ครั้งหนึ่งเธอคนนี้เคยเป็นแขกของเราในฐานะ “นักธุรกิจการโรงแรมหน้าใหม่” แต่วันนี้ ลิลลี่-วรีรัตน์ อุดมคุณธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุราส่าหรี กรุ๊ป จำกัด ไม่ใช่หน้าใหม่แต่เป็น “ตัวจริงแถวหน้า” ที่เติบโตอย่างแข็งแรง เธอมาเยือน “แนวหน้าสุดสัปดาห์” อีกครั้งเพื่ออัพเดทโปรเจกท์สำคัญที่เธอรักไม่แพ้การบริหารโรงแรมนั่นคือ “สปาบุราส่าหรี” ที่เธอตั้งใจให้เป็นสถานที่พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า เติมเต็มพลังกายพลังใจได้ทุกๆ วัน

“สปาบุราส่าหรี เกิดมาพร้อมๆ กับการทำธุรกิจโรงแรมเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะใช้แบรนด์อื่นเข้ามาให้บริการลูกค้าดีไหม แต่คิดไปคิดมาตัดสินใจทำเองดีกว่า เพื่อที่เราจะได้ควบคุมทุกอย่างได้เต็มที่”

ผู้บริหารสาวคนเก่ง บอกว่า เธอลงมือดูแลเองทุกขั้นตอน โดยใช้ประสบการณ์การไปใช้บริการสปาทั้งจากโรงแรมหรูทั่วโลก และเดย์สปาทั่วๆ ไป ซึ่งเธอรู้สึกว่ายังไม่มีสปาแห่งใดตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง

“ระยะเวลาทำสปาทั่วๆ ไป จะใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง ยังไม่ทันรู้สึกว่าจะได้พักจริงๆ เลย บางคนอาจจะเคลิ้มหลับไม่ทันไรก็นวดเสร็จแล้ว ลี่เลยมาศึกษาว่า สปามันไม่ใช่แค่การนวดน้ำมัน แต่มันยังมีผลต่อระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะต่อมน้ำเหลือง เพราะการนวดแรงกดไปที่จุดต่างๆ จะไปช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น จึงได้มีการพัฒนาท่านวดผสมผสานกับศาสตร์การนวดหลายๆ แขนง และคิดค้นสูตรทรีทเม้นท์ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เช่น ถ้าลูกค้ามีปัญหานอนไม่หลับ ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนคู่กับการนวดแบบใดที่จะทำให้ลูกค้าได้พักผ่อนทั้งตอนที่อยูในห้องสปา และกลับไปแล้วช่วยให้เขานอนหลับได้สนิท รวมถึงการให้บริการจะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายได้เร็วขึ้น พอขึ้นเตียงนวดลูกค้าสามารถหลับลึกได้ภายใน 10 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้ลี่ทดลองมาด้วยตนเองว่าได้ผลจริงไหม ก่อนที่จะนำมาให้บริการลูกค้า”

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ใน สปาบุราส่าหรีเธอก็ล้วนคัดสรรมาเป็นอย่างดีบนพื้นฐานที่จะต้องได้มาจากสารสกัดธรรมชาติ ที่ปลอดภัยและดีต่อผิวพรรณ รวมถึงนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และที่สำคัญ “เทอราปิส” ผู้ให้บริการที่ต้องมีทักษะมาตรฐานเป็นอย่างดี

“การทำงานบริการ คนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เทอราปิสจะแตกต่างจากพนักงานบริการทั่วๆ ไป อย่างพนักงานโรงแรมเขาไม่ต้องสัมผัสถูกเนื้อต้องตัวลูกค้า วันนั้นอาจจะอารมณ์ไม่ดี แต่หน้ายิ้มได้ ลูกค้าไม่รู้ แต่เทอราปิสถ้าวันนั้นอารมณ์ไม่ดีมาแล้ว ต้องมาให้บริการลูกค้า ทุกอย่างมันสื่อผ่านแรงที่กดลงไปบนร่างกายของลูกค้าได้ ดังนั้น อารมณ์เป็นสิ่งสำคัญที่เทอราปิสเองต้องรู้ว่าจะจัดการอย่างไรในส่วนทักษะความเชี่ยวชาญในการนวดเป็นอีกสิ่งที่ลี่ให้ความสำคัญ ตั้งแต่เปิดบริการ สปาบุราส่าหรี มาสิบกว่าปี ลี่ยอมขาดรายได้จากสปาปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 14 วัน เพื่อส่งเทอราปิสไปอบรมเทรนการนวดโดยเฉพาะ เพราะว่าการนวดมันก็มีอะไรใหม่ๆ เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะมาใช้บริการเมื่อไหร่มาตรฐานการให้บริการของเราจะไม่มีตกมีแต่ดีขึ้นเรื่อยๆ”

ทรีทเม้นท์ที่ถือเป็นซิกเนอร์เจอร์ของสปาบุราส่าหรีอาทิ Burasari Signature Massage ด้วยเทคนิคการนวดที่คิดค้นขึ้นใหม่ โดยผสมผสานเทคนิคการนวดแบบสวีดิช Lomi และนวดไทยเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการนวดแบบ Medium to Strong ที่สามารถนวดได้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และเป็นทรีทเม้นท์ที่ขายดีที่สุด, Detox Massage ด้วยเทคนิคการนวดอย่างเชื่องช้าเน้นจุดสำคัญต่างๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและเป็นประสบการณ์การนวดที่น่าทึ่ง หรือจะเป็น Stress Relief Back Therapy การนวดที่เน้นบำบัดความเครียด ตึง ของกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ และคอ ซึ่งจะช่วยให้ผ่อนคลายและเพลิดเพลิน

“ลี่เชื่อว่าทุกคนจะมองว่าสปาในโรงแรมจะต้องราคาสูง ส่วนใหญ่จะต้องเป็นชาวต่างชาติ ถึงจะมาใช้บริการสปาในโรงเรม แต่ลี่อยากให้คนไทยได้ใช้บริการสปาดีๆ ในโรงแรมห้าดาวก็จริงแต่เป็นราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้บริการได้บ่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพราะทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดี งานก็หนัก รถก็ติด การได้ผ่อนคลายด้วยการทำสปามันได้ทั้งการผ่อนคลาย ความสดชื่น ได้พักผ่อนและยังดีต่อสุขภาพด้วย ที่สปาบุราส่าหรีราคาทรีทเม้นท์เริ่มต้นที่ 1,500 บาทเท่านั้นเองแต่ทั้งผลิตภัณฑ์การบริการก็ยังเป็นลักชัวรี่สปาแบบโรงแรมห้าดาวค่ะ”

ปัจจุบัน สปาบุราส่าหรี เปิดให้บริการที่โรงแรมบุราส่าหรี ป่าตอง ภูเก็ต โรงแรมบุราส่าหรี เฮอริเทจหลวงพระบาง ประเทศลาว, โรงแรมเซี่ยงไฮ้ แมนชั่น เยาวราช กรุงเทพฯ และล่าสุด โรงแรมอโนมา แกรนด์ ราชประสงค์กรุงเทพฯ ซึ่งสปาบุราส่าหรี โรงแรมบุราส่าหรี ป่าตอง ภูเก็ต ได้รับรางวัล Spa Awards winning 2016 : World Luxury Spa Awards ไม่เท่านั้นที่สปาบุราสาหรี่ ป่าตอง ภูเก็ต และ หลวงพระบาง ยังติดหนึ่งในสามคำค้นหาของ Tripadvisor อีกด้วย

“สำหรับรางวัลที่ได้ ลี่เองก็ไม่ได้หวังเพราะไม่ได้ส่งเข้าประกวด แต่ทางเจ้าของรางวัลมาเชิญให้เรานำสปาบุราส่าหรี ป่าตอง ภูเก็ตเข้าประกวด ก็ส่งไปแล้วก็ได้มาแต่สำหรับปีหน้าลี่ตั้งใจจะส่งสปาบุราส่าหรีทั้งหมดเข้าประกวด เพราะรางวัลนี้เป็นการตัดสินใจจากลูกค้าที่มาใช้บริการ และมีคณะกรรมการตัดสินมาให้คะแนนโดยที่เราไม่รู้ล่วงหน้า การที่ได้รับรางวัลนี้จึงเป็นสิ่งที่ลี่และพนักงานสปาภาคภูมิใจ เพราะเราไม่สามารถปลูกผักชีโรยหน้าได้เลย และยังการันตีด้วยว่าสปาไทยมีคุณภาพมาตรฐานสูงและหัวใจของการบริการเป็นเลิศไม่แพ้ใคร”