‘เอ็มแรป’ เปิดโครงการเพื่อสังคม ‘เก็บ เพื่อ กลาย’  แปรรูปฟิล์มถนอมอาหารที่ใช้แล้วเป็น ‘รองเท้าบู๊ต’

‘เอ็มแรป’ เปิดโครงการเพื่อสังคม ‘เก็บ เพื่อ กลาย’ แปรรูปฟิล์มถนอมอาหารที่ใช้แล้วเป็น ‘รองเท้าบู๊ต’

วันพุธ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :

เทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกวันนี้เปลี่ยนไป ใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น ล่าสุดบริษัท เอ็มเอ็มพีคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มยืดถนอมอาหารชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ตราสินค้า“เอ็มแรป (M Wrap)” ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผนึกกำลังร่วมกับคู่ค้าโรงแรมทั่วประเทศกว่า 30 แห่งเกิดเป็น โครงการ “เก็บ เพื่อ กลาย” จากฟิล์มถนอมอาหารที่ใช้แล้วมาเป็น “รองเท้าบู๊ต” ให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานรัฐ กว่า50 แห่งทั่วประเทศ

นางสาวฤทัยชนก จงเสถียร ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเอ็มพีคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งที่เอ็มแรป ให้ความสำคัญเสมอมา จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการให้ เอ็มแรป เป็นตัวช่วยในการถนอมอาหาร รักษาความสด และยืดอายุของอาหารให้ยาวนานขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะอาหารหรือขยะอินทรีย์ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือน บริษัทยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการรีไซเคิลและการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างสร้างสรรค์ บนแนวทางการใช้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เหมือนที่หลายๆ หน่วยงานนำมาปรับใช้ จึงเริ่มต้นจัดทำโครงการเก็บ เพื่อ กลาย (Circulife ByM Wrap) โดยเริ่มจากสร้างความเข้าใจให้พนักงานของเราก่อน ลงมือทำกันภายในองค์กร


หลังจากการดำเนินการภายในองค์กรมีผลลัพธ์ที่ดีและบริษัทฯ มีการศึกษาค้นคว้าในเรื่องของการรีไซเคิลอย่างจริงจัง จนพบว่า ฟิล์มถนอมอาหารใช้แล้ว สามารถนำไปรีไซเคิลให้เป็นสิ่งของที่มีประโยชน์อื่นๆ ได้มากมาย อาทิ รองเท้าบู๊ต ฯลฯ จึงได้ขยายความร่วมมือสู่คู่ค้าโรงแรมต่างๆทั่วประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอาทิ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ,โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์,โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ, โรงแรมศรีพันวาภูเก็ต, โรงแรม โนโวเทล ภูเก็ต ฯลฯ ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงการใช้ประโยชน์สูงสุดจากฟิล์มถนอมอาหารและสนับสนุนให้เกิดการรีไซเคิลที่ถูกต้อง

โดยส่งตัวแทนไปพบปะ พูดคุย กับคู่ค้าด้วยตนเอง เพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานของโครงการ รวมถึงชี้แจงให้เห็นว่า “กระบวนการแยกขยะพลาสติกและการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี คือ ทางออกของการลดปริมาณขยะพลาสติกอย่างแท้จริง”ซึ่งทุกโรงแรมจะได้รับถังขยะของโครงการ เพื่อแยกขยะทิ้งเฉพาะฟิล์มถนอมอาหารใช้แล้วเท่านั้นและทางโครงการ มีการจัดรถเข้ารับฟิล์มถนอมอาหารใช้แล้วจากโรงแรมทุกวัน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคู่ค้าโรงแรม โครงการจึงสามารถเก็บรวบรวมฟิล์มถนอมอาหารที่ผ่านการใช้งานแล้วได้กว่า 3,000 กิโลกรัม หรือ 3 ตัน ภายในระยะเวลาประมาณ 5 เดือน จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน ทดลองและพัฒนาจนได้มาเป็นรองเท้าบู๊ตยางข้อสั้น จำนวน 1,300 คู่ โดยมีส่วนผสมของฟิล์มถนอมอาหารเอ็มแรป ใช้แล้วมากถึง 80%

ในช่วงที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19(COVID-19) ทางโครงการได้มอบรองเท้าบู๊ตยางข้อสั้นให้กับโรงพยาบาลและหน่วยงานรัฐ กว่า 50 แห่งทั่วประเทศเพื่อให้บุคลากรในโรงพยาบาลได้นำไปสวมใส่ป้องกันเชื้อโรคและใช้ประโยชน์ภายในองค์กรต่อไป

หลังจากนี้แม้ว่าวิกฤตการณ์ต่างๆ จะผ่านไป โครงการเก็บ เพื่อ กลาย(Circulife by M Wrap) ก็ยังคงตั้งมั่นในการจัดการปัญหาพลาสติก มุ่งเน้นการรีไซเคิลที่ถูกต้อง รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานและการจัดการพลาสติกที่ถูกวิธี เพื่อให้สังคมเกิดความยั่งยืนมี “อนาคตที่ไร้ขยะ” (Waste-Free Future) และสามารถใช้พลาสติกจนเกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างแท้จริง.

ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของโครงการ ได้ที่ Facebook แฟนเพจ “เก็บเพื่อ กลาย-Circulife by M Wrap”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top