เมืองไทยของเรามีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นานา หลากหลายรูปแบบ ทั้งธรรมชาติสร้าง และมนุษย์สร้าง จึงสามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดปีทุกฤดูกาล และที่สำคัญคือทุกภูมิภาคของเรามีอาหารการกินสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์ประจำถิ่นที่งดงาม
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัยนำคุณไปสนทนาเรื่องที่ท่องเที่ยวทั่วเมืองไทยกับนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดในประเทศ
l ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ อากาศดีเกือบทั้งประเทศยกเว้นภาคใต้ที่มีฝนชุก ทำให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวกันมากมาย ขอเรียนถามว่า ช่วงนี้การททท.มีโปรแกรมพิเศษส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวที่ไหนบ้างครับ
คุณฐาปนีย์ : จริงค่ะช่วงนี้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวกันเยอะมาก เพราะหน้านี่เป็น High Seasonของการท่องเที่ยวไทย ยกเว้นที่ภาคที่มีฝนตกชุกในระยะนี้คือภาคใต้ แต่หากไม่มีปัญหาน้ำท่วมหนักก็ยังสามารถไปเที่ยวได้นะคะ บอกได้ตรงๆ เลยว่า ทุกภาคของไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เที่ยวกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ ช่วงนี้มีคนมากมายไปเที่ยวดอยที่ภาคเหนือ และเที่ยวภูที่ภาคอีสาน แม้กระทั่งภาคกลางเองก็มีคนไปเที่ยวมากไม่แพ้ภาคเหนือบ้านของเรามีภูเขาสวย ทิวทัศน์งาม อาหารอร่อย รสชาติดีมาก มีขนบธรรมเนียมศิลปวัฒนธรรมให้ชื่นชม มีท้องทะเล เกาะแก่ง หาดทรายที่สวยงามให้สัมผัส ผลไม้ทุกชนิดของเราก็รสชาติวิเศษ ใครได้รับประทานแล้วก็ติดใจ คนที่เที่ยวเมืองไทยจนครบทุกภาคแล้วบอกตรงกันว่า เมืองไทยมีความหลากหลายของที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน ผลไม้ ศิลปวัฒนธรรม ไปเที่ยวกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ซึ่งเป็นความจริงค่ะ เพราะฉะนั้นเวลามีผู้ถามว่าไปเที่ยวเมืองไทยที่ไหนก่อนดี เราก็จะตอบสั้นๆ ว่า ดีทุกภาค ดีทุกจังหวัด และดีทุกฤดูกาล ขอให้เก็บกระเป๋าแล้วเดินทางท่องเที่ยวบ้านเราเถอะนะคะ แล้วจะประทับใจในอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น แต่ละจังหวัด แหล่งท่องเที่ยวในแต่ละภาคให้ประสบการณ์ที่แสนประทับใจกับผู้ไปเยือนเสมอ เช่น ไปจังหวัดภาคเหนือก็มีเอกลักษณ์ด้านอาหารการกิน การแต่งกาย ศิลปะ หัตถกรรม ดนตรีพื้นเมือง และภาษาถิ่น เป็นต้นสิ่งเหล่านี้สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวได้ดีที่สุด
l หมายความว่าแต่ละที่ท่องเที่ยวต่างก็มี local experience ให้กับนักท่องเที่ยว ใช่ไหมครับ
คุณฐาปนีย์ : ใช่ค่ะ สมมุติเราไปเที่ยวภาคเหนือ ก็บอกได้เลยว่า ในระยะเวลา 3-5 วันที่เราวางแผนการเที่ยว เราก็สามารถไปเที่ยวเชียงใหม่ และจังหวัดรอบๆ เช่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย แต่หากมีเวลามากขึ้น เราก็สามารถไปเที่ยวแพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ตาก เป็นต้น ทุกจังหวัดต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง แม้จะเป็นกลุ่มล้านนาด้วยกันก็ตาม แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ถิ่นที่ต่างกันในรายละเอียด ช่วงนี้ภาคเหนือมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมทั้งเมือง ขึ้นไปบนดอยสูงก็มีทะเลหมอกให้ชม วันที่อากาศหนาวมากๆ ก็มีเหมยขาบให้ชมอีก ขอยกตัวอย่างเทศกาลไม้ดอกที่เชียงราย ซึ่งจัดยาวไปถึงช่วงกลางเดือนมกราคม ปีหน้า สถานที่ท่องเที่ยวในทุกภาคของไทยตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม เพราะมีตั้งแต่พวกที่รักการผจญภัย ชอบนอนเต็นท์ชอบเดินป่า ล่องแก่ง ขี่บิ๊กไบค์เที่ยว หรือกลุ่ม activesenior หรือ silver age ที่เน้นการเที่ยวหรู อยู่สบาย กินดี นอนดี ทำบุญ ทำทาน นั่งสมาธิ หรือกลุ่มสายศรัทธา ก็มีที่ท่องเที่ยวให้โดยเฉพาะ กลุ่มที่ชอบศิลปะ ชอบผ้าพื้นเมืองสวยๆ ก็มีสถานที่ให้ไปทั้งเยี่ยมชม และจับจ่ายกระจายรายได้ บางกลุ่มก็เน้นการกินอาหารพื้นเมือง ก็มีของกินแสนอร่อยให้รับประทาน สรุปว่าเรามีที่ท่องเที่ยวให้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชอบตื่นเต้นผจญภัย หรือกลุ่มเที่ยวแบบเนิบช้า slow travel slow life บอกได้เลยว่าเมืองไทยมีให้เที่ยวทุกแบบ แต่เราไม่เน้นการเที่ยวแบบทำลายธรรมชาติ และอบายมุขทั้งปวง
l ช่วงนี้บ้านเรายังไม่พ้นปัญหาโควิด-19 แต่คนก็เที่ยวกันมาก คิดว่าเพราะอะไรครับ
คุณฐาปนีย์ : คิดว่าหลายคนเริ่มมั่นใจว่าเราน่าจะดูแลตัวเองให้รอดพ้นจากโควิด-19 ได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่เกินครึ่งประเทศฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองเข็มแล้ว และที่สำคัญคือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เข้มงวดกับการรักษาสุขลักษณะ มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปในสถานที่ และการเดินทางด้วยเครื่องบินและรถยนต์สาธารณะก็เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพของผู้ใช้บริการ แต่เท่าที่เห็นคือปัจจุบันผู้คนเน้นการท่องเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ เช่น ครอบครัว และเพื่อนสนิท โดยบางคนขับรถส่วนตัวไปเอง บางกลุ่มก็เช่ารถตู้ไปเที่ยวกันเฉพาะกลุ่ม แล้วก็แวะเที่ยวไปตามรายทาง ทำให้ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวมากขึ้น ได้เห็นจังหวัดต่างๆ ตามรายทางมากขึ้น ได้แวะซื้อของ ไหว้พระทำบุญบางคนก็เที่ยวแบบ workation คือทำงานไปด้วย และเที่ยวไปด้วย เนื่องจากเดี๋ยวนี้เราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ หากเราเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi ที่เสถียรได้ เราก็ทำงานได้ทุกแห่งในประเทศไทย รูปแบบนี้ทำให้เราเที่ยวได้พร้อมๆ กับทำงานได้แวะกิน แวะช้อป แวะไหว้พระ ทำบุญได้ตลอดการเดินทาง นับเป็นประสบการณ์ที่หายได้ยากมาก ดังนั้นจะเห็นว่าช่วงที่โควิด-19 เริ่มเบาบางในบ้านเรา จึงพบว่ามีผู้คนเดินทางท่องเที่ยวแบบกลุ่มเฉพาะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นการเที่ยวตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น กลุ่มเรือยอร์ช และ ซูเปอร์ยอร์ช กลุ่มสายกิน กลุ่มสายบุญ กลุ่มนิยมเกาะแก่ง กลุ่มที่ล่องเรือเที่ยวในแม่น้ำ เป็นต้น ทุกคนที่เที่ยวต่างบอกตรงกันว่าแหล่งท่องเที่ยวของเราสวยงามมาก เพราะได้พักฟื้นตัวเองในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักเป็นเวลานานหลายเดือน
l ในช่วงสิ้นปีนี้ถึงต้นปีหน้า ททท. มีกิจกรรมพิเศษส่งเสริมการท่องเที่ยวอะไรบ้างครับ
คุณฐาปนีย์ : รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวให้เร็วที่สุด ดังจะเห็นว่ารัฐบาลได้ทำโครงการต่างๆ เช่น เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 หรือโครงการทัวร์เที่ยวไทย เป็นต้น และจะมีโครงการอื่นๆ เช่น workationThailand โดยจะเชิญชวนให้ภาคธุรกิจเอกชนเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะต้องการช่วยให้มีการเดินทางท่องเที่ยวผสมกับการทำงานนอกสถานที่ ถือว่าเป็นการเที่ยวด้วยทำงานด้วย และเที่ยวเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เราได้เห็นว่าหลายบริษัทจัดอบรมสัมมนานอกสถานที่ เพื่อให้พนักงานได้พักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมก็เตรียมสัญญาณ WiFiที่เสถียรให้การรองรับคนกลุ่ม workation เป็นอย่างดี แล้วทำโรงแรมให้ตอบรับ mix used คือเพื่อการพักผ่อนและทำงานพร้อมๆ กัน และเรายังเตรียมรับตลาด young entrepreneurที่เป็นกลุ่มทำงานได้ทุกสถานที่ คนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูง เน้นการทำงานในด้าน digital assets แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ได้ทอดทิ้งคนกลุ่มเดิม กลุ่มเก่า โดยเฉพาะกลุ่มคน silver age ที่มีกำลังซื้อสูงมากเช่นกัน คือเราพยายามตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวให้ครบทุกกลุ่ม แม้กระทั่งกลุ่มเพื่อนและครอบครัว การให้บริการกับคนกลุ่มต่างๆ ต้องทำแบบเฉพาะตามความต้องการของกลุ่ม แต่เราก็ต้องเน้นการเติมให้กลุ่มต่างๆ ได้รับทราบเอกลักษณ์ของแต่ละท้องที่เข้าไปด้วย เพื่อให้เขาได้เห็นถึงความเป็นตัวตนของแต่ละชุมชน เพราะฉะนั้น ในปีหน้า เราจะมีสินค้าต่างๆ ที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ แล้วก็ตอบสนองความต้องการให้ตรงประเด็น เช่น กลุ่มอยากไปดูดาว ก็จะมีเส้นทางดูดาวให้ เส้นทางสายกิน ก็เตรียมให้เส้นทางสายมูเตลู เราก็เตรียมให้เช่นกัน เส้นทางสายบุญสายศรัทธา ก็เตรียมให้ด้วย เช่นปีหน้าเราจะทำเส้นทางแก้ชง คือเที่ยวแก้ชง เราจะมีให้เห็นเลยนะคะว่าชง 100% 75% 50% 25% จะต้องเที่ยวแบบไหน ต้องทำอะไร แล้วอีกเส้นทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากคือเส้นทางคนโสด ที่เราเตรียมไว้ในช่วงวาเลนไทน์ แต่เราไม่ได้เน้นการหาคู่ให้ใครนะคะ เราเพียงแค่นำคนกลุ่มเดียวกันไปเที่ยวด้วยกันเท่านั้น เพราะบางคนชอบเที่ยวแบบ solo traveler
l ปีใหม่นี้ ททท. จัด count down ที่ไหนบ้างครับ
คุณฐาปนีย์ : ททท. จัดเคาท์ดาวน์ 5 ภาคเลยค่ะภาคใต้ที่ภูเก็ต ภาคเหนือที่เชียงใหม่ ภาคกลางที่อยุธยา ส่วนเอกชนก็จัดงาน count down อย่างใหญ่โตในกรุงเทพฯหลายที่เลยค่ะ ส่วนภาคตะวันออกที่ระยอง ส่วนพัทยาก็มีงานใหญ่ และภาคอีสานที่นครราชสีมา ใครสะดวกที่ไหนก็ขอเชิญร่วมงานนะคะแต่ก็ต้องย้ำเหมือนเดิมนะคะว่า เวลาไปร่วมกิจกรรมใดๆ ที่มีคนมากมาย ก็ต้องรักษาการ์ดให้สูง เพื่อสุขภาพของเราทุกคน ต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด เราต้องมีความสุขโดยไม่เสี่ยงนะคะ
l เชื้อโอมิครอน จะส่งผลกระทบต่อการจัดงาน count down ไหมครับ
คุณฐาปนีย์ : ณ เวลานี้เราอาจจะตอบเรื่องนี้ยากมากแต่เรามั่นใจว่างาน count downจะยังดำเนินต่อไป แต่ก็ต้องดูสถานการณ์วันต่อวันด้วย เรารู้เพียงอย่างเดียวว่า เราต้องอยู่กับโควิด-19 ให้ได้ และเราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของมัน เราต้องระวังตัวให้ดี วันนี้มีโอมิครอน วันหน้าจะมีตัวไหนมาอีก เราก็ไม่รู้ แต่เศรษฐกิจต้องเดินต่อไป เราต้องเดินต่อไป เราต้องอยู่กับมันให้ได้ เราต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัย
l ปีหน้าจะมีงานเที่ยวเมืองไทย ที่สวนลุมพินีอีกไหมครับ และถามเรื่องหลักการ BCGที่ททท. เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย
คุณฐาปนีย์ : ณ วันนี้ว่ายังมีค่ะ เราไม่ได้จัดงานนี้มาสองปีแล้ว เพราะปัญหาโควิด-19 คาดว่าปีหน้าเราน่าจะจัดได้ เราเตรียมงานไว้พร้อมแล้วค่ะ เราจัดที่สวนลุมพินี เป็นเวลา 6 วัน งานนี้ได้รับความสนใจมาก เรามีสถิติคนเข้าชมงานในวันที่คนมากที่สุดคือแสนกว่าคน ในงานเราจัดแบ่งโซนเป็น 5 ภาคทั่วไทย งานนี้มีพันธมิตรมาร่วมจัดงานเป็นอย่างดี หลายคนรอชมการแสดงบนเวทีใหญ่ ซึ่งปีนี้ เรายืนยันว่ามีของพิเศษมานำเสนอด้วย ส่วนในงานก็จะเน้นเรื่องการนำเสนอของดีทั้งห้าภาค ทั้งของกิน ของใช้ และเอกลักษณ์ของทุกภาคมานำเสนอ และมีของดีทั่วทุกเขตของกรุงเทพฯ มานำเสนอด้วย งานจะจัดวันที่ 19-23 มกราคม 2565 ขอเชิญชวนนะคะ เตรียมชุดประจำถิ่นไว้สวมไปเที่ยวในงานนะคะเรามีแมวมองตามดูผู้แต่งกายสวยงามน่าสนใจ แล้วจะนำความงามเหล่านั้นไปนำเสนอในรูปแบบโฆษณา แต่เป็นโฆษณาจากของจริง ไม่ต้องประดิษฐ์ใดๆ ขึ้นมา คนที่ได้รับการคัดเลือกอาจจะได้ลงในหนังโฆษณาของททท. หรือขึ้นปกนิตยสารอสท. ขอกระซิบนะคะ เตรียมชุดสวยๆ เท่ๆ ไว้เลยนะคะ และปีหน้านี้ เราทำเป็นปี Visit Thailand Year เน้นการท่องเที่ยวไทยให้ Amazingยิ่งกว่าเดิม เราตั้ง concept ว่า ยิ่งไป ยิ่งให้ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย เราเน้นการท่องเที่ยวแบบรับผิดชอบสังคม เน้นความหลากหลายทางชีวภาพ และวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่ทำลายสถานที่ เราอยากเห็นทุกคนเที่ยวแบบรักษาสถานที่ เที่ยวแบบรับผิดชอบ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เน้นการท่องเที่ยวแบบ green เน้นการท่องเที่ยวแบบ BCG คือเน้นการเข้าถึงเอกลักษณ์ของชุมชน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียน B คือ Bio Economy C คือ Circular Economy G คือ Green Economy การเที่ยวแบบนี้จะช่วยในเรื่องเศรษฐกิจชุมชน ทำให้ผู้ท่องเที่ยวมีสุขภาพดี กินดี อยู่ดี ออกกำลังกายดี และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับทุกฝ่าย
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี