หอการค้าไทยจัดสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ภายใต้แนวคิด รวมพลังสร้างสรรค์อนาคต (Connect the Dots : Design the Future) โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี มาร่วมปาฐกถาถึงทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยเร็วๆ นี้

Connect the Dots : Design the Future

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดการสัมมนาว่าแนวทางการทำงานแบบ Connect the Dots “สร้างความเชื่อมั่น ร่วมกันสร้างสรรค์ ช่วยกันผลักดัน” เพื่อรวมพลังฝ่าวิกฤตโควิด-19และฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย มองหาการเชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา

ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดและมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันโดยคนรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีมาเสริมการขับเคลื่อนประเทศ หากคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ได้ทำงานเสริมซึ่งกันและกัน จะเกิดพลังมหาศาลในการขับเคลื่อน

พัฒนาประเทศท่ามกลางความท้าทาย

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมปาฐกถาเรื่อง “การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทาย (BCG, พลังงาน)” ระบุว่าการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นักลงทุน และนักท่องเที่ยว รัฐบาลได้เร่งพลิกโฉมประเทศ ได้แก่ การเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในประเทศและกับประเทศเพื่อนบ้าน ปูพื้นฐานเศรษฐกิจใหม่เน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น นำเทคโนโลยีทันสมัยมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ให้วีซ่าพำนักระยะยาวแก่คน 4 กลุ่ม (กลุ่มที่มีความมั่งคั่งทางรายได้ กลุ่มผู้มีความรู้ กลุ่มเกษียณอายุ และคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ) โดยตั้งเป้าหมาย 1 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลอยากเห็นภาคเอกชน โดยเฉพาะหอการค้าไทยและหอการค้าต่างจังหวัด ร่วมกันคิดโครงการพัฒนาพื้นที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุน เพื่อให้การเปิดประเทศเป็นเครื่องมือสร้างความยั่งยืน และทำให้ประเทศฟื้นตัวเร็ว

ประเทศไทยกับการฟื้นตัวหลังโควิด-19

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจช่วงท้ายของปี 2564 ทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป คาดว่าเศรษฐกิจปี 2565ขยายตัวที่ร้อยละ 3.5-4.5 ทั้งนี้ ได้วางแนวทางบริหารไว้หลายประการ อาทิ การควบคุมการแพร่ระบาด สนับสนุนให้ภาคธุรกิจฟื้นตัว รักษาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนและการท่องเที่ยวขับเคลื่อนการส่งออก การลงทุนภาครัฐและเอกชน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ตอบโจทย์กับดักรายได้ปานกลาง ขีดความสามารถในการแข่งขัน การเติบโตที่ไม่สมดุล ความยากจนเรื้อรัง ความเหลื่อมล้ำ สังคมผู้สูงอายุ รวมไปถึงภาระทางการคลัง

พาณิชย์ยุคใหม่ เชื่อมไทยเชื่อมโลก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมปาฐกถากล่าวว่าที่ผ่านมา แม้ไทยไม่มีการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่เศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนได้เพราะยังมีการเกษตร อุตสาหกรรม และการส่งออก อย่างไรก็ตาม มีบางพื้นที่ที่ฝากเศรษฐกิจไว้กับบางสาขา จนขาดความสมดุล ดังนั้น ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบผสมผสานต่อไปในหลายประเด็น อาทิ การประกันรายได้ (ข้าว มัน ยาง ปาล์ม และข้าวโพด) การเร่งรัดการส่งออก ทั้งในตลาดใหม่และตลาดเก่าที่สูญเสียไป การค้าชายแดน การควบคุมราคาสินค้า หาจุดสมดุล ดูแลทุกฝ่ายทั้งต้นน้ำกลางน้ำ และปลายน้ำ และเร่งติดตามกติกา RCEP โดยเฉพาะประเด็นอี-คอมเมิร์ซ ต้องเน้นเรื่องความโปร่งใสเป็นธรรม และต้องคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ