เพื่อนๆ วัฒนาวิทยาลัย รุ่น 92 ชวนกันย้อนอดีตเที่ยววังเก่าใจกลางกรุงเทพมหานคร “พระราชวังพญาไท” ที่ตั้งอยู่ริมคลองสามเสนถนนราชวิถี เขตราชเทวี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพระราชทานนามให้ว่า “พระตำหนักพญาไท” หรือ“วังพญาไท” โดยงานนี้ ภาวิไล บุราวาศ, ผาณิตพูนศิริวงศ์, อ.ดวงใจ ตั้งสง่า, สุปริญญาใจจงกิจ, ศ.ดร.มาลียา เครือตราชู, จิราพร เชมนะสิริ,ยศวดี บุณยเกียรติ, แววตา อัมพรายน์, ปานจิต จันทรสาขา และ นลินี คณิวิชาภรณ์ นัดกัน แต่งชุดผ้าไทยเดินเยี่ยมชมทั่ววังพญาไท มีนาวาโทหญิงชูจิต จิตต์แก้ว หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีและ อชิระ สาปาน วิทยากรประจำพระราชวังพญาไท พาเดินชมทั้งภายในและภายนอกพระราชวังพร้อมบรรยายประวัติความเป็นมาอย่างละเอียด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2563
วังพญาไท เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2452พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เสด็จฯทอดพระเนตรการทำนา การปลูกผักและการเลี้ยงสัตว์ วังนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างตำหนักเป็นที่ประทับ รวมถึงส่วนพื้นที่ด้านตรงข้ามกับพระตำหนัก โปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ทำนา รวมทั้งโรงนา ขึ้นเพื่อประกอบพระราชพิธีแรกนาขวัญหลายครั้ง ณ วังพญาไท วังพญาไทใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในระยะเวลาอันสั้น เพราะเมื่อหลังจากมีการขึ้นเรือนใหม่ได้เพียงไม่กี่เดือนก็เสด็จสวรรคต และในสมัยรัชกาลที่ 6พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทูลเชิญสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชมารดา มาประทับที่พระราชวังแห่งนี้ด้วย จนกระทั่งสวรรคตเมื่อปี 2463 หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงรื้อพระตำหนักพญาไท เหลือไว้เพียง พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ ซึ่งเป็นท้องพระโรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งใหม่หลายพระองค์ด้วยกัน รวมทั้งได้รับการสถาปนาวังเป็น พระราชวังพญาไท รัชกาลที่ 6 เสด็จฯ มาประทับที่พระราชวังนี้โดยตลอดจนปีสุดท้ายแห่งรัชกาลทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการตัดต้นไม้ใหญ่เพื่อสร้างพลับพลา ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพ โดยทรงได้กลิ่นพระองค์เดียว กอปรกับมีพระราชประสงค์ให้พระหน่อประสูติในพระมหามณเฑียร จึงเสด็จฯจากพระราชวังพญาไทไปประทับในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน และโปรดให้พระนางเจ้าสุวัทนาพระวรราชเทวี ตามเสด็จฯไปประทับที่พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง จนกระทั่งสวรรคต พระราชวังพญาไท ยังเคยเป็นที่ประทับของ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในช่วงมีพระครรภ์พระหน่อ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีพระวรราชชายา และเป็นที่พำนักของพระสุจริตสุดาพระสนมเอกอีกด้วย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของพระราชวังพญาไทในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้แก่ ดุสิตธานี หรือเมืองประชาธิปไตยแบบอังกฤษ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นเมืองจำลองขึ้น เพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว
ต่อมา สมัยรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟหลวงปรับปรุงวังพญาไทเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งสำหรับให้ชาวต่างประเทศพัก เปิดเมื่อ 18กุมภาพันธ์ 2468 ตามพระราชประสงค์ในรัชกาลที่ 6 ที่จะพระราชทานพระราชวังแห่งนี้ให้เป็นโฮเต็ลชั้นหนึ่งของประเทศ ตั้งแต่มีพระราชดำริจัดงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ เพื่อพัฒนาการพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระหว่างนั้น ได้มีการใช้ พระราชวังพญาไทได้เป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งแรกของไทยออกอากาศเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2473 กรมรถไฟดำเนินการโรงแรมวังพญาไทได้ 6-7 ปี ก็เลิกกิจการ เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2475 เนื่องจากคณะราษฎรต้องการนำวังพญาไทสร้างโรงพยาบาลทหาร จึงพระราชทานวังนี้ให้เป็นสถานพยาบาล ของกองทัพบก และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาจนปัจจุบัน
ปัจจุบัน พระราชวังพญาไทได้มีการบูรณะใหม่ด้วยความประณีตโดยประธานมูลนิธิฯ พล.ท.นพ.สุปรีชา โมกขะเวส และภรรยา สุมัณฑนา โมกขะเวส กรรมการมูลนิธิฯ พระราชวังจึงกลับมาสวยงาม ทั้งนี้ได้เปิดให้เข้าชมวันอังคาร-ศุกร์ 13.00-15.00 น.และวันเสาร์-อาทิตย์ 09.30-11.30 น.และ 13.30-15.30 น. ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท ผู้สูงอายุ 20 บาท เด็ก 10 บาทพระภิกษุ นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบชมฟรี สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าชมอย่างเต็มอิ่มทางพระราชวังพญาไท มีวิทยากรนำพาเที่ยวชมอย่างจุใจ ใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชม.ค่าบริการเพียง 500 บาทเท่านั้น สามารถสอบถามรายละเอียดและเยี่ยมชมวังได้ที่สำนักงานชมรมคนรักวังฯ พระที่นั่งพิมานจักรี ชั้น 1 พระราชวังพญาไท (ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) ถนนราชวิถีเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โทร.02-3547987 เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/PhyathaiPalace
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี