เมล่อน ผลผลิตจากเกษตรกรไทย จ.พระนครศรีอยุธยา
อากาศร้อนๆ ช่วงซัมเมอร์นี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้รับประทานผลไม้ตามฤดูกาลของเมืองไทย เพราะนอกจากจะช่วยดับร้อนแก้กระหายแล้ว ในผลไม้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำ 5 ผลไม้ฤดูร้อนที่ไม่ควรพลาด เพราะยิ่งรับประทานยิ่งได้รับสารอาหารและวิตามิน เสริมสร้างร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดชื่นเปล่งปลั่ง
พญ.สุจิตรา นภาธร ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ผิวหนัง เวชศาสตร์ชะลอวัยและเวชศาสตร์ครอบครัว เล่าว่า“ฤดูร้อนนี้การรับประทานผลไม้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยดับร้อน แก้กระหาย แทนการรับประทานน้ำแข็งไสหรือไอศกรีม วิธีการเลือกรับประทานผลไม้ ควรเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาล เพราะการออกผลจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ลดการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการออกผลของเกษตรกร ทำให้สารเคมีตกค้างในผลไม้มีน้อยลง และควรพิจารณาจากความสดสะอาด ดูแหล่งที่มาและวิธีการเพาะปลูก ส่วนผู้ที่เป็นโรคประจำตัวบางโรค อาจจะต้องหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีความเสี่ยงบางประเภท อาทิ โรคเบาหวาน ควรเลี่ยงผลไม้รสชาติหวาน อย่าง มะม่วงสุก ลำไย ทุเรียน เป็นต้น
ช่วงซัมเมอร์นี้ ผลไม้ที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากความหอม หวาน อร่อย สดชื่นแล้วยังเป็นแหล่งรวมวิตามินชั้นยอด ได้แก่ “มะพร้าวน้ำหอม” ที่ให้น้ำสำหรับดื่มตามธรรมชาติที่สะอาดและบริสุทธิ์ เพราะเป็นผลผลิตที่เกิดจากการกรองตามธรรมชาติ มีน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างรวดเร็ว หลังดื่มมีสารเอสโตรเจนและสารสร้างคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยลดสิวในวัยหนุ่มสาว ที่สำคัญยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม กระดูกบางในวัยผู้สูงอายุ และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายตัวที่ช่วยในการดีท็อกส์ ต่อมาคือ “มะม่วง” รับประทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ และสารเบตาแคโรทีน ที่ช่วยในบำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา และยังช่วยให้หลับสบาย ช่วยในการขับถ่าย ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งนานาชนิด ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งเม็ดเลือด อีกหนึ่งผลไม้ในช่วงฤดูร้อนที่ขาดไม่ได้ คือ “ทุเรียน” จัดเป็นราชาแห่งผลไม้ที่ชาวไทยและชาวต่างชาติชื่นชอบ เพราะนอกจากจะมีรสชาติหวานมันอร่อย รับประทานได้อย่างไม่เบื่อแล้วทุเรียนยังเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสารกำมะถันในทุเรียน เปรียบเสมือนยาฆ่าเชื้อโรคมีกากใยสูงช่วยในการระบาย และในทุเรียนมีวิตามิน และมีสารแอนตี้ออกสิแดนท์
แต่ทั้งนี้ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีแป้ง, น้ำตาล, รวมทั้งไขมันและกำมะถันสูง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ส่วนอีกหนึ่งผลไม้ให้ความสดชื่น ต้องยกให้ “ลำไย”มีน้ำตาลสูงเมื่อรับประทานแล้วจึงทำให้รู้สึกสดชื่น อีกทั้งยังมีวิตามินหลายชนิด ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงส่วนต่างๆ มีแร่ธาตุแคลเซียมสูงทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง และมีสารป้องกันมะเร็ง แต่หากรับประทานลำไยมากไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอาการร้อนใน เจ็บคอ และตาแฉะได้ เพราะ มีสารโพรสตาแกลนดิน ก่อนรับประทานจึงควรนำลำไยทั้งเปลือกไปแช่ในน้ำเกลือประมาณ 10-15 นาที ปิดท้ายด้วย “เมล่อน” ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรไทยนิยมปลูกเป็นจำนวนมาก และเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หนุ่มสาวออฟฟิศคนเมืองควรรับประทานเพราะมีแคลอรี่ต่ำ ส่วนในน้ำเมล่อนยังมีสารเอนไซม์ “ซุปเปอร์ออกไซด์ ดิสมิวเทส” ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายในร่างกาย ส่งผลให้สามารถลดระดับความเครียดและชะลอความแก่ได้ถ้าร้อนแล้วยังเครียดอีกก็ลองหาเมล่อนเย็นๆ มารับประทานกัน
สุนันทา สมบุญธรรม ประธานกรรมการบริหารศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ เผยว่า เพื่อให้คนไทยได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณภาพในช่วงฤดูร้อนนี้ และช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีพื้นที่ขายสินค้าเพิ่มขึ้น ธัญญาพาร์ค จึงได้จัดกิจกรรม “ธัญญาพาร์ค ฟรุตตามิน เฟสติวัล” ผ่านไปแล้ว ซึ่งได้รวบรวมผลไม้นานาชนิดทั่วประเทศไทย คุณภาพมาตรฐานการส่งออก สด สะอาด อาทิ มะพร้าวน้ำหอม จากไร่มหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม ลำไยพวงทอง จากสวนสันติพงษ์ จ.สมุทรสาคร ทุเรียนหมอนทองจากสวน จ.จันทบุรี คาราวานมะม่วง ผลไม้ขึ้นชื่อของ จ.สมุทรสงคราม เมล่อนญี่ปุ่น ผลผลิตจาเกษตรกรไทย จ.พระนครศรีอยุธยา และอีกมากมาย พร้อมทั้งผลไม้แปรรูปและสินค้าพื้นบ้าน มาเปิดให้บริการแก่ผู้บริโภคคนเมืองในราคาพิเศษแบบหน้าสวนอีกด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี