คอรัล ไลฟ์ (Coral Life) เตรียมบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังเป็นผู้นำด้านกรีน อิโคโนมีนวตกรรมอาคารประหยัดพลังงานที่ได้รับรองมาตรฐานจากสถาบันชั้นนำจากเยอรมนี เจ้าแรกในภูมิภาค หลังธุรกิจเติบโตประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดภายใน 5 ปี ล่าสุดได้รับเลือกเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างอาคารสำนักงานในโครงการโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 7 ของ ปตท. มั่นใจช่วยลูกค้าประหยัดพลังงานสะสมคาร์บอนเครดิต พร้อมได้คุณภาพอากาศในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ คืนสิ่งแวดล้อมสะอาดให้สังคม
28 มิถุนายน 2565 ที่หอศิลปวัฒนธรรม นาย ซ้าง ซู ดง (Mr. Shan Zu Dong) ซีอีโอบริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ ไทยแลนด์ (China Petroleum Pipeline – (CPP), Thailand),นาย เจมส์ ดูอัน (Mr. James Duan) ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท คอรัล โฮลดิ้ง (Coral Holding) จำกัดและนายเทพฤทธิ์ ทิพย์ชัชวาลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอรัล ไลฟ์ (Coral Life) จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการเปิดตัวนวตกรรมอาคารประหยัดพลังงานหลังบริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด ได้รับเลือกเป็นผู้ก่อสร้างอาคารสำนักงานในโครงการโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 7 บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มาบตาพุด จ.ระยอง
นาย ซ้าง ซู ดง กล่าวว่า CPP เป็นบริษัทชั้นนำของโลกในเรื่องการแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซ เราสร้างท่อก๊าซมากว่า 100,000 กม.ทั่วโลก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต้องการสร้างโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 7 ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานและความยั่งยืน ในเรื่องแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซ CPP เชื่อว่าเราสามารถทำได้ เราใช้ทีมวิศวกรออกแบบกว่าร้อยคนที่สำนักงานเมืองเซินเจิ้นทำงานในโครงการนี้ ส่วนเรื่องอาคารประหยัดพลังงานCPP ได้เลือกให้ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด เป็นผู้รับเหมางานทั้งหมดตั้งแต่ออกแบบทางสถาปัตยกรรม ออกแบบระบบอาคารที่ประหยัดพลังงาน และก่อสร้างอาคารเนื่องจากมั่นใจในความสามารถและคุณภาพของบริษัทแห่งนี้และเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบัน Passive House ของประเทศเยอรมนีที่เป็นที่ยอมรับว่าเป็นมาตรฐานที่มีการประหยัดพลังงานสูงที่สุดและทำเรื่องคุณภาพอากาศภายในอาคาร
ด้านนาย เจมส์ ดูอัน (Mr. James Duan) กล่าวว่า บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท คอรัล โฮลดิ้งซึ่งดำเนินธุรกิจด้านนวตกรรมเศรษฐกิจสีเขียวหรือ Green Economy ซึ่งถือเป็นทิศทางใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตและจะส่งผมดีต่อโลกของเรา โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการด้านการพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานกับคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯที่ตนได้พัฒนาภายใต้แบรนด์ Circleมานานแล้วกว่า 20ปี โดยได้ศึกษาทำการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมั่นใจว่านวตกรรมของ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด จะนำสิ่งที่ดีมาให้แก่ลูกค้า คู่ค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ China Petroleum Pipeline, คุณ ซ้าง ซู ดงที่ได้ให้โอกาส บริษัท คอรัล ไลฟ์จำกัด รับงานของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ และยืนยันว่ากลุ่มบริษัท คอรัลโฮลดิ้ง มุ่งมั่นนำนวตกรรมใหม่ๆมานำเสนอเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของลูกค้าและสิ่งแวดล้อมที่ดีของสังคมต่อไป
ขณะที่นาย เทพฤทธิ์ ทิพย์ชัชวาลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2560โดยใน3 ปีแรกได้ใช้เวลาและลงทุนไปกับการทำวิจัยและพัฒนา ได้มีการติดต่อพูดคุยและเข้าพบกับนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งเรื่อง Material Science และเรื่องอากาศ ได้ศึกษาเทคโนโลยีของญี่ปุ่นและยุโรป เข้าพบบริษัทผู้ผลิตต่างๆมากว่า 40 แห่ง จนในที่สุดได้เลือกทำงานร่วมกับสถาบัน Passive House ที่ประเทศเยอรมนี สถาบันอิสระที่ได้รับการยอมรับในเรื่องอาคารประหยัดพลังงานและคุณภาพอากาศภายใน และสร้างความร่วมมือกับอีก 5 บริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและเครื่องกรองอากาศที่เราได้เลือกสรรในต่างประเทศ คือ Saint-Gobain(ฝรั่งเศส), Zehnder(เยอรมนี), Schuco(สวิตเซอร์แลนด์,SIGA(สวิตเซอร์แลนด์) และNorthGlass(จีน)
ต่อจากนั้นก็ได้สร้างบ้านตัวอย่างเพื่อทดลองว่านวตกรรมที่คิดค้นนั้นใช้ได้จริง โดยสร้างบ้านขนาด 200 ตรม. สองชั้น สามห้องนอน ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆตามนวัตกรรมของคอรัลไลฟ์ และได้เปิดเครื่องปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศตลอด 24ชั่วโมง มาตลอด3ปีครึ่งจนถึงทุกวันนี้ ได้มีการเก็บข้อมูลอุณหภูมิและคุณภาพอากาศทั้งภายในและภายนอกบ้านรวมทั้งการใช้ไฟฟ้า จนพบว่าค่าเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าของบ้านหลังดังกล่าวอยู่ที่ 5,400 kwhต่อปี ซึ่งคิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 2,000 บาทต่อเดือนสำหรับการปรับอากาศและกรองอากาศทุกห้องในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ซึ่งหากเทียบกับบ้านขนาดเดียวกันทั่วไป จะมีค่าเฉลี่ยการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 32,400 kwhต่อปี ซึ่งคิดเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 10,000 บาทต่อเดือนจนเราแน่ใจว่านวตกรรมของเราสามารถประหยัดพลังงานตั้งแต่ 70% ขึ้นไป อุณหภูมิและคุณภาพอากาศภายในอาคารถูกควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติที่ทำงานคู่กับข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ต่างๆให้เย็นสบายและสดชื่นตลอด 24 ชั่วโมง
“ในกรณีของอาคาร Administration building 2,460 sqm ในโรงแยกก๊าซหน่วยที่7 นี้ เราสามารถลดจำนวนปริมาณ BTU ได้ 84% จาก 3,109,600 BTU หากเป็นการสร้างอาคารแบบ Conventional เหลือ 506,000 BTU การใช้พลังงานไฟฟ้าลดจาก 1,497,397 kwh/year เหลือ 379,008 kwh/year หรือลดลง 75% ถ้าคิดเป็นเงินก็ประมาณ 4,700,000 บาทต่อปี นอกจากนั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยังสามารถสะสมคาร์บอนเครดิต 525.6 TON ต่อปี ถ้าคำนวณตามราคาซื้อขายที่ตลาดยุโรปก็จะได้ประมาณ 1,549,971 บาทต่อปี อาคารหลังนี้ก็จะได้รับการรับรองมาตรฐานของ Passive House ของประเทศเยอรมนี” นายเทพฤทธิ์กล่าว
ส่วนเรื่องอากาศภายในอาคารที่มีคุณภาพนั้น นายเทพฤทธิ์ได้อ้างถึงงานวิจัยชื่อ The Impact of Working in a Green Certified Building on Cognitive Function and Health หรือ ผลกระทบที่มีต่อการทำงานในอาคารที่ได้มาตรฐานสีเขียวในด้าน กระบวนการที่สมองใช้ในการรับข้อมูลและตัดสินใจ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Building and Environmentซึ่งสรุปว่า จากการทำวิจัยกับคน 109 คน ที่ทำงานอยู่ใน 10 อาคาร ใน 5 หัวเมืองในสหรัฐอเมริกา คนที่ทำงานอยู่ในอาคารประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวมีความเข้าใจว่าสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานของตนดีกว่า มีอาการป่วยจากการทำงานในอาคารน้อยกว่า 30% มีกระบวนการที่สมองใช้ในการรับข้อมูลและตัดสินใจหรือ Cognitive Functionสูงกว่า 26.4% และมีคะแนนการนอนหลับสูงกว่า 6.4% เมื่อเทียบกับคนทำงานในอาคารประสิทธิภาพสูงที่ไม่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว
โดย นายเทพฤทธิ์ได้นำตัวชี้วัดต่างๆสำหรับมาตรฐานคุณภาพอากาศในอาคารของงานวิจัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายเทคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ความชื้น เสียง อุณหภูมิ PM2.5 ฯลฯ มาเทียบกับค่าเหล่านี้ที่เขาเก็บข้อมูลจากบ้านตัวอย่างพบว่า บริษัท คอรัลไลฟ์ จำกัด ผ่านและทำได้ดีกว่าในบางค่า ซึ่งมั่นใจว่าคุณภาพอากาศในอาคารประหยัดพลังงานของ บริษัท คอรัลไลฟ์ จำกัด จะส่งผลดีต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของคนในอาคาร
นายเทพฤทธ์ กล่าวต่อว่า เราเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อเข้าสู่ Green Economy โดยเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งโทเทิลโซลูชั่น (Total Solution) สำหรับอาคารและบ้านพักอาศัยทุกประเภท ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอยู่ 5 โครงการ
สำหรับ รายได้ของบริษัทในปี 2564 คือ 55 ล้านบาท และในปี 2565 คาดจะมีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท และมี Backlog อีกประมาณ 300 ล้านบาทและเชื่อว่า Business Model ของบริษัทในการเน้นการสร้างความร่วมมือกับผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและอากาศ จะทำให้เราสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืน
“ถ้าให้ผมวางเป้า ผมคิดว่าข้อดีต่างๆของโซลูชั่นของเราที่มีต่อลูกค้า คู่ค้า สังคมและสิ่งแวดล้อม น่าจะทำให้เราสามารถได้ส่วนแบ่งตลาดของการก่อสร้างราว2.5%ในเวลา 5ปีก็คือ 2.5% ของ 1.3 ล้านล้านบาท หรือประมาณ32,000 ล้านบาทและเราก็ต้องการจะขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซี่ยนเนื่องจากเราเป็นรายแรกในประเทศเขตร้อนชื้นที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของสถาบัน Passive House เราได้ส่งข้อมูลที่เราเก็บจากบ้านตัวอย่างไปให้ทางสถาบันทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกับเรา เรามีความร่วมมือกับผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่เราเลือกสรร โดยบางเจ้าให้เราเป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซี่ยน” นายเทพฤทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายเทพฤทธิ์ยังชวนให้คิดว่าถ้าปริมาณ BTU ในกรุงเทพฯ ลดลงไป 80% และการใช้ไฟฟ้าของอาคารลดลงไป 70% จะเป็นยังไงบ้าง และการใช้ไฟฟ้าที่เหลืออีก 30% สามารถตอบโจทย์ด้วยพลังงานทางเลือก ถ้าอย่างนั้น Net Zero ก็เป็นไปได้สุขภาพของคนกรุงเทพฯ จะดีขึ้น อีกทั้งชวนคิดต่อว่า Climate Change เกิดขึ้นแล้วและมีราคาที่ทุกคนต้องจ่ายแพงมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม,ไฟป่า,อากาศพิษ,หมอกควัน ส่วนClimate Actionนั้นมีราคาถูกกว่า Climate Changeเยอะมากและยังได้ผลประโยชน์ต่างๆอีกทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจทั้งได้เชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมทำ Climate Action กับคอรัลไลฟ์
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี