วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อาหารหวานมันเค็ม เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูงความดันโลหิตสูง ทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมหาศาล บางคนยังตกอยู่ในสภาพของการล้มละลายทางสุขภาพ ทำให้ปัจจุบันมีการรณรงค์อย่างมากที่จะให้คนหันมาใส่ใจกับการกินอาหารที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดีขึ้นแทนที่จะคิดถึงแต่ความอร่อยของรสชาติและความสุขที่ได้จากการกินอาหารเท่านั้น
จากข้อมูล อ.นพ.สมเกียรติ ลีละศิธร ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน รองคณบดีฝ่ายสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในรายการพบหมอรามา เผยว่า
อาหารสจัดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้แก่ อาหารเค็มจัดเช่น อาหารที่ผ่านการถนอมอาหาร อาหารแปรรูป อาหารหมักดอง ส่วน อาหารหวานจัด เช่น ขนมไทย น้ำอัดลม น้ำหวาน และ อาหารมันจัด เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารประเภทกะทิ เป็นต้น
ผลเสียของอาหารเค็มจัด ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชากรไทยในเรื่องของระดับโซเดียมสูง โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้รับประทานโซเดียมวันละ 2,000 มิลลิกรัม แต่จากการสำรวจในปี 2552 พบว่าการบริโภคโซเดียมของคนไทยเฉลี่ยมากถึง 4,351 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งไม่เป็นผลดี ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตที่สูงทั้งยังส่งผลต่อหัวใจและไตได้ ส่วนผลเสียของอาหารหวานจัด เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของคนไทย พบว่าปริมาณน้ำตาลของการบริโภคในคนไทยค่อนข้างสูง จากการสำรวจของสำนักงานกรรมการอ้อยและน้ำตาล พบว่าในปี 2557 ประชากรไทยบริโภคน้ำตาล 33.8 กิโลกรัม/คน/ปี คิดเป็น 92 กรัม/วัน หรือ 23 ช้อนชา ขณะที่การบริโภคน้ำตาลที่เหมาะสมกำหนดไว้ว่าไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา/วันแต่คนไทยบริโภคน้ำตาลเกินปริมาณที่เหมาะสมสูงเป็น 4 เท่า ซึ่งไม่เป็นผลดี ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา อาทิ โรคอ้วน ไขมันสูงเบาหวาน และโรคอื่นๆ ส่วนอาหารมันจัด ร่างกายของคนเราต้องการพลังงานจากไขมันไม่เกินร้อยละ 30 โดยการรับประทานอาหารติดมันจากเนื้อสัตว์และต่าง ๆ ไม่ควรเกิน 5-6 ช้อนชา เพราะในเนื้อสัตว์ 1 ช้อนชา จะมีไขมันประมาณ 5 กรัม และไขมัน 1 กรัมให้พลังงานถึง 9 กิโลแคลอรี เท่ากับว่าไขมัน 5 ช้อนชา (25 กรัม) นั้นให้พลังงานสูงกว่า 225 กิโลแคลอรี การรับประทานไขมันมากเกินไป ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูงเป็นต้น ดังนั้นควรเลือกรับประทานไขมันไม่อิ่มตัว และควรหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ต่างๆ และที่อันตรายที่สุดคือไขมันทรานส์ เป็นไขมันพืชที่ผ่านการไฮโดรจีเนชัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างโมเลกุลการรับประทานไขมันทรานส์ทำให้ระดับ HDL ต่ำลง ก่อให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไขมันทรานส์ โดยไขมันทรานส์จะมีอยู่ในมาการีน ไขมันทอดซ้ำ หรือเบเกอรี่ต่างๆ
.jpg)
สำหรับการปฏิบัติตนในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี นพ.สมเกียรติ แนะว่า 1.ฝึกรับประทานอาหารรสจืดแต่เด็ก การฝึกรับประทานอาหารรสจืดตั้งแต่เด็กเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อหัดการบริโภคที่ถูกต้องเป็นนิสัยให้ติดไปจนโต ผู้ปกครองอาจมีส่วนช่วยโดยการปรุงอาหารให้ลูกรับประทานในรสจืด 2.ลดเค็มทีละน้อย กรณีที่รับประทานรสเค็มจัดติดไปจนโตแล้ว แต่อยากปรับพฤติกรรมให้ลดการรับประทานรสเค็มลงทีละน้อย ค่อยๆ ปรับวิธีการปรุงอาหารทีละเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายปรับตัว การปรับทีละน้อยร่างกายจะไม่รู้สึกตัวว่ากินเค็มน้อยลง และจะค่อยๆ ชินไปเอง3.หลีกเลี่ยงอาหารกรุบกรอบ/อาหารสำเร็จรูป อาหารกรุบกรอบพวกขนมขบเคี้ยว หรืออาหารสำเร็จรูปพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป มักมีโซเดียมสูง รวมถึงอาหารจานด่วนต่างๆ ควรหลีกเลี่ยง 4.หลีกเลี่ยงการเติมน้ำจิ้ม/ซอส อาหารพวกที่ต้อง
รับประทานคู่กับน้ำจิ้มหรือซอส เช่น ลูกชิ้น/ไส้กรอกทอด เกี๊ยวซ่า ซูชิ เป็นต้น หากอยากรับประทานแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเติมน้ำจิ้มหรือซอส จะช่วยลดเค็มได้ในระดับหนึ่ง 5.หลีกเลี่ยงการปรุงรสเพิ่ม หากรับประทานก๋วยเตี๋ยว สามารถลดเค็มได้โดยการไม่เพิ่มน้ำปลา หรือลดหวานได้โดยการไม่เติมน้ำตาล รวมถึงพวกอาหารตามสั่งที่มักใส่พริกน้ำปลาเพิ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเติมเครื่องปรุงเพื่อลดการรับประทานอาหารรสจัด 6.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน เครื่องดื่มรสหวานเป็นตัวการสำคัญของโรคเบาหวาน เช่น เครื่องดื่มอัดลม น้ำหวาน ชา กาแฟ ส่วนมากมีปริมาณน้ำตาลสูง จึงควรหลีกเลี่ยง 7.หลีกเลี่ยงอาหารติดมันและของทอดเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้รับประทานอาหารที่มันจัด ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ติดมันและของทอด อาจเปลี่ยนไปรับประทานอาหารประเภทนึ่งหรือต้มแทน รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารประเภทกะทิ
สำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้านอาจเป็นเรื่องยากในเรื่องของการควบคุมรสชาติ แต่สามารถทำได้ โดยการอ่าน
ฉลากให้ละเอียด และเลือกอาหารที่มีปริมาณแคลอรีเหมาะสม หรือเลือกรับประทานอาหารที่มีฉลากสีเขียวแสดงออกถึงอาหารสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้องค์กรต่างๆ ควรมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น ในโรงเรียนควรห้ามขายเครื่องดื่มอัดลม ขนมกรุบกรอบหรือองค์กรอื่นๆ ตามบริษัท มีการกำหนดให้ขายอาหารสุขภาพ เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี