สมพร เทพสิทธา อดีตประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ และผู้แทนยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ร่วมในงานครบรอบ 60 ปี สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมถ่ายภาพกับ พล.อ.สิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ, พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษา, สมถวิล บุณโยปัษฎัมภ์ รองประธานสภา คนที่ 2, พญ.สุวณี รักธรรม รองประธานสภา คนที่ 3, เพ็ญพักตร์ ศรีทอง เลขาธิการ, พัชนี เธียรธวัช เหรัญญิก, สุรวัฒน์ ชมพูพงษ์ รองเลขาธิการ, จารุนันท์ อึ้งภากรณ์ รองเลขาธิการ และคณะกก.อำนวยการ อาทิ ผศ.ดร.วชิรญา บัวศรี, วิไลวรรณ ลายถมยา, ดร.โสภา ชูพิกุลชัย ชปีลมันน์ ราชบัณฑิต, ขนิษฐา เทวินทรภักติ, ผศ.ดร.วิรชฎา บัวศรี, ยุวดี นิ่มสมบุญ, กรองมณี ดุจจานุทัศน์, เดือนฉาย คอมันตร์

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานครบรอบ 60 ปี เนื่องในโอกาสการก่อตั้ง โดยมีพลเอกสิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษา และคณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมในพิธี ณ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 โดยช่วงเช้าได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และการถวายภัตตาหารเพลโดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป จากวัดไตรมิตรวิทยารามซึ่งได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ เป็นประธาน ณ ลานหน้าตึกมหิดล จากนั้นจัดเลี้ยงอาหารโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน ณ ลานหน้าตึกสงเคราะห์ชุมชน ก่อนจะร่วมฟังการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “60 ปี สสคท. กับสังคมไทย” โดย สมพรเทพสิทธา อดีตประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ และผู้แทนยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 9 องค์การที่ร่วมจัดตั้งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

พล.อ.สิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ กับ พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ ประธานที่ปรึกษา

สมพร เทพสิทธา อดีตประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ และผู้แทนยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย, นพ.ศิริพงษ์ เอกัคคตาจิต, พญ.สุวณี รักธรรม, ชินชัย ชี้เจริญ, เพ็ญพักตร์ ศรีทอง

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ เป็นองค์การสาธารณกุศล จัดตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2503 โดยผู้แทนองค์การสังคมสงเคราะห์ 9 องค์การ มี กรมประชาสงเคราะห์ (ศาสตราจารย์ปกรณ์ อังศุสิงห์ เป็นผู้แทน) มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ(หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร เป็นผู้แทน) สมาคมสตรีอุดมศึกษา(คุณหญิงอาภรณ์ กฤษณามระ เป็นผู้แทน) มูลนิธิช่วยเหลือและให้การศึกษาคนตาบอด (คุณหญิงเลขา อภัยวงศ์ เป็นผู้แทน) มูลนิธิพีระยานุเคราะห์ (แพทย์หญิงเพียร เวชบุล เป็นผู้แทน) ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย (สมพร เทพสิทธา เป็นผู้แทน) ยุวสมาคมแห่งประเทศไทย (เล็ก วานิชอังกูร เป็นผู้แทน) สมาคม วาย.ดับบลิว.ซี.เอ.(เฮเลน แต้สุจิ เป็นผู้แทน) และสมาคม วาย.เอ็ม.ซี.เอ. (จุฬินทร์ตกแต่ง เป็นผู้แทน) ได้ร่วมกันประชุมครั้งแรก ณ กรมประชาสงเคราะห์เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2501 และได้มีมติตกลงให้จัดตั้งองค์การกลางของการสังคมสงเคราะห์ขึ้น โดยเริ่มแรกใช้ชื่อว่า “สภาองค์การสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย” และเมื่อวันที่4 กุมภาพันธ์ 2503 ได้รับอนุมัติจากทางราชการให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต่อมาในเดือนมีนาคม 2504 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น“สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประสานงานด้านสังคมสงเคราะห์ ทั้งของทางราชการและเอกชน และวันที่ 10 สิงหาคม 2504 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นประธานกิตติมศักดิ์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นและเป็นสิริมงคลยิ่งแก่สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ

ศ.นพ.พิทยา จารุพูนผล, ประภา กิจจะนะ, สุพัชนา อัษฎาธร อุปนายกที่ 1 สมาคม สปอท.,พล.อ.สิงหา-พล.ต.หญิง คุณหญิง อัสนีย์ เสาวภาพ, ดาวศิริ อยู่ประเสริฐ, สุดารัตน์ นาคามดี

พล.อ.สิงหา เสาวภาพ ประธานสภาสังคมสงเคราะห์ฯ ถ่ายภาพกับแขกผู้มีเกียรติจากสมาคมต่างๆ

รศ.ดร.รัตนา ตุงคสวัสดิ์, ผศ.ดร.วชิรญา บัวศรี, ยุวดี นิ่มสมบุญ, พล.ต.หญิง คุณหญิงอัสนีย์ เสาวภาพ, สมบัติ วัฒนไทย และ ปิยดา นราดุล

พนิดา ชอบวณิชชา, พญ.สุวณี รักธรรม และ เดือนฉาย คอมันตร์

ทิพวัฒน์ จลานันทวงศ์, วิไลวรรณ ลายถมยา, พนิดา ชอบวณิชชา, ขจิตพรรณ ไทยเพ็ชร และแขกผู้มีเกียรติ

พล.ต.หญิง พูลศรี เปาวรัตน์, ศ.เกียรติคุณ ดร.พิมพ์พรรณ ศิลปะสุวรรณ, ผศ.ดร.วิรชฎา บัวศรี, ชินชัย ชี้เจริญ, ดร.โฉมยง ประทีปอุษานนท์ ทวีทรัพย์, สุรวัฒน์ ชมพูพงษ์ และ ธิดารักษ์ สัจจพงษ์

บำรุง ทองรอด ประธานภาค 10, รุจิรา เพชรชู ประธานภาค 11, นพ.ศิริพงษ์ เอภักคตาจิต และ สุรวัฒน์ ชมภูพงษ์