ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงปฏิบัติพระกรณียกิจออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ณ สนามเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เมื่อวันที่ 2พฤษภาคม 2565 เวลา 07.46 น. ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีเสด็จไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบจังหวัดชลบุรี ทรงพระกรุณาโปรดให้ออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าโดยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมถึงการผ่าตัดทำหมันให้กับสุนัขและแมว ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่สำคัญในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ เพื่อให้บรรลุผลดังพระปณิธานในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ในการนี้ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และข้าราชการเฝ้ารับเสด็จ จากนั้น พระราชทานพระวโรกาสให้ พลเรือเอก สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เฝ้ารับพระราชทานวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและเวชภัณฑ์ เพื่อนำไปใช้ดูแลรักษา รวมถึงควบคุมประชากรสุนัขและแมวภายในพื้นที่กองเรือยุทธการ และพื้นที่ใกล้เคียง
จากนั้นทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรการออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ที่โปรดให้จัดกิจกรรมสัญจรแบบเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยเหลือสุนัขและแมวของประชาชนและสัตว์จรจัดทั้งการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ การผ่าตัดทำหมันควบคุมประชากรสุนัขและแมว พร้อมกับทรงนำทีมออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งทีมสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงพยาบาลสัตว์ทิพย์พิมาน และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยทรงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและทรงร่วมผ่าตัดทำหมันให้กับสุนัขในวันนี้รวมจำนวน 11 ตัว เพื่อควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของประชากรสุนัขในพื้นที่ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ
และก่อนที่จะดำเนินการผ่าตัดทำหมันให้กับสุนัขแต่ละตัว ทรงวางยาสลบ ด้วยการฉีดและดมยาสลบ พร้อมกับทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพของสุนัขด้วยพระองค์เองอย่างใกล้ชิด ผ่านจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิตรวมถึงอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัขระหว่างการผ่าตัด ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ยาดมสลบที่ใช้ ประกอบด้วยตัวยา 2 ชนิด คือ Sevoflurane ร่วมกับ Desflurane ซึ่งทรงศึกษาพบว่าจะทำให้สัตว์สลบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสัตว์ฟื้นจากสภาวะสลบได้อย่างรวดเร็ว มีความปลอดภัยสูงด้วย
สำหรับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าของประเทศไทยในปี 2565 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 1 รายในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และพบอัตราการเกิดโรคในสุนัขและแมวที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักยังเกิดจากการที่ผู้ถูกสุนัขและแมวกัดแล้วไม่ไปพบแพทย์เพื่อฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตลอดจนการที่สุนัขและแมวไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ จึงทรงให้ความสำคัญและเน้นย้ำอยู่เสมอเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการแก้ปัญหาและร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อขจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ การออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ยังได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ในส่วนของท้องถิ่น ทั้งจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี และหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่ร่วมกันปฏิบัติงานออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่อย่างเต็มกำลังเพื่อให้พื้นที่ในจังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า สนองพระปณิธานในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยวันนี้ มีบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และ ผ่าตัดทำหมันให้กับสุนัขและแมว รวมทั้งสิ้น 84 ตัว
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี