วิบูลย์ วงสกุล, สมชัย เตชะวณิช, ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช, จีรนันท์ วงษ์มงคล และ จัทรวงศ์ พะมิสิธ
“กาแฟอินทนิล” ร้านกาแฟสัญชาติไทยปิดให้บริการสาขาแรกในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เมื่อปี 2549 ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เพื่อเป็นเพื่อนร่วมทางให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศและได้รับความไว้วางใจมายาวนานตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี จนปัจจุบันมีจำนวนกว่า 450 สาขา ด้วยคุณลักษณะพิเศษของเมล็ดกาแฟออแกนิคที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และผ่านกระบวนการคั่วเมล็ดจนได้กาแฟรสชาติเยี่ยม ทำให้อินทนิลมีเอกลักษณ์เฉพาะถูกใจคอกาแฟ โดยเฉพาะ Arabica บริสุทธิ์ แบบ 100% ซึ่งเป็นกาแฟไทยคุณภาพที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศได้ ยิ่งไปกว่านั้นตลาดกาแฟในกลุ่มประเทศอาเซียนกำลังเติบโต และมีแนวโน้มเปิดรับกาแฟคุณภาพแบรนด์ไทย ดังนั้น กาแฟอินทนิล จึงพร้อมแล้วที่จะขยายตลาดออกไปสู่ต่างประเทศโดยเริ่มจากประเทศกัมพูชา และ ลาว
โอกาสนี้ ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการมอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ร้านกาแฟอินทนิลในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว ระหว่าง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด และบริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งพร้อมจะเปิดบริการแฟล็กชิพสโตร์ (Flagship Store) ณ กรุงพนมเปญ ภายในต้นปี 2561 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีผู้บริหารบางจากฯ และผู้มีเกียรติมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
วิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เผยว่า “การขยายตลาดร้านกาแฟอินทนิลออกไปสู่ต่างประเทศ ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ ซึ่งมีการขายสินค้าที่หลากหลายมากกว่าร้านกาแฟทั่วไป อาทิ อินทนิล บิสโทร สาขาแรกที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นอกจากกาแฟและเบเกอรี่แล้วยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งสลัด สปาเกตตี ไอศกรีม หรือ อินทนิล การ์เด้นที่จำหน่ายกาแฟออแกนิคอราบิก้า 100% ซึ่งเป็นกาแฟคุณภาพสูง รสนุ่ม มีกลิ่นหอม ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่รักกาแฟออแกนิคอย่างแท้จริง ทำให้ปัจจุบันอินทนิลเป็นผู้นำที่สำคัญของกาแฟออแกนิค ส่วนรูปแบบร้านกาแฟอินทนิลที่จะขยายในต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าในประเทศนั้นๆ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่จะขยายไปในกัมพูชาและสปป.ลาว จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน คือ “More than just a high quality coffee”
สำหรับตลาดกาแฟในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก เนื่องจากความนิยมในการบริโภคกาแฟของชาวกัมพูชาและสปป.ลาวมีอัตราเติบโตอย่างรวดเร็วบริษัท จึงได้มอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ให้กับ บริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด ทั้งในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว โดยมีแผนเปิดสาขาแรกที่เมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา และขยายสาขาแฟล็กชิพสโตร์ (Flagship Store)กลางกรุงพนมเปญ ภายในช่วงต้นปี 2561 ส่วนในสปป.ลาว จะเปิดภายในไตรมาส 3 ของปี 2561และขยายอีกกว่า 100 สาขาในทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่อไป
จีรนันท์ วงษ์มงคล ประธานกรรมการบริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์มาสเตอร์ แฟรนไชส์ (Master Franchise) ร้านกาแฟอินทนิล จาก บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของร้านกาแฟอินทนิลในประเทศไทยที่มีเอกลักษณ์ ประกอบกับชื่อเสียงของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ผู้บริหารบริษัทตัดสินใจขอรับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ร้านกาแฟอินทนิลไปขยายเครือข่ายในกัมพูชาและสปป.ลาว โดยปัจจุบันบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการพัฒนาระบบแฟรนไชส์ การทำการตลาด และการเตรียมการสร้างสถาบันการฝึกอบรมรองรับการพัฒนาบุคลากรให้มีมาตรฐาน พร้อมกับการพัฒนาแบรนด์ไทยให้มีความยั่งยืนและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว ให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้”
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี “อินทนิล” จึงเป็นกาแฟสัญชาติไทยที่พัฒนาศักยภาพ และพิสูจน์ให้เห็นทั้งเรื่องรสชาติและคุณภาพในระดับผู้นำตัวจริง!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี