การที่ใต้คล้ำ มีริ้วรอย มีถุงใต้ตา อาจทำให้ใบหน้าทั้งหมดดูหมองคล้ำ เหนื่อยล้า และ ดูโทรม หมดสง่าราศี ไปด้วย ดั้งนั้นใครที่กำลังประสบปัญหานี้มักจะนิยมไปเติมฟิลเลอร์หรือเลือกที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วน แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนดี และเติมฟิลเลอร์จะเหมาะกับการแก้ไขปัญหาใต้ตาในลักษณะไหนบ้าง อยากฉีดให้ปลอดภัยและได้ผลจริงควรรู้อะไรบ้าง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เหมาะกับการแก้ปัญหาผิว ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง และเพิ่มปริมารเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนคอลลาเจนให้ร่องที่ลึกกลับมาและเรียบเนียนเท่ากับบริเวณโดยรอบ ให้ดูเต็มและเต่งตึงมากขึ้นทำให้ผิวบริเวณนั้นชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน และลดรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย
สาเหตุของปัญหาใต้ตามีอะไรบ้าง
ใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ เมื่อจมูกบวม การไหลเวียนของเลือดก็จะถูกปิดกั้น ระบบการไหลเวียนเลือดติดขัด จึงเกิดเป็นเลือดคั่งอยู่บริเวณผิวหนังใต้ตา และ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักมีอาการระคายเคืองที่ตา ส่งผลทำให้ต้องขยี้ตาเป็นประจำ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ใต้ตามีริ้วรอยแหละหมองคล้ำ
การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้รอบดวงตามีความคล้ำ ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น และนอกจากนี้การพักผ่อนน้อยยังทำให้มีปัญหาเรื่องตาบวม หรือ ถุงใต้ตาได้อีกด้วย
อายุที่เพิ่มมากขึ้น Baby Fat บริเวณแก้ม และ ใต้ตา ก็จะเริ่มหายไปจนเกิดร่องลึกใต้ตา ทำให้ตาโหล ตาดำ และ มีถุงไขมันใต้ตา รวมถึงคอลลาเจนใต้ชั้นผิวก็ลดลงอย่างหลีกเลียงไม่ได้
ลักษณะทางพันธุกรรม เช่น คนฝั่งยุโรป จะมีเบ้าตาลึกเมื่อมีแสงตกกระทบเป็นเงาก็จะทำให้ใต้ตาดูดำคล้ำ รวมถึงคนอินเดียก็จะมีผิวใต้ตาคล้ำมากกว่าคนฝั่งเอเชียที่เป็นคนจีนเกาหลี
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง?
1. ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอยเหี่ยวย่นใต้ตา และรอยตีนกาที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
2. ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ มีวงคล้ำรอบดวงตา ขอบตาดำ ที่ทำให้ใบหน้าหน้าดูอ่อนล้า
3. ช่วยแก้ปัญหา ตาโหล เบ้าตาลึก ที่จากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และกล้ามเนื้อที่มีการยุบตัว
4. ช่วยแก้ปัญหาผิวใต้ตาคล้อยทำให้มีริ้วรอยและร่องลึกใต้ตาที่เห็นได้ชัด
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของสารเติมเต็มที่ใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีด เช่น การดื่มน้ำในปริมาณมากๆ พักผ่อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงการขยี้รอบดวงตา หรือรักษาอาการภูมิแพ้ให้หาย เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น แต่แม้ฟิลเลอร์ที่ฉีดจะสลายไปแล้วก็ไม่ได้ทำใต้ตาของเราแย่ลงไปกว่าก่อนฉีดฟิลเลอร์ ดังนั้น ฉีดดีกว่าไม่ฉีดแน่นอน
ลักษณะใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะที่จะเติมฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์จะได้ผลดีในกรณีปัญหาร่องลึกใต้ตาจากการยุบตัวของกล้ามเนื้อและกระดูก มีริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงลดความคล้ำของผิวใต้ตาได้ สำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตานูนมีถุงใต้ตาคล้อยลงมามีขนาดใหญ่อันเกิดจากผิวคล้อยและมีไขมันสะสม การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาอาจจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ กรณีมีถุงนูนใต้ตา แนะนำผ่าตัดถุงใต้ตาจะให้ผลดีมากกว่า
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่
การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละครั้ง ใช้ในปริมาณข้างละ1-2 CC เท่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างใบหน้า ชั้นผิวใต้ตา โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินให้ตามความเหมาะสมให้เป็นรายบุคคล ส่วนมากคนไข้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก มักมีปัญหาขมับยุบตอบด้วยเช่นกัน สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าว่าควรฉีดจุดไหนเพิ่มเติมบ้าง
ก่อนฉีดฟิลเลอร์มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้
- งดทานยาแอสไพริน และ ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS เช่น Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการทานวิตามินบางชนิดเช่นวิตามินอี น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส น้ำมันปลา ขิง กระเทียม สารสกัดจากโสม และ ใบแปะก๊วย อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- มีสุขภาพแข็งแรงและไม่อยู่ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดและงดการสูบบุหรี่
การปฎิบัติตัวหลังเติมฟิลเลอร์เพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
- งดการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก
- งดทำให้ใบหน้าโดนความร้อนเช่นการอบซาวน่า การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น การนวดหน้าด้วยความร้อน หรือ การทำเลเซอร์ รวมถึงการนั่งหน้าเตาชาบู ปิ้งย่าง หมูกระทะด้วย
- งดการจับ สัมผัส กด หรือปั้นทรง ด้วยตัวเองในบริเวณที่ฉีดสารเติมเต็ม
- ในช่วง 3 วันแรกแนะนำให้ดื่มน้ำมากกว่าปกติอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้สาร HA เกิดการอิ่มฟู ดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
- งดการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วง 3 วัน หลังโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เติมฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์ก่อนหลังเป็นอย่างไรบ้าง?
ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล
สรุปฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อ เราควรเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี?
ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อจะมีค่าความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกัน โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อยที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันอีกเพื่อให้เหมาะกับการเลือกใช้บนใบหน้าให้ครบทุกจุด โดยยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยในตอนนี้ได้แก่ Juvederm (ฟิลเลอร์อเมริกา), Restylane(ฟิลเลอร์สวีเดน) , Neuramis(ฟิลเลอร์เกาหลี), Belotero(ฟิลเลอร์สวิส), Revanesse, Perfectha(ฟิลเลอร์ฝรั่งเศส) ,Yviore และ E.P.T.Q ฟิลเลอร์น้องใหม่จากเกาหลี สามารถฉีดได้ทุกยี่ห้อ ตามงบประมาณของคนไข้ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อตัดสินใจเลือกยี่ห้อได้ เพราะเป็นยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยแล้วทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี