เด็กที่มีจิตใจเมตตากรุณาต่อสัตว์ จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจอ่อนละมุน ไม่หยาบกระด้าง และจะเป็นผู้มีใจเมตตากรุณาต่อทั้งคนและสัตว์ เป็นผู้ที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือสัตว์และคนที่ตกทุกข์ได้ยากตลอดเวลา
เด็กที่รักสัตว์จะมีความรู้สึกและมีสำนึกตลอดเวลาว่า โลกใบนี้ที่เขาอาศัยอยู่มิใช่เป็นแค่เพียงโลกของคนเท่านั้น แต่สัตว์ รวมถึงต้นไม้ก็มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของโลกด้วย แล้วที่สำคัญคือเด็กที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะเช่นนี้จะมีส่วนร่วมสร้างและรักษาสมดุลธรรมชาติได้เป็นอย่างดี และเข้าใจระบบนิเวศเมื่อเขาเติบโตขึ้น และจะเห็นถึงความสำคัญของสัตว์กับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง
วิธีการอบรมสั่งสอนเด็กในบ้านของคุณให้รู้จักรักและเห็นความสำคัญของสัตว์ (รวมถึงต้นไม้) ก็คือ สอนให้เขาเห็นว่าการเกิดเป็นคนนั้นต้องมีเมตตาต่อสัตว์ โดยอาจจะเริ่มต้นจากการเลี้ยงสัตว์ภายในบ้านก่อน (แต่ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์ภายในบ้านไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะผู้อาศัยอยู่ตามห้องเช่าอพาร์ตเมนต์ แฟลต หรือคอนโดมิเนียม) แล้วสอนให้ลูกเล่นและให้อาหารสัตว์เล่นอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยของตัวเด็ก รวมถึงการหาหนังสือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่ามาให้ลูกหลานได้อ่านเป็นประจำ แล้วพูดคุยกับเด็กๆ ถึงความจำเป็นของการที่โลกนี้ต้องมีสัตว์อยู่ด้วย แล้วที่สำคัญมากที่สุดก็คือการให้โอกาสลูกหลานได้สัมผัสชีวิตสัตว์จริงๆ ตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย เช่น การสอนให้เขาได้เห็นว่ารอบๆ บ้านมีสัตว์อะไรอยู่บ้าง สอนการให้อาหารสัตว์ และสอนให้เขารู้ว่าจะเข้าใกล้สัตว์ชนิดใดได้หรือไม่ได้ และถ้าเข้าใกล้สัตว์ต้องทำอย่างไร ต้องจับสัมผัสตัวสัตว์อย่างไร เพื่อให้ตนเองปลอดภัย และไม่ทำให้สัตว์ตื่นตกใจ จนกลับกลายเป็นแสดงอาการดุร้าย แล้วทำร้ายเด็ก ผมขอยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้อบรมสั่งสอนได้
ผมเคยเห็นผู้ปกครองบางรายมีคำสั่งสอนที่แสนป่าเถื่อนคือ สอนเด็กเล็กๆ ว่าเมื่อเห็นหมาต้องเอาไม้ตีมัน เพราะหมามันจะกัดเอา หรือเวลาเห็นมด เห็นแมลงก็สอนให้เด็กเอาเท้าเหยียบขยี้มันเพราะมันเป็นอันตรายปล่อยไว้ไม่ได้ รับรองได้ว่าเด็กที่ได้รับการสั่งสอนเช่นนี้จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีใจอำมหิตมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากในอนาคตสำหรับเด็กเหล่านั้น แต่ผมก็หวังว่าผู้อ่านแนวหน้าทุกคน ไม่สอนลูกหลานของคุณให้เป็นคนใจอำมหิต
สัปดาห์นี้ ผมพาคุณกลับไปเยี่ยมครอบครัวผู้รับวัวควายจากโครงการไถ่ชีวิตวัวควายจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำไปมอบให้ผู้เหมาะสมรับไปเลี้ยงดูต่อจนกว่าวัวควายจะสิ้นอายุขัยไปตามธรรมชาติ ซึ่งหากคุณติดตามหนังสือพิมพ์แนวหน้า มาโดยตลอดคงทราบแล้วว่า โครงการนี้ดำเนินการโดยหนังสือพิมพ์แนวหน้า รวมกับผู้อ่านแนวหน้า และแหล่งข่าวของแนวหน้า โดยดำเนินโครงการครั้งแรกเมื่อประมาณ 7 ปีมาแล้ว และยังคงดำเนินการต่อไป
ล่าสุดเมื่อปลายเดือนมกราคม ปีนี้ โครงการนี้ได้มอบวัวควายจำนวน 33 ตัว (เป็นของโครงการ27 ตัว และจากผู้ร่วมบริจาคจากศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวันอีก 6 ตัว) ให้เกษตรกรซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนชาวนา ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย โดยวัวควายที่โครงการ มอบครั้งล่าสุดนี้ ได้ตกลูกออกมาแล้ว 4 ตัว (เป็นควาย 3 ตัว และวัว 1 ตัว) คุณที่ติดตามคอลัมน์นี้มาโดยตลอดคงยิ้มหวานหน้าบานเมื่อได้ทราบข่าวดีที่ได้นำเสนอไปแล้วเป็นระยะๆ
วันนี้พาคุณไปที่ม่อนคำ ออร์แกนนิกฟาร์มเชียงราย (หนึ่งในกลุ่มผู้รับวัวควายไปรับเลี้ยงดูต่อ)เพื่อให้คุณได้ชมภาพน่ารักๆ ของเด็กน้อยกับวัว พ่อแม่ผู้ปกครองของฟาร์มเล็กๆ แห่งนี้สอนให้ลูกหลานรู้จักคุณค่าของวัว โดยสอนเด็กให้รู้จักการให้อาหารและน้ำแก่วัว สอนว่าการเข้าใกล้วัวต้องมีวิธีการอย่างไรจึงจะปลอดภัยและไม่ทำให้วัวตื่นตกใจ เมื่อวัวไม่ตื่นตกใจแล้วในที่สุดวัวจะคุ้นเคยกับเด็กๆ และเป็นมิตรกับเด็ก และยังสอนให้เด็กรู้ว่ามูลวัวมีประโยชน์กับต้นไม้และผักที่พวกเขาใช้กินในชีวิตประจำวัน และสามารถนำปุ๋ยคอกจากขี้วัวตากแห้งไปขายเพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวด้วย และสอนด้วยว่าเมื่อเลี้ยงวัวเสร็จแล้วต้องอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดโดยทันที เพื่อให้ปลอดจากการเกิดโรคภัยไข้เจ็บกับทั้งวัวและคน
ภาพความน่ารักของเด็กน้อยกับวัวที่ผมนำมาฝากในสัปดาห์นี้ คงทำให้คุณๆ ยิ้มหวานเหมือนเช่นเคย และคงทำให้คุณได้ประจักษ์ว่าความรักของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์คือเครื่องช่วยค้ำจุนทำให้โลกของเราน่าอยู่มาก
สำหรับคุณๆ ที่สนใจร่วมโครงการไถ่ชีวิตวัวควายกับแนวหน้า โปรดติดต่อ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี