มหกรรมหนังสือระดับชาติ กำลังจะกลับมาแล้ว !! คราวนี้เดินทางกลับบ้านศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “BOOKTOPIA : มหานครนักอ่าน เพราะการอ่านคือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมือง”
ก่อนจะไปพบเมืองหนังสือในอุดมคติที่นักอ่านรอคอยระหว่าง 12-23 ตุลาคม 2565 นี้ PUBAT หรือสมาคมผู้จัด พิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยก็ได้อุ่นเครื่องด้วยกิจกรรมพูดคุยแบบสบายๆ ในหัวข้อ “อ่าน-สร้าง-เมือง : แรงบันดาลใจจากการอ่านสู่การสร้างสรรค์และพัฒนาตัวตน ชุมชนและเมือง” โดยมีBOOKTOPIAN (พลเมืองนักอ่าน) จากหลากหลายวงการเข้าร่วมแสดงทรรศนะที่เป็นประโยชน์และปลูกฝังวัฒนธรรมการอ่าน อาทิ โตมร ศุขปรีชา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และนวัตกรรมการเรียนรู้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ครูจุ๊ย-กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิคณะก้าวหน้า สาธิต กาลวันตวานิช ผู้ก่อตั้ง Phenomena และ Propaganda พร้อมด้วยนักแสดงรุ่นใหม่จาก GMMTV จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค, ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ,จุง-อาเชน ไอย์ดึน และ ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ
โตมร ศุขปรีชา ผู้ที่มีส่วนในการผลักดันและส่งเสริมการอ่านให้กับคนไทย และกำลังดำเนินโครงการ Library Alive เล่าถึงที่มาของการเป็นนักอ่าน
ว่า เนื่องจากคุณแม่เป็นครูจึงมีชีวิตอยู่กับการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก เสาร์-อาทิตย์พ่อกับแม่มักจะพาไปเดินตลาดนัดหนังสือที่สนามหลวง ที่บ้านมีหนังสือเป็นพันเล่ม แต่เล่มแรกที่คุณแม่สอนให้อ่านเป็นนิทานเรื่องธัมเบลิน่า (Thumbelina) หรือ หนูน้อยนิด โดยพ่อกับแม่อ่านหนังสือเยอะมาก ตั้งแต่สามก๊ก เพชรพระอุมา หนังสือของโสภาค สุวรรณ หรือทมยันตี จึงโตมาพร้อมกับการอ่านที่หลากหลายแต่ก็เป็นแนวทางที่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อกับแม่ จนเมื่อโตขึ้นก็ได้พบกับหนังสือที่เปลี่ยนหมุดหมายของการอ่านไปจากเดิม และค้นพบโลกการอ่านของตัวเอง จากการได้เดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งหน้ามหาวิทยาลัยมีร้านหนังสือชื่อ “แซงแซว” ในร้านนี้มีหนังสือมากมาย แต่ไปสะดุดหนังสือที่โชว์เพียงแค่สันหนังสือที่ชื่อ PETER CAMENZIND เขียนโดย Hermann Hesse (เฮอร์มานน์ เฮสเส) เล่าเรื่องราวชีวิตของปีเตอร์ คาเมนซินด์ ตั้งแต่วัยเด็ก วัยหนุ่ม กระทั่งถึงวัยกลางคน ด้วยภาษาที่งดงาม เห็นภาพวิถีชีวิตในชนบท กับมุมมองความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์และการหยั่งลึกเข้าไปในหัวใจของคน ส่วนตัวมองว่างาน Book Fair ยังจำเป็น เพราะช่วยสร้างประสบการณ์ ให้ความรู้สึกการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเห็นไปดูหนังสือเก่าที่น่าสนใจ ได้ไปตกหลุมรักกับสิ่งที่อาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน การเติมเต็มจินตนาการให้เรา ไม่คิดฝันว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น แต่ผู้จัดก็จะมีวิธีการนำเสนอหนังสือต่างกันไป เราจึงไม่ได้มาเพื่ออ่าน แต่มาเพื่อเรียนรู้มีประสบการณ์ เจอผู้คน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหากเรานั่งอยู่ที่บ้านและเลือกซื้อแบบออนไลน์
ด้าน สาธิต กาลวันตวานิช เล่าว่า คุณแม่เป็นบรรณารักษ์ เลยทำให้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ๆก่อนใคร จนกลายเป็นนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก หนังสือเล่มแรกที่อ่านคือ สิทธารถะ (Siddhartha) เขียนโดย เฮอร์มานน์ เฮสเส จากนั้นก็อ่านหนังสือมาเรื่อยๆ และพบว่าหนังสือหลายเล่มนั้นช่างทรงพลัง ขณะเดียวกันไม่ใช่แค่หนังสือเป็นเล่มๆ เท่านั้นที่อ่านแล้วมีประโยชน์ แม้จะเป็นเพียง คอลัมน์เล็กๆ ในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารก็ได้ประโยชน์เช่นกัน จนกระทั่งวันหนึ่งมีผู้แนะนำให้อ่าน “The Science Of Getting Rich” หรือ ศาสตร์สู่ความร่ำรวย (แบบยั่งยืน) หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดว่าถ้าคุณมีความปรารถนาหรือมุ่งมั่นอะไรสักอย่างขอให้จดจ่ออยู่กับตรงนั้นและจินตนาการว่าจะไปถึงได้จริง การจินตนาการภาพความสำเร็จเสมือนว่าเกิดขึ้นจริงแล้วให้ชัดเจนนั้นช่วยดึงดูดสิ่งที่เราต้องการให้เป็นจริงได้ พลังแห่งการอ่านและความฝันเหล่านี้นี่แหละที่ช่วยดึงตัวตนของกราฟิกดิไซน์เนอร์ธรรมดาคนหนึ่งสู่การเป็นผู้กำกับหนังโฆษณา ส่วนอีกเล่มที่สร้างแรงบันดาลใจคือ“ONE + ONE = THREE” พูดถึงการต่อจุดองค์ความรู้ของ สตีฟ จอบส์ ด้วยความเชื่อมั่นว่าหนึ่งจุดเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์และเชื่อมต่อกันได้จนกลายเป็นนวัตกรรมของไอโฟนอย่างทุกวันนี้
ขณะที่ ครูจุ๊ย-กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ซึ่งกำลังขับเคลื่อน 2 โครงการสำคัญด้านการอ่าน คือ อ่านเปลี่ยนโลก และอ่านปั้นฝัน เล่าว่า ที่บ้านไม่ได้เป็นคนอ่านหนังสือ แต่ตัวเองที่เติบโตมากับนิยายอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนของ อกาธา คริสตี้ (Agatha Christie) ทำให้กลายเป็นคนที่ช่างคิดช่างถาม ช่างสงสัย ที่สำคัญคือพ่อกับแม่ไม่เคยปิดกั้นเรื่องการอ่านเลย จะไปเลือกอ่านหนังสือแบบใดก็ได้ ภายใต้งบประมาณที่บริหารจัดการเอง ทำให้ค่อยๆ ก่อร่างความเป็นตัวเองขึ้นมา โดยหนังสือแต่ละเล่มเมื่อย้อนกลับไปอ่านใหม่ก็จะให้บทเรียนหรือแง่คิดที่แตกต่างกันไปตามช่วงวัยที่เราอ่าน เล่มที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือ สร้าง Impact ใหญ่ ในชีวิต คือ
“MOTHER TONGUE” ของบิล ไบรสัน (Bill Bryson) เป็นหนังสือเกี่ยวกับที่มาที่ไปและประวัติศาสตร์ของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีตและสัมพันธ์กับเรื่องราวของมนุษย์ เป็นหนังสือที่สร้างความตื่นเต้นและประหลาดใจได้หลายครั้งที่อ่าน และเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งได้แนวคิดเรื่องพื้นฐานวิธีคิดในการทำงาน มุมมองในการทำงานจากภาพกว้างแล้วค่อยๆ ย่อยลงมาอย่างละเอียด สำคัญที่สุดคือการเกิดความเข้าใจว่า ความรู้ไม่ได้อยู่ตรงนั้นตลอดกาล เปลี่ยนแปลงเป็นพลวัต และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ซึ่งหล่อหลอมให้กลายเป็นครูอย่างที่เป็นเช่นทุกวันนี้ ถือเป็นเล่มที่ปูพื้นฐานกระบวนการวิธีคิดของการทำงาน ส่งผลต่อการเลือกหนังสือเล่มอื่นด้วย”
ซี-จิมมี่-จุง-ดัง
ส่วน ทิพย์สุดา สินชวาลวัฒน์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เริ่มเข้าสู่โลกหนังสือตั้งแต่ยังเด็กด้วย“ขายหัวเราะ” ที่รอให้คุณแม่อ่านให้ฟังและนับวันรอที่จะอ่านหนังสือออก พออ่านได้เองก็เริ่มอ่านหนังสือการ์ตูนและขยายมิติการอ่านไปสู่หมวดอื่นๆ อย่างคู่สร้างคู่สมจนติดเป็นนิสัยชอบอ่านส่วนหนังสือที่อยากแนะนำให้คนได้อ่านคือ The Bullet Journal Method : วิถีบันทึกแบบบูโจ เขียนโดย ไรเดอร์ แคร์รอลล์ (Ryder Carroll) เพราะชอบจดบันทึกอยู่แล้ว หนังสือช่วยอธิบายวิธีการจดบันทึกแบบบูโจได้อย่างชัดเจนเข้าใจง่าย ช่วยแก้ปัญหาการจดบันทึกได้อย่างไรทำให้รู้สึกว่าการอ่านหนังสือเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้ว่าในโลกออนไลน์จะมีคำตอบเรื่องต่างๆ ให้เราแต่การอ่านคือการขัดเกลาจิตใจมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างถูกต้องและเชื่อว่าการอ่านหนังสือยังเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน”
สำหรับพลเมืองนักอ่านรุ่นใหม่ ก็มีมุมมองจากหนังสือเล่มที่อ่านได้อย่างน่าสนใจ เช่น จิมมี่-จิตรพล โพธิวิหค ที่แม้การเรียนจะทำให้อ่านแต่ตำราแพทย์อย่าง
หนักแล้ว ก็พบว่าหนังสือที่หลายคนควรได้อ่านคือ“วิธีชนะมิตรและจูงใจคน” โดยเฉพาะแพทย์ที่ควรต้องรู้วิธีการสื่อสารกับคนไข้และญาติเพื่อไม่ให้เกิดกรณีพิพาทอย่างที่เราเคยได้เห็นในข่าวกันบ่อยๆ ขณะที่ ซี-ทวินันท์ อนุกูลประเสริฐ ที่แม้จะเป็นหนุ่มรุ่นใหม่อ่านหนังสือผ่านแทบเล็ต แต่ก็บอกว่าหนังสือที่ชอบมากคือ“เพชรพระอุมา” ที่คุณพ่อเคยอ่านให้ฟังก่อนนอน ด้านจุง-อาเชน ไอย์ดึน ก็เริ่มอ่านหนังสือจบจริงจังเป็นครั้งแรกจากเรื่อง “The Hunger Game” ส่วน ดัง-ณัฎฐ์ฐชัย บุญประเสริฐ ก็ใช้เวลาคลายเครียดจากการเรียนด้วยการอ่านการ์ตูนผ่านแท็บเลต
เหล่านักอ่านทั้งหลาย คงได้ลิสต์หนังสือไปหลายเล่มและไอเดียดีๆ จากหนังสือเล่มที่จุดประกายความเป็นนักสร้างของเหล่า BOOKTOPIAN และสามารถไปตามหาหนังสือจุดประกายความคิดดีๆ กิจกรรไฮไลต์และโปรโมชั่นมากมายได้ที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 (Book Expo Thailand 2022)ตั้งแต่วันที่ 12-23 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00-21.00 น.ณ ฮอลล์ 5-7 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/bookthai
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี