“ศาสนา” เป็นสิ่งที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ เห็นได้จากบรรจุไว้เป็น 1 ในสีองค์ประกอบของธงชาติไทย ด้วยเชื่อมั่นว่าศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนำทางให้ผู้คนประพฤติดีปฏิบัติชอบรวมถึงในรัฐธรรมนูญก็บัญญัติว่ารัฐมีหน้าที่ทำนุบำรุงศาสนา ทั้ง “ศาสนาพุทธ” ที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ รวมถึงศาสนาสำคัญอื่นๆ ในทางสากล สังคมไทยจึงไม่เคยขาดกิจกรรมสร้างบุญกุศลเลยแม้สักช่วงเวลาหนึ่ง ดังรายงาน World Giving Index ที่จัดอันดับร้อยกว่าประเทศเรื่องความมีน้ำใจ ประเทศไทยนั้นติดอันดับต้นๆของโลกในด้านการบริจาคทรัพย์สินเสมอมา
และครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่คนไทยรวมถึงชาวพุทธผู้มีจิตศรัทธา จะได้สมทบทุนช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธ ร่วมกับทาง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เพิ่งเปิด โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อันเป็นโรงพยาบาลในเครือ สำหรับดูแลพระภิกษุสงฆ์และนักบวชทุกศาสนาอย่างครบวงจร โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชามอบถวายสมเด็จพระวันรัต ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์เป็นประธานประกอบพิธีเปิดไปเมื่อ 11 ก.ค. 2561ที่ผ่านมา
ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เล่าว่า การรักษาพระภิกษุสามเณรในจ.เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆ ทั่วทั้งภาคเหนือนั้น ทางโรงพยาบาลนครเชียงใหม่ ได้เริ่มให้บริการแยกจากประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ปี 2494 ซึ่งมีการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธของ รพ.นครเชียงใหม่ เป็นอาคาร 2 ชั้น สิ้นค่าก่อสร้างและครุภัณฑ์ต่างๆ เป็นเงิน 3 แสนบาทเศษ ต่อมา ในปี 2506 ได้มีการก่อสร้างสงฆ์อาพาธหลังที่ 2สิ้นค่าก่อสร้าง 670,000 บาท
เมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอกับจำนวนสงฆ์ที่อาพาธ จึงได้ทำการรื้อถอนอาคารเดิมและก่อสร้าง “อาคารสงฆ์อาพาธสุจิตฺโต” เป็นอาคารสูง 5 ชั้น มีพื้นที่ 7,080 ตารางเมตร มีเตียงทั่วไป 26 เตียง ห้องพิเศษ 19 ห้อง ห้องพิธีสงฆ์ โดยที่ พระครูจิตตวิโสธนาจารย์ (พระอาจารย์หนู สุจิตฺโต) เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง ได้บริจาคเงินจำนวน 55 ล้านบาทรวมถึงได้รับบริจาคสมทบจากพระสงฆ์และฆราวาสเพิ่มเติมด้วย
“อาคารสงฆ์อาพาธสุจิตฺโตได้เปิดใช้ตั้งแต่ปี 2547 เรื่อยมาจนถึงปี 2560 คณะผู้บริหารของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมถึงคณะสงฆ์ เจ้าคณะสังฆาธิการของภาคเหนือมีความเห็นร่วมกันว่าควรเพิ่มศักยภาพของตึกสงฆ์อาพาธให้สามารถบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครบวงจร ให้มีความสามารถเทียบเท่ากับโรงพยาบาลขนาดเล็ก สามารถดูแลรักษาพระภิกษุสงฆ์ทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกอย่างได้มาตรฐาน โดยการให้มีแพทย์ประจำ เพิ่มจำนวนบุคลากรอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่เดิมให้มากที่สุด” นพ.บรรณกิจกล่าว
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เล่าต่อไปว่า มีการปรับปรุงภายในอาคารในแต่ละชั้นให้มีประโยชน์ใช้สอยเพิ่มขึ้น แบ่งเป็น ชั้นที่ 1จุดคัดกรองผู้ป่วย ห้องตรวจโรค 3 ห้องห้องทำหัตถการ ห้องเอกซเรย์ ห้องการเงินห้องจ่ายยา ห้องพิธีการสงฆ์ ห้องฉันภัตตาหาร ห้องรับบริจาค ห้องเวชระเบียน ห้อง Treatmentชั้นที่ 2 หอผู้ป่วยหนัก 4 ห้อง ห้องพักแพทย์ พยาบาล
ชั้นที่ 3 หอผู้ป่วยใน เตียงรวม 24 เตียงห้องแยก 2 ห้อง ห้องสวดมนต์ ชั้นที่ 4 หอผู้ป่วยในห้องเดี่ยว 19 ห้อง ห้องสวดมนต์ และ ชั้นที่ 5ห้องพิธีการสงฆ์ ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ งบประมาณในการก่อสร้างปรับปรุงรวมประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งได้จากการบริจาคผ่านมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก เพื่อภิกษุสงฆ์อาพาธจากผู้มีอุปการคุณ วัดต่างๆในภาคเหนือ ภิกษุและฆราวาสทั้งรายใหญ่และรายย่อย จนเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เมื่อ 11 ก.ค. ดังกล่าว
“ปัจจุบันมีพระภิกษุอาพาธแบบผู้ป่วยนอกประมาณ 50 รายต่อวัน ผู้ป่วยในประมาณ 15 รายต่อวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยปัจจุบันโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายเกินกว่าสิทธิพื้นฐานประมาณ 16 ล้านบาทต่อปี โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จัดให้มีห้องพิธีการโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไป มีโอกาสได้ทำบุญแบบพระพุทธศาสนาในโอกาสต่างๆ และรายได้จากการทำบุญทางโรงพยาบาลจะนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลแก่พระภิกษุสงฆ์อาพาธที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นพ.บรรณกิจ ระบุ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. ยังกล่าวอีกว่า ท่านที่มีความประสงค์จะทำบุญในโอกาสพิเศษต่างๆ อาทิ ทำบุญวันเกิด ครบรอบวันแต่งงาน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือเลี้ยงเพลพระสงฆ์หรือสามเณรอาพาธ ฯลฯ สามารถไปทำบุญได้ทุกวัน ระหว่าง เวลา 07.30 ถึง 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการโดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานมูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก ณ โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 053-938800
เช่นเดียวกัน..โรงพยาบาลสงฆ์แห่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ยังรอคอยพลังบุญกุศลของประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยสามารถบริจาคสมทบทุน
เพื่อสนับสนุนกิจการของโรงพยาบาลได้ที่บัญชี“มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก เพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ เลขที่บัญชี 566-4-95594-8 และสามารถบริจาคผ่าน Application SCB Easy ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ Mobile Banking ของธนาคารอื่นๆ โดยสแกนผ่าน QR Code มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก หรือเดินทางมาบริจาคได้ที่โรงพยาบาล
“ขอเชิญชวนประชาชนที่มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมบริจาค เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาโดยการดูแลพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ดั่งคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า..“ผู้ใดอุปัฏฐากภิกษุไข้ ผู้นั้นเสมือนอุปัฏฐากเราตถาคต”..”นพ.บรรณกิจ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี