แพทย์หญิงนิศารัตน์ สุนทราภา
ด้วยยุคสมัยและวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ผู้หญิงในปัจจุบัน มีภาวะความเป็นผู้นำสูง ทำงานคล่องแคล่ว มีความมั่นใจในทุกๆ ด้าน ดังนั้นผู้หญิงในยุคดิจิทัล จึงทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานและการใช้ชีวิต กิน เที่ยว ช็อป แบบสุดโต่ง จนแทบไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องการมีครอบครัวและการมีลูก มารู้ตัวอีกที “รถด่วนขบวนสุดท้ายก็ผ่านไปเสียแล้ว” ดังนั้น “สาวโสด”ยุคใหม่ทั้งหลาย จึงหันมานิยม “ฝากไข่” เพื่อรอว่าที่สามีในอนาคต และเพื่อการมีลูกเพราะเปรียบเสมือนการซื้อประกันสุขภาพ “แค่ซื้อไว้..ไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียหาย”
แพทย์หญิงนิศารัตน์ สุนทราภาผู้อำนวยการแพทย์ฝ่ายวิชาการ ศูนย์ซูพีเรียเอ.อาร์.ที. ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก และวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อน กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่จะทุ่มเทเวลาให้กับการทำงานการท่องเที่ยว และหวงแหนการใช้ชีวิตโสด จนลืมคิดเรื่องการมีครอบครัวและมีลูก ซึ่งในปัจจุบันพบว่า ผู้หญิงแต่งงานช้าลงจากเดิมมากเฉลี่ยอายุ 35 ปี ถึงจะยอมแต่งงานมีครอบครัว เมื่อแต่งงานช้า ความสมบูรณ์ของร่างกายก็จะค่อยๆ ลดลง ทำให้มี “ลูกยาก”ดังนั้นสาวโสดยุคใหม่จึงนิยมเลือกการ “ฝากไข่”เพื่อจะได้สามารถโฟกัสกับการทำงาน โดยไม่ต้องพะวงเรื่องภาวะมีบุตรยากในอนาคต เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ความสมบูรณ์ของ “ไข่” จะลดลงไปตามอายุด้วย โดยตั้งแต่แรกเกิดที่เราอยู่ในท้องแม่ จะมีไข่อยู่ในร่างกายประมาณ 6-7 ล้านใบ และปริมาณจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ตามอายุที่มากขึ้น แต่เมื่ออายุมากขึ้นความสมบูรณ์ของไข่และจำนวนของไข่ในร่างกายจะลดลงมาก หรือบางคนที่อายุมากขึ้นก็อาจจะมีไข่ตกบ้าง และไข่ไม่ตกบ้างในบางเดือน เพื่อลดปัญหาความกังวลต่างๆสาวโสดจึงเลือก “วิธีฝากไข่” เปรียบเสมือนการซื้อประกันสุขภาพสำหรับอนาคต
แพทย์หญิงนิศารัตน์ กล่าวว่าการฝากไข่ (Egg Freezing) คือ การที่ผู้หญิงสามารถเก็บเซลล์สืบพันธุ์หรือที่เรียก “ไข่”โดยนำมาแช่แข็งเอาไว้ในอุณหภูมิที่เย็นจัด-196 องศาเซลเซียส ซึ่งการเก็บไข่จะสามารถเก็บได้ จำนวนไข่ที่เก็บได้ ขึ้นกับปริมาณไข่ต่อรอบเดือนที่มีอยู่ในผู้หญิงของแต่ละคนโดยเฉลี่ย ประมาณ 10-15 ใบ แต่สำหรับผู้หญิงที่มีจำนวนไข่มาก อาจเก็บได้มากถึง 20-30 ใบได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกายแต่ละคน อายุการเก็บอยู่ที่ 5-6 ปี สำหรับเหตุผลในการ “ฝากไข่” สาวๆ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้เพื่อมีลูกในอนาคต เพราะเมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น ความสมบูรณ์ของไข่ทั้งจำนวน และโอกาสได้ไข่ที่มีโครโมโซมผิดปกติมากขึ้น
จะทำให้มีปัญหาเรื่องการมีลูกยากตามมา หรือหากแต่งงานช้าแล้วตั้งครรภ์ตอนอายุมาก ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ตามมาอาทิ ความไม่สมบูรณ์ของโครโมโซม ที่เราพบบ่อยในเมืองไทย คือโครโมโซมคู่ที่ 21 จะทำให้ลูกที่เกิดมาเป็น “เด็กดาวน์ซินโดรม” ดังนั้นการ “ฝากไข่” จึงเป็นทางเลือกของผู้หญิงโสดที่ยังไม่พร้อมมีครอบครัว หรือมีครอบครัวแล้วแต่ยังไม่พร้อมมีลูก แทนที่จะปล่อยให้อายุล่วงเลยผ่านไป เพื่อรอวันที่พร้อม จนอายุมากขึ้น เราก็สามารถฝากหรือเก็บไข่ไว้ก่อนได้ โดยช่วงอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่ คือ อายุต่ำกว่า 35 ปี
เพื่อให้ได้ไข่ที่มีความสมบูรณ์ มีคุณภาพ และมีจำนวนที่เพียงพอต่อการฝากหรือทำในครั้งเดียว
แพทย์หญิงนิศารัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า ด้วยความที่ “ผู้หญิง” เก่งขึ้น มีความมั่นใจมีความเป็นผู้นำได้เท่าเทียมกับผู้ชาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่สาวๆ ยุคใหม่ จะแต่งงานช้าดังนั้นจึงอยากฝากถึงคุณสาวๆ ทั้งหลายว่าอย่ามัวแต่ทำงานจนลืมปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเพราะอายุที่มากขึ้น ความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ก็ตามมา ถ้าวางแผนอนาคตไว้แล้วว่าอยากมีครอบครัว อยากมีลูก “การฝากไข่” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ความเสี่ยงต่างๆ ลดลง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการมีลูกยาก หรือมีลูกเป็นดาวน์ซินโดรม เพราะการฝากไข่ไม่ใช่แค่สาวโสดเท่านั้นที่ทำได้ แต่ในกรณีของคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง อาทิ โรคมะเร็งก็สามารถทำการฝากไข่ได้เช่นกัน เนื่องจากกระบวนการรักษา การให้คีโมและการฉายแสงจะส่งผลไปทำลายไข่ ทำให้ “ไข่ฝ่อ” หรือไม่สมบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี