แต่งงานเร็ว สุขภาพแข็งแรงไม่ได้หมายความว่าจะไม่ประสบปัญหาการมีบุตรยาก ดังนั้น การตรวจความพร้อมของร่างกายอย่างละเอียด เพิ่มโอกาสในการมีเจ้าตัวน้อยมาวิ่งเล่นในบ้านได้มากขึ้น
นายแพทย์ธีรยุทธ์ จงวุฒิเวศย์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และหัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตรโรงพยาบาลพญาไท 2 เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีคู่แต่งงานที่ประสบปัญหาการมีบุตรยากถึง 40% ส่วนใหญ่เรามักจะไม่พบสาเหตุ ซึ่งปัญหานี้ไม่สามารถโทษว่าเป็นความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ตามสถิติระบุว่าคู่สมรสที่ประสบภาวะมีบุตรยากที่ทราบสาเหตุ มักจะมีสาเหตุจากฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในอัตราเท่าๆ กันนั่น คือ ฝ่ายหญิง 40% และฝ่ายชาย 40% มีสาเหตุจากทั้งสองฝ่าย 20%
“การมีบุตรยากในผู้หญิงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นโรคทางพันธุกรรมการฉายรังสีที่อาจส่งผลให้รังไข่ทำงานผิดปกติ รวมไปถึงวิถีชีวิตปัจจุบันที่เกิดภาวะความเครียดได้ง่าย อีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญของการมีบุตรยากคือ เรื่องของอายุของฝ่ายหญิง เนื่องจากในปัจจุบันคนแต่งงานกันช้าลง กว่าจะพร้อมมีลูกก็ตอนที่อายุมากแล้ว ปกติแล้วผู้หญิงเรามีไข่ในรังไข่จำกัด ไข่เหล่านี้ไม่สามารถเพิ่มจำนวนหรือสร้างขึ้นใหม่ได้ เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์หรือเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรก จะมีไข่เพียง 3-4 แสนฟองและในแต่ละเดือนจะมีไข่หลายใบโตขึ้นเพื่อแข่งขันกัน และตกออกมาใช้งานเพียง 1 ฟองเท่านั้น พออายุมากขึ้น จำนวนไข่จึงเริ่มน้อยลง คุณภาพก็ด้อยตามลงไป จึงเป็นผลให้ผู้หญิงช่วงวัย 40-49 ปีขึ้นไป ประสบปัญหาการมีบุตรยากและเมื่ออายุ 49-50 ปีจะเป็นช่วงเข้าสู่วัยทอง รังไข่หยุดทำงาน ประจำเดือนหมด และจะไม่สามารถมีลูกได้”
แต่สาวๆ ที่แต่งงานเร็ว ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะมีโอกาสจะเป็นภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด (Premature Ovarian Insufficiency: POI) หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยากได้เช่นกัน โรคนี้พบในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 40 ปี ที่รังไข่ทำงานลดน้อยลงหรือเหลือปริมาณไข่ในรังไข่น้อย จึงทำให้เสี่ยงต่อการมีบุตรยาก สาเหตุของภาวะดังกล่าวอาจเกิดจากโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคทางพันธุกรรม การรับคีโมหรือฉายรังสีเพื่อรักษาโรคและเรายังพบว่ามีคนไข้จำนวนมากที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดเช่นกัน ที่สำคัญก็คือในระยะเริ่มต้นของภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดจะไม่มีการแสดงอาการแต่อย่างใด และจะส่งสัญญาณประจำเดือนมาไม่ปกติ เมื่อรังไข่เริ่มเสื่อมไปมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงสามารถรู้ว่าตัวเองเป็นภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดด้วยการตรวจฮอร์โมน AMH ในการตรวจคัดกรองได้ แนะนำว่าผู้ที่มีความต้องการจะมีบุตรตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรรีบตรวจให้แน่ใจ แม้จะไม่ได้มีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติก็ตาม
AMH คืออะไร? ทำไมผู้หญิงถึงควรเข้ารับการตรวจ? AMH หรือ Anti-Mullerianhormone เป็นฮอร์โมนหนึ่งของผู้หญิง จะมีปริมาณสัมพันธ์กับจำนวนไข่ใบเล็กๆ (antral follicles) ในรังไข่ แพทย์จึงใช้ฮอร์โมนนี้ในการตรวจวัดปริมาณของไข่ในรังไข่ได้ ซึ่งการตรวจ AMH นี้เป็นการตรวจแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ ด้วยความแม่นยำในการตรวจที่มากกว่าการตรวจด้วย FSH : Follicle-Stimulating hormone หรือการทำอัลตราซาวนด์นับฟองไข่ในวันที่ 2-3 ของประจำเดือน มีวิธีการตรวจง่ายๆ เพียงแค่เจาะเลือดเพื่อตรวจหาระดับ Anti-Mullerian hormone (AMH) และส่งตัวอย่างเลือดไปยังห้องแล็บ ซึ่งจะทราบผลการตรวจได้ภายใน 1-2 วัน หากระดับ AMH สูงแสดงว่าไข่มีปริมาณมาก ถ้าระดับค่า AMH ต่ำก็แปลว่าไข่เหลือในปริมาณน้อย การตรวจดังกล่าวจะทำให้รู้ว่าเราต้องรีบเร่งที่จะมีลูกในเวลาอันรวดเร็ว หรือจะปล่อยให้มีแบบไปเรื่อยๆได้อีกนาน เนื่องจากผลตรวจดังกล่าวจะทำให้เรารู้ว่ารังไข่ทำงานเป็นอย่างไร ปกติหรือไม่ จะได้วางแผนการมีบุตรต่อไปได้อย่างวางใจ นอกจากนั้นแล้วเรายังสามารถใช้ AMH ในการทำนายการตอบสนองของรังไข่ว่าจะตอบสนองมากน้อยเพียงใดหากเข้ารับการกระตุ้นรังไข่ในกระบวนการของเทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร และใช้ทำนายการตอบสนองรังไข่ว่าจะมีความเสี่ยงของการเกิดภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไปหรือไม่ได้อีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่คุณผู้หญิงควรรีบมาตรวจ AMH เพื่อเตรียมความพร้อมในการตั้งครรภ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดไม่ถือเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะไม่ได้หมายความว่าหากเป็นโรคนี้แล้วจะไม่สามารถมีลูกได้ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เพื่อค้นหาต้นเหตุเพื่อทำการรักษาไม่ให้อาการแย่ลง หรือในกรณีที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แพทย์แนะนำให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไข่ตกเพื่อให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากที่สุด แต่หากยังไม่ประสบความสำเร็จก็สามารถใช้เทคนิคเข้ามาช่วยในการมีบุตรได้เช่นกัน ทั้งการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง การทำเด็กหลอดแก้ว หรือการปฏิสนธินอกร่างกาย ซึ่งความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอายุและสุขภาพของทั้งคุณพ่อและคุณแม่ด้วย
สนใจเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยาก โรงพยาบาลพญาไท 2 อาคาร Bชั้น 10 โทร.02-6172444 ต่อ 1057-8Call center 1772
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี