นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเยอรมนีทางตอนใต้ ในฤดูร้อนไม่เพียงสามารถมีประสบการณ์กับมิวเซียม วัง วัด เฉกเช่นการเยือนยุโรปเหนือทั่วไปที่ทำในฤดูหนาวแล้ว ยังสามารถมีประสบการณ์กับทะเลสาบได้อย่างไม่ยากเย็นด้วย นั่นคือ การไปเยือนทะเลสาบคอนสแตน ทะเลสาบทางตอนใต้ของเยอรมนีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านอีก 2 แห่ง นั่นคือ สวิสและออสเตรีย
ทะเลสาบคอนสแตนนี้ถือกำเนิดจากธารน้ำแข็งไรน์ตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง หลังสิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 1 หมื่นปีก่อน ส่วนของทะเลสาบประกอบด้วย Obersee และ Untersee ส่วนที่เชื่อมต่อเรียกว่า Seerhein ส่วนของแม่น้ำไรน์ตรงตำแหน่งเทือกเขาแอลป์ หรือ Alpine Rhine นั้น เป็นจุดเริ่มต้นของเขตแดนระหว่างออสเตรียและสวิส โดยน้ำจะไหลเข้าไปยังทะเลสาบจากทางใต้ ส่วนทางเหนือหรือ High Rhine จะไหลจากทิศตะวันตกออกไปยังน้ำตก Schaffhausenซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตแดนระหว่างเยอรมนีกับสวิสจนถึงเมือง Basel ของสวิส
ทะเลสาบที่ชาวเยอรมันใช้ชื่อว่า Bodensee ที่มาจากหมู่บ้าน Bodman นี้ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรปตอนกลางและตะวันตกโดยเป็นรองแค่ทะเลสาบเจนีวา และ Balaton เท่านั้นโดยมีขนาดกว้าง 14 กิโลเมตร ยาว 63 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่536 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่เหนือระดับน้ำทะเล395 เมตร ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทะเลสาบแห่งนี้มีเวลาต่างกัน 5 ช่วงตามความรับผิดชอบของแต่ละประเทศแม้จะมีความยาวเพียงแค่ 46 กิโลเมตร ก็ตามอันเป็นผลมาจากที่นี่เป็นจุดนัดพบของกษัตริย์ของแต่ละประเทศในช่วงที่แต่ละประเทศต่างไม่ลงให้แก่กัน นาฬิกาที่ท่าเรือของแต่ละประเทศจึงต้องมีถึง 3 เรือนโดยตั้งเวลาตามแต่การเข้า-ออกของแต่ละประเทศส่งผลให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติการเดินทางในทะเลสาบอย่างมาก อย่างไรก็ดี ภายหลังประเทศทั้งหมดรอบทะเลสาบได้หันมาใช้เวลาใน time zone เดียวกัน การตั้งนาฬิกาที่ต่างกันตามท่าเรือจึงสิ้นสุดลง
ส่วน Obersee ที่มีพื้นที่ 473 ตารางกิโลเมต รในฝั่งเยอรมนีมีเมืองท่องเที่ยวอยู่หลายเมืองที่เป็นที่นิยม อาทิ Friedrichshafen, Bregenz, Lindau, Meersburg เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดคือเมือง Meersburg ส่วนเมืองที่เดินทางไปเที่ยวง่ายที่สุดจากเมืองมิวนิกคือ เมือง Lindau
เมือง Lindau เป็นเมืองสำคัญบนเกาะทางทิศตะวันออกของทะเลสาบคอนสแตนซึ่งอยู่ในแคว้นบาวาเรีย เมืองนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยต้นโรมันราวคริสต์ศตวรรษที่ 1 แต่อยู่ในชื่อ Aeschach ก่อนที่จะมีชื่อปรากฏว่า Lindau ในปี 882 โดยพระสงฆ์จาก St.Gallenในปี 1274 Lindau ก็ได้รับการสถาปนาเป็นรัฐอิสระภายใต้รัชสมัยของพระเจ้า Rudolf I ต่อมาในปี 1528 พลเมืองของเมืองนี้ก็ยอมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปโปรแตสแตน ในปี 1802 Lindau สูญเสียความเป็นรัฐอิสระและเข้าสู่การปกครองของ Karl August von Bretzenheim ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรียก่อนที่ Lindau จะกลับมาเป็นของแคว้นบาวาเรียเยอรมัน ในปี 1853 รัฐบาลแคว้นบาวาเรียตัดสินใจสร้างทางรถไฟเพื่อเชื่อมเกาะเข้ากับแผ่นดิน และอีก 3 ปีต่อมาก็ตัดสินใจสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ และสร้างประภาคาร รวมทั้งให้รูปปั้นสิงโตเป็นสัญลักษณ์ของเมือง หลังสงครามโลกครั้งที่สองLindau กลายเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส ก่อนที่จะได้กลับเข้ามาเป็นของแคว้นบาวาเรียใหม่อีกครั้งในปี 1955
นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนที่ Lindau สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งละอันพันละน้อยของเมืองตั้งแต่ บรรยากาศริมทะเลสาบ ประภาคาร ศาลาว่าการเมือง สวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ รวมทั้งร้านไอติมที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทะเลสาบเต็มไปหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี