ารอบๆ ดอยตุงก็มีสภาพสมบูรณ์และงดงามดังปรากฏ ชาวไทยภูเขา (ประกอบด้วย เผ่าอาข่าลาหู่ ไทยใหญ่ จีนฮ่อ) ที่เคยทุกข์ยากแห้งแล้งกันดารก็มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง มีรายได้มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลูกหลานได้เรียนหนังสือ และส่วนใหญ่ก็ทำงานกับโครงการพัฒนาดอยตุง ด้วยเหตุนี้เองชาวไทยภูเขาเหล่านี้จึงรักและเทิดทูนสมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวงอย่างสุดชีวิต
อันที่จริงเมื่อเวลาไปเยี่ยมชมพระตำหนักดอยตุง เราก็มักจะไปชม สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจ สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง (สวนกุหลาบพันปี)
แต่วันนี้ ในบริเวณสวนแม่ฟ้าหลวงมีของน่าสนใจสิ่งใหม่ให้คุณได้สัมผัส นั่นคือ ดอยตุง tree top way หรือ ทางเดินเรือนยอดไม้ ทางเดินชมป่า ชมไร่กาแฟ ชมไร่ชา และชมพันธุ์ไม้นานาชนิด รวมถึงชมทิวทัศน์ดอยช้างมูบ ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่1 สิงหาคม ปีนี้
ทางเดินเรือนยอดไม้นี้มีความสูงตั้งแต่ 30 เมตรไปจนถึงสูงสุดประมาณ 60 เมตร ยาวประมาณ 300 เมตร แบ่งเป็น 6 ช่วงทางเดิน ซึ่งมีความสูงลดหลั่นกันไป แต่ขอรับรองความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผ่านการตรวจสอบที่ทำให้ผู้เดินบนทางเดินนี้มั่นใจได้เต็มที่ การเดินชมธรรมชาติบนทางเดินเรือนยอดไม้นี้จะให้ความรู้สึกและสัมผัสที่แตกต่างกันไป เพราะบางวันจะได้เดินชมธรรมชาติได้ไกลสุดลูกตา โดยเฉพาะในวันที่ฟ้าใสอากาศดี แต่หากเป็นช่วงที่เมฆลอยตัวลงต่ำ(เช่นวันที่ผมไปชมมา) ก็จะได้เดินท่ามกลางก้อนเมฆ ได้สัมผัสความเย็นของละอองน้ำจากก้อนเมฆ ซึ่งอาจจะมองเห็นทิวทัศน์ได้ไม่ไกลนัก หรือบางวันก็มีหมอกขาวลอยรอบๆ ตัวบนทางเดิน เรียกได้ว่ามีบรรยากาศแตกต่างกันไปตามแต่สภาพอากาศจะ
เอื้ออำนวย (แต่หากมีฝนตกหนัก มีลมพายุ จะไม่อนุญาตให้เดินบนทางเดินนี้)
ค่าบริการสำหรับทางเดินเรือนยอดไม้คือ150 บาทต่อคน ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี หรือผู้ที่มีความสูงน้อยกว่า 120 เซนติเมตร ร่วมกิจกรรมนี้แต่ละรอบจะเปิดให้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 12-13 คน ให้บริการทุกๆ 30 นาที เริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 17.00 น.
คุณๆ อยากไปเที่ยวดอยตุง ไปชมพระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง หอแห่งแรงบันดาลใจและสวนกุหลาบพันปี แล้วไปนอนที่บ้านบนดอยสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกับ Mr.Flowerและกลุ่มผู้อ่านแนวหน้าไหมครับ หากสนใจโปรดโทรศัพท์ติดต่อหมายเลข 091-7233615 คณะของเราจะเดินทางด้วยกันเพียง 20 คน ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี