สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2521 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 ณ พระที่นั่งอัมพรสถานต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการได้โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ตลอดจนพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวงเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร โดยมิได้ทรงเหน็ดเหนื่อยและย่อท้อแต่อย่างใด ดั่งพระราชดำรัสเปิดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2562 ความว่า “...ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นที่จะสนองพระเดชพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเหมือนดั่งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด และแผ่ขยายพระบารมีแห่งสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี...”
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงใส่พระราชหฤทัยในสุขทุกข์ของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญที่จะดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 นั้น ได้โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณและพระราชทานความช่วยเหลือ ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ถุงยังชีพ หน้ากากอนามัย และสิ่งของอื่นๆ ที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดหาและพระราชทานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และชุมชนแออัด รวมทั้งทรงเย็บหน้ากากผ้าด้วยพระองค์เอง ซึ่งประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงพระวิริยอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจยาวนานกว่า 6 ทศวรรษในการพัฒนาส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย” จากสิ่งทอของชาวบ้านที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์อันทรงคุณค่า เป็น“มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น”ที่คนไทยและคนทั่วโลกยอมรับถึงคุณค่าและความงดงามอันประเมินค่ามิได้
ทุกครั้งที่ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ หรือเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ จะทรงฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บด้วย “ผ้าไหมไทย” ที่มีลวดลายงดงามและเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฉลองพระองค์ชุดไทยแบบพระราชนิยม หรือฉลองพระองค์ชุดไทยที่ตัดเย็บแบบร่วมสมัย รวมถึง “กระเป๋าทรงถือ” ที่เข้าชุดกับฉลองพระองค์ ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่ทำมาจากเศษผ้าไหมที่เหลือจากการตัดฉลองพระองค์ ทรงใช้ทักษะด้านการออกแบบเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งของเหลือใช้ ด้วยทรงตระหนักถึงการจัดการสิ่งของเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่เหลือทิ้งเป็นเศษขยะ
ด้วยพระราชจริยวัตรที่งดงามจึงทรงเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี คู่พระราชหฤทัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงสง่างามยิ่งในโอกาสอันเป็นมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2565ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ปกอภิบาล ประทานพรให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เจริญด้วยจตุรพิธพรพิพัฒน์สวัสดิมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ สถิตเป็นมิ่งขวัญแห่งปวงประชาสถาพรตราบกาลนานเทอญ
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธา พิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงสำเร็จการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรี นิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปีพุทธศักราช 2543 ต่อมาปีพุทธศักราช 2543-2546ทรงงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัทแจลเวย์ จำกัด และระหว่างปีพุทธศักราช 2546-2551 ทรงงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
พระราชประวัติด้านหลักสูตรการอบรมด้านการทหาร
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงสำเร็จการฝึกหลักสูตรวิชาทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ของโรงเรียน และศูนย์ฝึกหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พุทธศักราช 2553 ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ชั้นนายร้อย-ชั้นนายพัน หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ของโรงเรียนทหารราบศูนย์การทหารราบ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมพุทธศักราช 2554 ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรหลักประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบกชุดที่ 91 ในปีการศึกษา 2556 ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรหลักประจำ วิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 59 ในปีการศึกษา 2557ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ส่งทางอากาศของโรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พุทธศักราช 2559ทรงสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ส่งทางอากาศนาวิกโยธินของโรงเรียนทหารนาวิกโยธิน เมื่อวันที่27 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 ทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตร Combat QualifyingCourse Jungle Warfare ของหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 30ธันวาคม พุทธศักราช 2559 ทรงจบหลักสูตรการยิงปืนพกในระบบต่อสู้ภายใต้สภาวะกดดันของกองบังคับการปราบปราม เมื่อเดือนมีนาคม พุทธศักราช 2561
พระราชประวัติด้านหลักสูตรการอบรมด้านการบิน
สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรการบินของหน่วยการบินพลเรือน กองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พุทธศักราช 2553 ทรงทำการบินกับเครื่องบินแบบ Cessna T 41 และทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรศิษย์การบินทหารบกอากาศยานปีกติดลำตัว ชั้นมัธยม ของโรงเรียนการบินทหารบก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พุทธศักราช 2554 ทรงทำการบินกับเครื่องบินแบบ Cessna T 41 ทรงสำเร็จการฝึกและศึกษาตามหลักสูตรการบินของโรงเรียนการบิน กองทัพอากาศ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ทรงทำการบินกับเครื่องบิน แบบ CT-4E และ PC-9
จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทรงฝึกและศึกษาการบินเพิ่มเติม ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทรงผ่านการทดสอบและได้รับใบอนุญาตนักบินของสหภาพยุโรป ออกใบอนุญาตโดยสำนักงานการบินพลเรือน แห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดังนี้ ใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคล PPL(A) ทรงทำการบินกับเครื่องบินแบบCessna 172, Mooney M-20, PiperPA-34 Seneca ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรีCPL(A) โดยมี Type Rating ของเครื่องบินแบบBoeing 737 300-900 และใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอก (ATPL-Theory)อีกทั้งทรงได้รับใบอนุญาตนักบินพาณิชย์เอกจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยปัจจุบันทรงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนักบินผู้ช่วย ทำการบินกับเครื่องบินพระราชพาหนะ Boeing 737-400 และ Boeing 737-800
การทรงงานทางราชการ
ปี 2553 พุทธศักราช ทรงดำรงตำแหน่งรักษาราชการนายทหารยุทธการ ฝ่ายยุทธการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองกิจการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ สำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สน.ผบ.ทสส.
ปีพุทธศักราช 2555 ทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สน.ผบ.ทสส. ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันฝึกทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยฝึกทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ โรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สน.ผบ.ทสส.
ปีพุทธศักราช 2556 ทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับการโรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (2)/ ผู้บังคับการหน่วยฝึกทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์สน.ผบ.ทสส. อีกทั้งทรงดำรงตำแหน่ง นายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับการโรงเรียนทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
ปีพุทธศักราช 2557 ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ต่อมาปีพุทธศักราช 2559 ทรงดำรงตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานนายทหารปฏิบัติการพิเศษในพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ และทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอก) และปีพุทธศักราช 2560 ทรงดำรงตำแหน่ง รองสมุหราชองครักษ์ กรมราชองครักษ์ (อัตราพลเอกพิเศษ) และทรงดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี