มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดีแทค (dtac)จัดโครงการคัดเลือกเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี พ.ศ.2564 ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “เกษตรสร้างสรรค์ สุขยั่งยืน” เฟ้นหาเกษตรกรที่มีศักยภาพ พร้อมสนับสนุนและยกย่องเชิดชูเกษตรกรไทยที่มีแนวความคิด และการปฏิบัติด้านเกษตรอินทรีย์ โดยใช้องค์ความรู้ต่างๆ มาพัฒนาและต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต ทั้งยังสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้แก่คุณภาพชีวิตของตนเอง สังคม และชุมชนโดยรอบ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในเรื่องเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio-Circular-Green Economy : BCG)

บุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด กล่าวในฐานะผู้ริเริ่มโครงการว่า “โครงการคัดเลือกเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดมุ่งเน้นให้เกษตรกรไทยได้รู้จักการทำการเกษตรแบบวิถีอินทรีย์ มุ่งเน้นถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นแกนหลัก พร้อมผสมผสานนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาประยุกต์และปรับใช้ไปกับกระบวนการผลิต นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดรับไปกับนโยบายของภาครัฐที่ว่าในเรื่องของเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมนำไปสู่การส่งออกผ่านช่องทางทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกภาคมิติ ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา โครงการเริ่มต้นด้วยการค้นหาปราชญ์ทางเกษตรว่าด้วยทฤษฎีใหม่ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงต่อด้วยโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร อาทิ ต้นแบบกลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์การเกษตร เกษตรกรเจ้าของแผนธุรกิจสินค้าเกษตรออนไลน์ ไปถึงการส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเกษตรกรเอง”

ด้าน อลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการต่างๆ ที่มีต่อภาคเกษตรว่า “เกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี การส่งเสริมการเรียนรู้โดยการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแก่เกษตรกร ที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทคได้ดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรมาโดยตลอด จนเกิดเป็นโครงการคัดเลือกเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดในปีนี้ หวังว่าการร่วมมือกันของมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ดีแทค และกรมส่งเสริมการเกษตร นับจากนี้ไปจะส่งผลให้การพัฒนาภาคการเกษตรของไทย เกิดความเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน และก้าวไกลยิ่งๆ ขึ้นไป พร้อมทั้งช่วยทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขอย่างแท้จริง”

ทางด้าน ประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เป็นแนวคิดหลักของการคัดเลือกเกษตรกรในปีนี้มีความสำคัญและยึดโยงกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ดีแทคในฐานะผู้ให้บริการการสื่อสารอันถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญเศรษฐกิจดิจิทัล เราได้วางนโยบายDigital Inclusion เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางดิจิทัล ผ่านการขยายโครงข่ายบนคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ภายใต้แนวคิด “ดีทั่วดีถึงเพื่อชีวิตที่เท่าเทียม” ประกอบไปด้วย 3 ภารกิจ ได้แก่ สัญญาณอินเทอร์เนตเพื่อทุกคน (Good for All Connectivity), การเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม (Affordable and Accessible Services) และ การเพิ่มทักษะดิจิทัล (Digital Upskilling) ทั้งนี้ ดีแทคจะยังเดินหน้าส่งเสริมให้ประเทศไทยดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม”

เกษตรกรที่ได้รับรางวัลในปี 2564 ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศ นราธิป ภูมิถาวร เกษตรกรจากฟาร์มปูนาชญาดา จ.สุโขทัยผู้สร้างธุรกิจจากความชอบ เกิดเป็นธุรกิจปูนาอินทรีย์สร้างชีวิต รองชนะเลิศอันดับ 1 จิรภัทรคาดีวี จากแสนบุญฟาร์ม จ.กาฬสินธุ์ วิศวกรหนุ่มผู้ผันตัวมาเป็นเกษตรกร สร้างผลผลิตทางการเกษตรส่งออกผักสลัด น้ำพริกกุ้งสมุนไพรและกุ้งก้ามกราม รองชนะเลิศอันดับ 2ธนวัฒน์ มโนวชิรสรรค์ เกษตรกรจากสวนบ้านแม่ จังหวัดพังงา ผู้สานต่อความฝันของแม่นำภูมิปัญญาเก่าผสมผสานกับเทคโนโลยีใหม่เกิดเป็นธุรกิจส่งออกมังคุดออร์แกนิก เกษตรกรดีเด่น ได้แก่ นภัสวรรณ เมณะสินธุ์ จากสวนเบญจมาศนภัสวรรณ จ.อุบลราชธานี, อิสมาแอลลาเต๊ะ จากสวนนูริสฟาร์ม จ.ยะลา, ภิญญา ศรีสาหร่าย จากฟาร์มฝันแม่ เกษตรอินทรีย์ จ.ราชบุรี, ภัทรฤทัย พรมนิล จากนพรัตน์ฟาร์ม จ.นครพนม, พิริยากร ลีประเสริฐพันธ์ จาก GardenThree จ.หนองคาย, รัฐรินทร์ สว่างสาลีรัฐ จากไร่ดีต่อใจ จ.สระแก้ว และ มโนธรรม ชูแสง จากบ้านไร่ ชายน้ำ ฟาร์มนก จ.สุราษฎร์ธานี