การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทย จัดทริป media fam trip “Gourmet and Bledding Trip” นำทีมโดย อ.ช้าง-ทศพร ศรีตุลา พาคณะตะลุยไหว้พระขอพรวัดดังของมาเก๊า เมื่อวันที่ 11-14 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมสัมผัสศิลปะ วัฒนธรรมแห่งโลกตะวันออกที่โดดเด่นไปด้วยอารยธรรมยุโรป จากการเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสในคริสต์ศตวรรษที่ 16 นับเป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดแก่การเช็คอิน โดยวัดแรกเริ่มต้นเช็คอินกันที่ “วัดเปากง” ตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าแห่งเทพการแพทย์ เป็นที่สถิตของเปาบุ้นจิ้น เทพแห่งความยุติธรรม ผู้คนส่วนใหญ่มักจะมาสักการะขอพรเพื่อช่วยปัดเป่าผู้ที่มาปองร้าย หรือใครที่ทำธุรกิจเหมาะที่จะมาขอพรให้เทพเปากงช่วยดูแลในเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆ และสำหรับผู้ที่ตรงกับปีชงสามารถแก้ชงได้ที่หอเทพไท้ส่วยเอี๊ยที่มีอยู่ถึง 60 องค์เลยทีเดียวต่อกันด้วย “ศาลเจ้านาจา” นับเป็นอีกหนึ่งวัดที่ถ้าใครมามาเก๊าจะต้องแวะวนไปไหว้ขอพร เพราะตั้งอยู่หน้าแลนด์มาร์ก “ซากส์ประตูโบสถ์เซนต์ปอล” ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เหมาะแก่การขอลูกหลานไว้สืบสกุล หรือจะขอให้ตนเองมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ก็สามารถเดินทางไปเช็คอินที่นี่ได้เลย จากนั้นเดินทางไปกันที่ “วัดซำไกวุยคุน” เป็นวัดจีนเล็กๆ ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสเซนาโด้รายล้อมไปด้วยตึกและอาคารสไตล์ยุโรปด้านในมีศาลเจ้าตั้งอยู่ ผู้คนที่ค้าขายแถวนั้นนิยมมากราบไหว้ขอพรเกี่ยวกับการค้าขายสำหรับผู้ทำธุรกิจนั้นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมากราบไหว้ขอพร

และอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ความพิเศษอยู่ที่คณะได้เข้าร่วมพิธี “ขอเงินเจ้าแม่กวนอิม” ซึ่งหนึ่งปีมีครั้งเดียว ที่ “วัดเจ้าแม่กวนอิม” ถือได้ว่าเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ความพิเศษขององค์เจ้าแม่กวนอิมที่วัดแห่งนี้คือจะสวมเครื่องทรงอยู่ในชุดเจ้าสาวของจีนที่ได้รับการตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างดี และมีการปรับเปลี่ยนชุดที่สวมใส่อยู่ใหม่ในทุกปี โดยบริเวณด้านข้างจะรายล้อมไปด้วยรูปหล่อของเหล่า 18 อรหันต์ ซึ่งใครที่กำลังจะทำธุรกิจและอยากให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ก็ต้องขอพรแก่องค์เจ้าแม่กวนอิม เพื่อหยิบยืมเงินนำไปทำทุน ซึ่งภายในวัดจะมีจุดจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้อยู่ 4 แบบด้วยกันทั้งชุดเล็กชุดใหญ่ตามแต่กำลังศรัทธา ประกอบไปด้วยธูปเทียน เครื่องไหว้และปึกเงินสำหรับการหยิบยืมถ้าอยากจะให้หน้าที่การงานหรือธุรกิจเจริญรุ่งเรืองก็อย่าลืมมาเช็คอินกันที่วัดนี้ หลังจากอิ่มบุญกันที่วัดเจ้าแม่กวนอิมแล้ว มาต่อกันที่ “วัดลินฟง” วัดแห่งนี้มีด้านหน้าวัดที่งดงามที่ทำจากดินเหนียวที่แกะสลักอย่างประณีตแบบนูนต่ำ ซึ่งเป็นภาพวาดในประวัติศาสตร์และในตำนานมีสิงโตหินคอยปกป้องตรงทางเข้า ห้องโถงมีรูปปั้นเจ้าแม่ทับทิมบนโต๊ะบูชาขนาบข้างด้วยนายพลที่เป็นองครักษ์ เลยไปเป็นลานที่ตกแต่งด้วยภาพมังกรที่ม้วนตัวบนผนัง บ่อน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัวและเตาถ่านสัมฤทธิ์ที่สวยงาม ห้องโถงหลักเป็นห้องโถงสำหรับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมบนโต๊ะบูชาที่ตกแต่งอย่างประณีต วัดลินฟงเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในอดีตนานหลายศตวรรษที่ชาวจีนกลางจากมณฑลกวางตุ้งพักอาศัยเมื่อเดินทางมามาเก๊า เดินทางไปต่อที่ “วัดอาม่า” ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดวัดหนึ่งและเป็นที่มาของชื่อเมืองมาเก๊าแห่งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่อาม่า หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “เจ้าแม่ทับทิม” ที่ได้เดินทางมาถึงยังผืนแผ่นดินมาเก๊า ณ บริเวณหน้าวัดแห่งนี้ที่แต่เดิมนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งทะเล แต่ในปัจจุบันได้มีการถมที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ตัววัดนั้นร่นเข้ามาอยู่ในส่วนแผ่นดินแทน ภายในศาลานั้นเป็นที่ตั้งขององค์เจ้าแม่ทับทิม หรือก็คือองค์เทพธิดาแห่งท้องทะเล ผู้ปกปักรักษาพื้นน้ำและมหาสมุทร ผู้ที่ทำธุรกิจการค้าด้านการขนส่ง ควรมาสักการะเพื่อขอให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย ไม่มีอุปสรรคใดๆ ขวาง และมาเช็คอินที่สุดท้ายของทริปนี้ “ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม” ตั้งอยู่ที่ท่าเรือด้านนอก ยื่นออกไปทางทะเลเป็นระยะทาง 60 เมตร บริเวณ Outer Harbour ทางใต้ของฝั่งมาเก๊าเป็นรูปปั้นทองสำริดประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัวดูงดงามอ่อนช้อย สร้างขึ้นโดยโปรตุเกสในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน ภายในฐานรูปโดมเหมือนดอกบัวเป็นศูนย์ส่งเสริมศาสนาที่มีข้อมูลเกี่ยวกับพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื้อ มีความเชื่อกันว่าถ้าสามารถหาสัญลักษณ์ infinity หรือ เลข 8 ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 3 แห่งพบ จะทำให้มีโชคดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของมาเก๊า ซึ่งโดดเด่นมากจนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของมาเก๊า

นอกจากจะไหว้พระขอพรจนอิ่มบุญ อิ่มใจแล้ว ในมาเก๊ายังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไทปาฟู้ดสตรีท ถนนสายความอร่อยที่เต็มไปด้วยอาหาร ขนม และของฝากมากมาย หรือจะแวะไปเก็บภาพเก๋ๆ กันที่ถนนสายอาร์ทมีร้านตกแต่งแนวอาร์ทรวมทั้งพื้นถนน กำแพงเรียกได้ว่าเป็นย่านศิลปะที่มีหลากสีสันสดใสอีกด้วย