ตามปกติแล้วหลายหลายคนอาจจะคุ้นชินกับการดูแลผิวพรรณในรูปแบบของการทาครีมบำรุง และ การทานวิตามิน เพื่อเป็นการเติมวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นให้กับผิว แต่ก็อาจจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผล และผลที่ได้อาจไม่ทันใจใครหลาย วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำข้อมูลก่อนฉีดวิตามินผิว อย่างไรให้เห็นผลและคำนึงถึงความปลอดภัยสำหรับผู้ที่ฉีดครั้งแรก
สาเหตุผิวหมองคล้ำ มีสาเหตุจากอะไร? ป้องกันได้หรือไม่?
ปัจจัยภายนอกและภายในล้วนส่งผลให้ผิวหมองคล้ำลงได้ทั้งนั้น ปัจจัยภายใน ได้แก่ อายุ คอลลาเจนที่น้อยลงส่งผลให้เซลล์ผิวคล้ำหมองลงได้เช่นกัน เราสามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ เช่น หลีกเลี่ยงมลภาวะที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระแก่ผิว เช่น ฝุ่นผง แสงแดด รวมถึงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นการช่วยชะลอวัยจากภายในสู่ผิวภายนอกได้ เราไม่สามาถป้องกันอายุหรือวัยที่ผ่านไปได้ แต่สามารถชะลอและบำรุงให้ผิวของเราสดใส กระจ่างใสอ่อนกว่าวัยได้
ลดความหมองคล้ำ ย้อนอายุผิว สามารถทำได้อย่างไรบ้าง?
ขอแบ่งเป็นการดูแลทั้งภายนอกและภายใน สำหรับภายนอกแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว ค่า SPF สูงรวมถึงมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว ส่วนปัจจัยภายในที่เราสามารถชะลอให้ผิวดีขึ้นได้ คือ ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารเสริม ฉีดวิตามินบำรุงผิว ก็เป็นตัวช่วยให้ผิวแข็งแรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และวิตามินยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้อีกด้วย สำหรับท่านที่เวลาน้อย การฉีดวิตามินก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สามารถทำและเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าการกินวิตามินแบบเม็ด เพราะ การฉีดวิตามินเป็นการผลักวิตามินที่จำเป็นต่อผิว ผม เล็บผ่านทางเส้นเลือดดำเข้าสู่ร่างกายโดยตรง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที จึงเป็นสาเหตุทำให้การฉีดวิตามินผิวสามารถเห็นผลได้เร็วและชัดเจนกว่าวิธีอื่น
ฉีดวิตามินผิวคืออะไร
คือการฉีดวิตามินที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุ และ อาหารที่จำเป็นต่อผิว เข้าทางเส้นเลือดหรือที่หลายคนเรียกว่า IV Vitamin therapy หรือ IV ที่ย่อมาจาก Intravenous แปลว่า “หลอดเลือดดำ” โดยมีตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักเป็น วิตามินซี (Vitamin C) ซึ่งเป็นวิตามินร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก เพื่อใช้ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทาน เพื่อนำไปสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายนั่นเอง
สูตรวิตามินที่จะช่วยบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรง ลดความหมองคล้ำ มีดังนี้
1. Vitamin White Plus เป็นวิตามินสูตรเข้มข้นเฉพาะของกังนัมคลินิก ที่ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ร่างการมีภูมิคุ้มกัน และ ทำให้เส้นผมแข็งแรงมีสุขภาพดี
2. Vital Glow เป็นสูตรวิตามินซีเข้มข้นที่จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
3. Meso Blink เป็นสูตรวิตามินที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อเน้นให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. Extra White Plus เป็นสูตรวิตามินที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟูเด้ง และ ปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสมากกว่าที่เคย
5. Fairy Cocktail วิตามินรวมสูตรเข้มข้น ที่เน้นบำรุงผิวให้กระจ่างใส อมชมพู และ สริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดี
6. Perfect White Radiance สูตรวิตามินที่จำช่วยให้ผิวกระจ่างสว่างใส เต่งตึง ลดการเกิดริ้วรอย แลดูสุขภาพดี
7. Aura White Skin สูตรวิตามินที่มีส่วนผสมของหัวเชื้อกลูต้า Acetin ที่เข้มข้นกว่าใน Cinder มากถึง 200 เท่า เน้นให้ผิวขาวอย่างรวดเร็ว
ฉีดวิตามินผิวช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ฉีดวิตามินผิว เป็นการเติมวิตามินผ่านทางเส้นเลือดโดยตรง จึงทำให้ร่างกายสามารถนำวิตามินและอาหารผิวไปใช้ได้ทันทีซึ่งสามารถช่วยเรื่องผิวได้โดยตรงโดยเฉพาะเติมเต็มความชุ่มชื้น สร้างปราการให้ผิวแข็งแรง รวมถึงวิตามินซี คอลลาเจน รวมถึง HAในวิตามินที่ฉีดเข้าไปยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้มีมากขึ้น ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ในช่วงโควิดที่ผ่านมาการฉีดวิตามินผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินบีรวมแร่ธาตุต่างๆยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายอีกด้วย
หากวิตามินผิวอย่างต่อเนื่อง จะทำให้กระจ่างใสขึ้นจริงหรือไม่?
เนื่องจากในส่วนผสมของวิตามินฉีดผิวจะมีส่วนประกอบของ Vit B, Vit C, Amino, ,NAC, Antioxidant หรือ Collagen ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่ให้ประโยชน์กับผิวโดยเฉพาะ NAC (N-Acetyl Cysteine) เป็นโครงสร้างของการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์ Glutathione และ ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ
ดังนั้นการฉีดวิตามินผิวจึงจะช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ปกป้องผิวทำให้เซลล์แข็งแรง และ ช่วยสร้างคอลลาเจนเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง
อยากฉีดวิตามินผิวให้เห็นผล ควรทำกี่ครั้ง แต่ละครั้งควรเว้นระยะอย่างไร
ช่วง1เดือนแรกจะแนะนำให้มีการฉีดวิตามินผิวติดต่อกัน 1สัปดาห์/ครั้ง และหลังจากนั้นจึงค่อยๆเว้นระยะห่างออกไปเป็น 2-3 สัปดาห์/ครั้ง จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พอใจ จากนั้นสามารถเว้นระยะห่างออกไปเป็น 1-2 เดือนต่อครั้ง เพื่อบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง
ฉีดวิตามินผิวมีข้อห้ามในใครบ้าง?
1. ไม่แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร ใช้โปรแกรมฉีดวิตามินผิว
2. ฉีดวิตามินผิวไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ หรือ โรคไต
3. คนไข้ที่มีภาวะของธาตุเหล็กเกิน ควรมฉีดวิตามินผิว เพราะวิตามินซีจะทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กมากขึ้น
4. ไม่เหมาะกับคนที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) หรือ เม็ดเลือดแดงแตก
อยากผิวดีเรียบเนียน นอกจากฉีดวิตามินผิวแล้ว แนะนำให้ดูแลตัวเองอย่างไร?
การฉีดวิตามินผิวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะผิวเดิมที่มาจากกรรมพันธุ์ได้ แต่สามารถทำให้ผิวเรียบเนียน สุขภาพดีในแบบของตัวเองได้ โดยแนะนำให้ฉีดวิตามินผิวอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการทานวิตามินเป็นประจำ รวมถึงหากต้องการดูแลผิวหน้าเป็นพิเศษสามารถพิจารณาการทำเลเซอร์หน้าใส การฉีดวิตามินดีท็อกสารพิษในผิวหน้าโดยเฉพาะร่วมด้วยจะทำให้สุขภาพผิวดี เรียบเนียนกระจ่างใสชัดเจนขึ้น
ความรู้สึกหลังรับบริการฉีดวิตามินผิว
ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สามารถทำร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ เช่น เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน เลเซอร์หน้าใสร่วมได้เพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี