กระแสนวนิยายอิงประวัติศาสตร์กำลังมาแรง บี.กริม ร่วมกับ นานมีบุ๊คส์ ฉลองวาระครบ 140 ปี บี.กริม จัดงานเสวนาแนะนำหนังสือ “ฝากไว้ในแผ่นดิน” หนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ จากเรื่องจริง 6 แผ่นดิน ในฐานะห้างเยอรมันที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯ ครั้งที่ 46 โดยวิทยากรผู้ทรงเกียรติ ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม ทายาทรุ่นที่ 4 มาเล่าแรงบันดาลใจในการจัดทำหนังสือ ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวในรูปแบบนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ทรงคุณค่า ที่ใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานกว่า 10 ปี พร้อมด้วยพิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการบริษัท นานมีบุ๊คส์จำกัด มาร่วมเปิดวงเสวนาเผยแง่มุมความน่าสนใจ และเสน่ห์ของเนื้อหาที่เป็นมากกว่าหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ แต่แฝงไปด้วยร่องรอยของโครงสร้างสังคมไทยในอดีตสู่ความศิวิไลซ์ในปัจจุบันไว้อย่างลงตัว พร้อมด้วย เจตน์โศภิษฐ์พงศธร กรรมการบริหาร หอศิลป์ กรุงเทพฯร่วมพูดคุยและดำเนินรายการ
ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก สุวดีจงสถิตย์วัฒนา ประธานบริษัท นานมีบุ๊คส์ คิมจงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด และ นันทินี แทนเนอร์ ร่วมงานฉลองในโอกาสนี้ ณ เวทีเอเทรียม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติฯครั้งที่ 46 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป
นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ “ฝากไว้ในแผ่นดิน” เป็นเรื่องราวของพ่อค้าเยอรมัน ผู้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาบุกเบิกกิจการในสยามตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เขาเปิดร้านขายยาเยอรมันแห่งแรกขึ้น ผ่านสงครามโลกทั้งสองครั้งจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็น “ชนชาติศัตรู” ผู้แพ้สงคราม ถูกขับออกจากประเทศ ฝ่าฟันอุปสรรคทางธุรกิจมากมาย จนกระทั่งเติบโตขึ้นเป็นบริษัทเดียวในประเทศที่ได้รับตราพระราชทานจากพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไทยถึง 4 พระองค์ เขียนขึ้นจากเรื่องจริงของ B.Grimm หนึ่งในบริษัทใหญ่ของไทยในปัจจุบัน
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม ได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้มีหนังสือเล่มนี้ว่า “ฝากไว้ในแผ่นดิน เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า เพราะผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวโดย ยุวดี ต้นสกุลรุ่งเรือง นักเขียนมือรางวัลด้วยวิธีการเขียนที่น่าสนใจ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพในอดีตอย่างชัดเจน หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงหนังสือ Annual Report แต่เป็นนวนิยายอ่านสนุก ที่จะทำให้ผู้อ่านได้เรียนรู้บริบทของประวัติศาสตร์การค้าระหว่างไทยกับเยอรมนี รวมถึงด้านการเมือง สังคม และวัฒนธรรม เราจะได้เห็นภาพสะท้อนการดำเนินชีวิตของคนไทยในอดีต ซึ่งปัจจุบันกระแสของละครย้อนยุคกำลังเป็นที่นิยม ทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น ผมเองจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านได้สนุกกับการย้อนรอยเรื่องราวประวัติศาสตร์ด้วยเช่นเดียวกัน”
พิชิต จงสถิตย์วัฒนา กรรมการบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า “ในวงการหนังสือ มีการจัดทำหนังสือรวบรวมหลักฐานข้อมูลประวัติศาสตร์
การค้าระหว่างไทย-เยอรมนี ไว้ไม่มากนัก นานมีบุ๊คส์จึงภูมิใจที่ได้ร่วมจัดทำหนังสือนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ดีมากเล่มหนึ่งของไทย เพราะครอบครัวลิงค์และบริษัทบี.กริม เป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์สังคมไทยยุคใหม่หลายด้าน อาทิ ด้านการพัฒนาร้านขายยา การสร้างโรงพยาบาลศิริราช ระบบสาธารณสุข และด้านสาธารณูปโภค โครงการขุดคลองรังสิต ก่อสร้างระบบวิทยุโทรเลข การรถไฟ รวมถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นต้น หนังสือเล่มนี้จึงบอกเล่าเส้นทางความเป็นมาของครอบครัวลิงค์ ที่แม้ว่าจะพบกับอุปสรรคในช่วงสงครามโลกอย่างหนัก ซึ่งในหนังสือจะอยู่ในส่วนของภาค “ใต้อุ้งมือชะตากรรม” แต่เมื่อกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง บี.กริมยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่อุทิศตนเพื่อสังคมเสมอมา โดยผู้อ่านหนังสือจะได้ทราบว่าครอบครัวลิงค์สร้างอะไรไว้ให้กับสังคมมากมาย สะท้อนแง่คิดได้อย่างดีว่าเมื่อเราช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ต้องรู้จักคืนกลับให้สังคม”
ด้านมุมมองของบรรณาธิการ ผู้จัดทำหนังสือ ณัฐชา กฤตนิรัติศัย เผยว่า “อย่างที่ได้ทราบกันดีว่า บี.กริม เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนาน แค่เรื่องราวความเป็นมาของประวัติบี.กริม ก็น่าตื่นตาตื่นใจมากพออยู่แล้ว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของพ่อค้าชาวเยอรมัน ที่นั่งเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปมาเปิดร้านขายยาเยอรมันแห่งแรกในสยาม มาสู่เส้นทางชีวิตที่ได้เป็นถึง “หลวงปฏิบัติราชประสงค์” รับใช้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาทกษัตริย์ไทย จนมาสู่ช่วงสงครามโลกที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคความยากลำบาก ซึ่งชะตาร้ายขีดให้พวกเขากลายเป็น “ชนชาติศัตรู” ของไทย ถูกขับไล่ออกจากประเทศไปใช้แรงงานในค่ายกักกันที่อินเดีย จนถึงขั้นต้องถือปืนออกรบด้วยตนเอง รวมถึงแง่มุมความรักระหว่างหนุ่มเยอรมันกับสาวมอญที่เกิดขึ้นระหว่างการขุด “คลองรังสิต” ซึ่งเป็นระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุคนั้น ไปจนถึงชีวิตกลางสนามรบของนายทหารเยอรมันใน “ปฏิบัติการปีศาจคืนชีพเคสเซลชลัคท์” แห่งกองทัพซึ่งดุดันที่สุดของเยอรมนี ผ่านเรื่องราวพลิกผันจนกระทั่งบี.กริม สามารถกลับมายิ่งใหญ่ เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับตราพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยถึง 4 รัชกาลด้วยกัน
หากถามว่าเหล่านักอ่านจะได้อะไรจาก“ฝากไว้ในแผ่นดิน” นอกจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากมายที่กล่าวมาแล้ว นวนิยายเรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวอันโลดโผนเร้าใจ เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย” เลยทีเดียว แถมยังเป็นชีวิตจริงที่มีหลักฐานอ้างอิงอีกด้วย”
ร่วมย้อนรอยอดีต เปิดประวัติศาสตร์การค้าไทย-เยอรมนี ในหนังสือ “ฝากไว้ในแผ่นดิน” จำหน่ายที่ร้านหนังสือแว่นแก้วและร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านทางโทร.02-662-3000 กด 0 และ www.nanmeebooks.com หรือ www.facebook.com/nanmeebooksfan
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี