หลังจาก “อิ๊กคาบ็อก” (The Ickabog) วรรณกรรมเยาวชนเล่มใหม่ของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง วางจำหน่ายไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งแฟนๆ นักอ่านทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต่างก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเฉพาะน้องๆวัย 7-13 ปีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับนักวาดภาพประกอบเด็กไทยทั้ง 34 คนที่ชนะเลิศโครงการประกวดวาดภาพประกอบในหนังสือเล่มนี้
แฟนๆ คงอยากฟังความในใจของ เจ.เค. โรว์ลิ่ง เกี่ยวกับโปรเจ็กต์อิ๊กคาบ็อกแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นไปอ่าน Q&A กับ เจ.เค. โรว์ลิ่ง กันเลย ส่วนหนังสือ “อิ๊กคาบ็อก” ฉบับภาษาไทย วางจำหน่ายแล้ว ราคา 495 บาท ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ สนใจสั่งซื้อโทร.02-2622-3000 กด 0 หรือ www.nanmeebooks.com และ www.facebook.com/nanmeebooksfan
Q : คุณเริ่มแต่งอิ๊กคาบ็อกตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วทำไมถึงเพิ่งตัดสินใจตีพิมพ์ออกมาตอนนี้
A : ฉันมีไอเดียเรื่องอิ๊กคาบ็อกมาเป็นสิบปีแล้ว เริ่มเขียนเรื่องนี้ระหว่างที่เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 7 เล่ม แล้วก็เคยอ่านให้ลูกสาวสองคนที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กน้อยฟังด้วยนะ แต่ที่ยังไม่ตีพิมพ์อิ๊กคาบ็อกต่อจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์เพราะฉันอยากตีพิมพ์หนังสือสำหรับผู้ใหญ่ก่อน โครงการอิ๊กคาบ็อกจึงถูกพับเก็บไปอยู่ที่ห้องใต้หลังคา ฉันรักอิ๊กคาบ็อกนะคะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับตอนนั้นกำลังง่วนอยู่กับการเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน ฉันเลยมองว่าอิ๊กคาบ็อกเป็นเรื่องราวเฉพาะสำหรับครอบครัวของฉันเท่านั้น และในช่วงหลายปีมานี้ฉันคุยเรื่องแดนอุดมกับลูกสาวบ่อยๆ ลูกสาวคนเล็กมักจะคะยั้นคะยอให้เล่าตอนจบ แต่ฉันก็ไม่เคยเล่าออกไปเลย และแล้วโควิด-19 ก็ระบาด ฉันเข้าใจดีเลยว่าเด็กๆ ต้องลำบากแค่ไหนในช่วงเวลานี้ จึงตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ฉันหยิบอิ๊กคาบ็อกลงมาจากห้องใต้หลังคา ลองอ่านอีกรอบและพบว่าฉันแต่งจนจะจบแล้วนี่ เมื่อเห็นดังนั้น ฉันเลยแก้ไขบางส่วนและแต่งต่อให้จบ และผู้ฟังเรื่องราวนี้คนแรกก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกสาวสองคน ที่ตอนนี้โตเป็นสาวกันแล้ว สิ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือพวกเธอยังจำเรื่องราวเก่าๆได้ มิหนำซ้ำยังบอกให้ใส่มันกลับเข้าไปในเรื่องอีก และทันใดนั้น อิ๊กคาบ็อกก็เสร็จสมบูรณ์ !
ตอนแรกฉันจะทยอยเผยแพร่อิ๊กคาบ็อกลงเว็บไซต์ให้อ่านกันแบบฟรีๆ เพราะอยากให้ได้อ่านกันทุกคน แล้วก็คิดว่าถ้าเด็กๆวาดภาพประกอบให้ก็คงจะวิเศษสุดๆ แถมยังได้อ่านเรื่องราวสนุกๆ (หวังว่านะ) ด้วย เราแปลอิ๊กคาบ็อกเป็นภาษาต่างๆลงเว็บไซต์ด้วยค่ะ เพราะอยากให้เด็กๆได้อ่านกันเยอะๆ ค่าลิขสิทธิ์ที่ได้มา ฉันบริจาคให้ Volant ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการกุศลที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก
Q : ทำไมคุณตัดสินใจเขียนเทพนิยาย งานเขียนประเภทนี้มีอะไรดึงดูดใจคุณ
A : เทพนิยายและนิทานเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้สำรวจธีมเรื่องที่ไม่มีสิ้นสุด เราทุกคนรู้ดีว่าคำว่า “กาลครั้งหนึ่ง” รวมถึงการหายไปจากโลกแห่งความเป็นจริงสู่แดนดินแห่งจินตนาการนั้นทรงพลังแค่ไหน แล้วฉันก็ชอบเวลาที่ตัวละครต่างๆปรากฏตัวในบริบทวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายด้วยค่ะ ฉันสนใจเกี่ยวกับการที่มนุษย์เราดูเหมือนจะตีความโลกใบนี้ไปในแนวทางที่คล้ายกันอย่างเหลือเชื่อไม่ว่าจะเติบโตจากส่วนไหนของโลก พวกตำนาน ต้นแบบงานเขียน และนิทานพื้นบ้านล้วนอยู่เหนือเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสิ้น ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ฉันรักงานเขียนประเภทนี้
Q : คุณกลับมาเขียนเรื่องราวสำหรับเด็กอีกครั้งหลังจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์ รู้สึกอย่างไรบ้าง
A : มีความสุขมากค่ะ นอกจากจะได้เขียนเรื่องราวสำหรับเด็กแล้วยังได้เห็นพลังจินตนาการของเด็กๆมากกว่า 60,000 ชิ้นระเบิดออกมาผ่านการประกวดวาดภาพประกอบด้วย ช่วงนั้นฉันตั้งตาคอยว่าเด็กๆจะสร้างสรรค์อะไรออกมาทุกวันและก็ไม่เคยผิดหวัง อิ๊กคาบ็อกทำให้ฉันได้หวนคิดถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับนักอ่านรุ่นเยาว์ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แสนวิเศษเลยละค่ะ
Q : คุณร่ายมนต์สร้างภาพอาหารตระการตาในจินตนาการของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นเค้กและขนมอบชั้นเลิศจากชูซ์บุรี เมืองหลวงของแดนอุดม ชีสสุดวิเศษจากเนยนคร ไปจนถึงอะไรที่ค่อนข้างธรรมดาอย่างซุปกะหล่ำปลีจากบ้านเด็กกำพร้าของมา กรันเตอร์ และน้ำซุปเนื้อแกะมันย่องที่แดนทุ่ง คุณตั้งใจวางบทบาทของอาหารในเรื่องนี้ไว้อย่างไร
A : อาหารเป็นอะไรได้มากมายเลยนะคะ เป็นทั้งสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตและความอภิรมย์ เป็นทั้งวิธีการส่งความปรารถนาดีต่อผู้อื่นและรากฐานของสุขภาพที่ดี แปลกดีนะคะ ฉันสร้างเมืองผลิตอาหารเหล่านี้ขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อนหน้าการล็อกดาวน์เสียอีก และก็รู้มาด้วยว่าช่วงนี้คนจำนวนมากเริ่มทำความรู้จักสนิทสนมกับเหล่าอาหารและพัฒนาทักษะการทำอาหารของตัวเอง พวกเขาต้องกังวลว่าจะไม่มีอะไรตกถึงท้องแน่ๆ ดังนั้น ฉันจึงทำให้อาหารเหล่านี้เป็นหลุมหลบภัยที่ผู้อ่านถวิลหาในช่วงทุกข์ยากจากโควิดค่ะ
Q : สำหรับคุณแล้ว การตั้งชื่อตัวละครอย่างสปิตเทิลเวิร์ทและฟลาพูนสนุกแค่ไหน แล้วชื่อเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอะไร
A : ฉันรักชื่อต่าง ๆ และมักจะคิดมากเวลาที่ต้องตั้งชื่อเสมอ ในส่วนของสปิตเทิลเวิร์ท นั้นมาจากคำว่า “lickspittle” หมายถึง คนที่ชอบประจบสอพลอผู้มีอำนาจ ส่วน ฟลาพูนมาจากคำว่า buffoon (แปลว่า ตัวตลก) และคำว่า flaps (แปลว่า กระพือปีก) ซึ่งเป็นอาการที่เขามักทำเวลาตื่นตระหนก ต่างจากสปิตเทิลเวิร์ทที่มีแผนร้ายตลอดเวลา
Q : แล้วชื่อ “อิ๊กคาบ็อก” มาจากไหน
A : อิ๊กคาบ็อก (Ickabog) มาจากคำว่า Ichabod หมายถึง “ไร้เกียรติ” บางครั้งยังหมายถึง “ความรุ่งโรจน์ได้จากไปแล้ว” ที่คำนี้ในเรื่องมีสองความหมายเพราะว่า อย่างแรก เกียรติยศและความรุ่งโรจน์ได้หายไปจากอาณาจักรเล็กๆแสนสุขชั่วระยะเวลาหนึ่ง และอย่างที่สองคือ วันอันรุ่งโรจน์ของอิ๊กคาบ็อกอยู่เบื้องหลัง หรือไม่มันก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น และเมื่อเราพบกันครั้งแรก มันก็พร้อมที่จะแสดงออกอย่างไร้เกียรติเพื่อแก้แค้น
Q : คุณประหลาดใจไหมที่กิจกรรมวาดภาพประกอบขณะเผยแพร่ในช่องทางออนไลน์และการประกวดวาดภาพประกอบของเด็กๆได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก
A : ประหลาดใจค่ะ ไม่ใช่แค่มีคนส่งผลงานเข้ามาเป็นจำนวนมากเท่านั้น คุณภาพงานก็ดีด้วย และยังมีภาพสวยๆอีกมากจนฉันรู้สึกโล่งอกที่ไม่ได้เป็นคนตัดสินการประกวดนี้ หรือไม่ก็คงต้องออกหนังสือสักยี่สิบเล่มเพื่อลงภาพเหล่านั้นให้มากที่เท่าที่จะมากได้ละค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณทั้งผู้ชนะและทุกๆคนที่ส่งภาพเข้ามาจริงๆ ขอบคุณที่ออกมาแสดงฝีมือเพื่อโปรเจกต์ของเรา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะมีทุกคนเป็นส่วนหนึ่งจริงๆค่ะ
Q : คุณบริจาคเงินค่าลิขสิทธิ์ให้กองทุนการกุศล Volant เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรและนานาชาติ ใครจะได้รับการช่วยเหลือตรงนี้บ้าง
A : ฉันบริจาคให้กองทุนการกุศล Volant เพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และองค์กรการกุศลระดับแนวหน้า เราอยากช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงให้เร็วที่สุด ส่วนค่าลิขสิทธิ์ในอนาคต Volant จะเป็นผู้แบ่งสันปันส่วนให้องค์กรการกุศลที่ทำงานระยะยาวเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทางสังคมที่เกิดจากโควิดทั้งในสหราชอาณาจักรและระดับสากลตามความจำเป็นเร่งด่วนในขณะนั้น ฉันอยากช่วยเหลือผู้ที่โดนผลกระทบทั้งจากไวรัสโดยตรงและจากเศรษฐกิจ
Q : คุณรับมือกับช่วงล็อกดาวน์อย่างไร แล้วคุณคิดว่าคุณใช้เวลานั้นอย่างคุ้มค่าไหม
A : ฉันใช้เวลาช่วงล็อกดาวน์ไปอย่างคุ้มค่าเลยค่ะ แต่ก็เหมือนๆกับทุกคน ฉันกังวลถึงสุขภาพของผู้คนที่ฉันรักและผลกระทบระยะยาวของโควิด-19 นักเขียนเนี่ย โชคดีที่สามารถหลบไปอยู่ในโลกสมมติได้ แต่อย่างไรก็ไม่มีทางหนีความจริงที่ว่าปี 2020 เป็นปีที่เลวร้ายสำหรับใครหลายๆคน โดยเฉพาะผู้คนที่ยอมจบชีวิตตัวเอง ผู้ที่ต้องมามีปัญหาสุขภาพในระยะยาว และผู้ที่สูญเสียรายได้เพราะโควิด-19 การเผยแพร่อิ๊กคาบ็อกลงในช่องทางออนไลน์ทำให้ชีวิตของฉันมีความหมาย ฉันรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ได้ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่มีลูกน้อยแต่ดันต้องอยู่แต่ในบ้านเพราะโควิด-19 หวังว่าปี 2021 อะไรๆ จะดีขึ้นนะคะ ในระหว่างนี้ ฉันก็ยังคงแต่งนิยายอยู่ค่ะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี