ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และสุขภาพทางเพศที่เสื่อมลง อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ปัญหาระยะยาว รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
ภาวะ ‘นกเขาไม่ขัน’ หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า “Erectile Dysfunction” (ED) ในทางการแพทย์คือ ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้นานขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้ ภาวะนี้แม้จะไม่อันตรายอะไรมาก แต่ก็มักเกิดปัญหาทางสุขภาพจิตต่าง ๆ เช่น ความสุขทางเพศ สัมพันธภาพในคู่สมรส ไปจนถึงปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว
นพ.จักรพงศ์ จิรสิริธรรม ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ประจำคลินิกสุขภาพเพศชาย (Men’ Health Clinic) โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์ (PRINCIPAL HEALTHCARE) กล่าวถึงอาการ ‘นกเขาไม่ขัน’ (Erectile Dysfunction) เป็นเพียงหนึ่งในภาวะการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นอกเหนือจากนี้ยังมีอาการหลั่งเร็ว (Premature ejaculation) , ไม่เสร็จกิจขณะมีเพศสัมพันธ์ (Delayed or inhibited ejaculation), ไม่มีอารมณ์ร่วมทางเพศหรือมีน้อยลง (Low or no libido) ฯลฯ โดยสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ส่วนใหญ่มักเกิดร่วมกันระหว่างโรคทางกาย กับปัญหาทางด้านจิตใจ โดยสาเหตุทางกายที่พบได้ เช่น จากโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ปัญหาจากตัวหลอดเลือดเสื่อมสภาพหรือไปเลี้ยงไม่เพียงพอ จากระบบประสาท, จากระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลง หรือมีความผิดปกติทางระบบฮอร์โมน โดยโรคทางกายที่เกิดนั่นอาจเกิดจากผลกระทบหรือเกิดร่วมกันกับภาวะทางจิตใจได้เช่นกัน ดังนั้นการได้รับการปรึกษาและการรักษาที่ดีในแบบองค์รวมนั้น สามารถนำไปสู่การแก้ไขภาวะหรือตัวโรคได้อย่างครอบคลุม ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการป้องกันและส่งเสริมในทุกๆด้าน และเพื่อสุขภาพที่ดีแบบยั่งยืน ซึ่งนอกจากการซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว อาจจะมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงก่อนเริ่มทำการรักษา
‘อายุ’ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ และหลีกเลี่ยงได้ยาก เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โอกาสที่จะเกิดภาวะ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และจากสถิติภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีโอกาสพบในผู้ชาย อายุต่ำกว่า 40 ปี ประมาณ 1-10% และในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ประมาณ 15-40% ตามช่วงอายุ
นอกเหนือจากอายุแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถเป็นความเสี่ยงต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ ยกตัวอย่างเช่น โรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน ผู้ที่เคยมีประวัติการผ่าตัด ผู้มีภาวะบกพร่องฮอร์โมนเพศชาย ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า ตลอดจนมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือขาดการออกกำลังกาย รวมทั้งปัจจัยทางสภาพสังคมและเศรษฐกิจ เป็นต้น
นพ.จักรพงศ์ จิรสิริธรรม ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิลเฮลท์แคร์ (PRINCIPAL HEALTHCARE) ยังกล่าวถึงแนวทางป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศว่า ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ส่วนแนวทางการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แบ่งออกเป็น แบบที่ไม่ต้องใช้ยา และแบบที่ต้องใช้ยา หรืออุปกรณ์ช่วย อย่างเช่น ใช้ยากลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 (PDE5i) ในการรักษาผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้ หรือยารักษาทดแทนฮอร์โมนเพศชายในผู้ป่วยที่มีฮอร์โมนเพศชายผิดปกติ รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ หัตถการและการผ่าตัดในการรักษาต่างๆ เช่น การฉีดยากระตุ้นที่องคชาต การใช้คลื่นเสียงกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดของอวัยวะเพศ (Li ESWT) และการผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม เป็นต้น
ทั้งนี้ อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ถือว่ามีโอกาสพบได้ทั่วไปในผู้ชายสูงวัย แต่อายุก็ไม่ใช่สาเหตุหลัก เพราะ 75% ของผู้ชายที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มักมีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ จึงพบได้แม้ในผู้ชายอายุไม่มากที่มีปัญหาสุขภาพแฝงอยู่ เช่น โรคหลอดเลือดอุดตันที่จะก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดในอนาคต ดังนั้นการดูแลสุขภาพเพศ ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย และยังเป็นการได้ดูแลสุขภาพร่างกาย และจิตใจของตนเองรวมทั้งคนรอบข้างให้ดี มีความสุข และมีความมั่นใจอีกด้วย
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 080 5953 และ www.princsuvarnabhumi.com หรือที่ Line@: @psuv
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี