สาเหตุของการเกิดมะเร็งมีได้หลากหลายปัจจัย หากเลือกวิธีการรักษาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้อาการแย่ลง หรือมีผลข้างเคียงอื่นเกิดขึ้นตามมา การตรวจหาสาเหตุของการเกิดมะเร็ง เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม จะเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด
นายแพทย์วิกรม เจนเนติสิน อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยาและเคมีบำบัด ศูนย์เมต้าเวิร์ส (มะเร็งและโรคเลือด) โรงพยาบาลนวเวช อธิบายถึงการรักษาแบบ Precision Cancer Medicine ว่าจะช่วยวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดมะเร็งถึงระดับรหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง เพื่อนำมาใช้วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ทำให้การรักษานั้นตอบโจทย์คนไข้แต่ละคนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
จากข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในปี 2564 มีมากถึง 139,206 คนต่อปีและในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 84,073 คนต่อปี โดยโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับในคนไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการรักษามะเร็งในปัจจุบันมีวิวัฒนาการที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของเทคโนโลยีการคัดกรอง การให้ยาเคมีบำบัดที่สามารถลดผลข้างเคียงและได้รับการรักษาที่เฉพาะเจาะจงกับคนไข้แต่ละบุคคลมากขึ้น
การรักษามะเร็งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการค้นหาสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งของแต่ละบุคคลว่าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งการค้นหาสามารถทำได้โดยการตรวจเซลล์มะเร็งของคนไข้ว่าเซลล์ที่ผิดปกติจนทำให้เกิดเป็นมะเร็งเกิดขึ้นจากกลไกใด และยาชนิดใดที่จะสามารถยับยั้งกลไกที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ เราจะได้เลือกใช้ยาให้ถูกต้อง เป็นแบบเฉพาะบุคคลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเราจะเรียกการรักษาแบบนี้ว่า Precision Cancer Medicine เพราะมะเร็งที่อวัยวะเดียวกัน อาจจะเกิดจากเซลล์มะเร็งที่มีกลไกการเกิดโรคคนละแบบได้
Precision Cancer Medicine คือการตรวจวิเคราะห์เซลล์มะเร็งที่จะได้ข้อมูลมากกว่า ชนิด ระยะ หรือหน้าตาของมะเร็ง แต่จะเป็นการตรวจแบบเจาะจงลงไปในระดับรหัสพันธุกรรมมะเร็ง ซึ่งแพทย์จะใช้ชิ้นเนื้อมะเร็งของผู้ป่วย และหรือการเจาะเลือด (ตรวจหารหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งในกระแสเลือด) นำไปตรวจวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ และนำไปวิเคราะห์บนฐานข้อมูลกลาง ที่เราเรียกว่า Big DATA ซึ่งจะสามารถบ่งชี้ถึงกลไกการเกิดโรค ที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยารักษามะเร็งที่เหมาะสม ลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถลดและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้นตั้งแต่แรกได้
“การรักษาแบบ Precision Cancer Medicine เราจะต้องนำข้อมูลรหัสพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งของคนไข้แต่ละรายที่ได้จากชิ้นเนื้อหรือเลือด ไปวิเคราะห์ผ่านเครื่องวิเคราะห์ยีน เพื่อดูข้อมูลความผิดปกติ และ การกลายพันธุ์ของยีนอย่างละเอียด แล้วนำข้อมูลไปวิเคราะห์เปรียบเทียบบนฐานข้อมูลกลางที่เราเรียกว่า Big DATA ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าคนไข้มีความผิดปกติที่เซลล์มะเร็งแบบไหนและเราจะสามารถให้การรักษาด้วยวิธีไหนจึงจะดีและเห็นผลมากที่สุด ทั้งนี้ การรักษาจะต้องวิเคราะห์รวมไปถึงโรคประจำตัวความกังวล และข้อกำหนดของคนไข้ด้วยว่ามีอะไรบ้าง เช่น บางคนอาจจะกลัวผมร่วง เราจะมีวิธีการรักษาแบบไหนที่ตอบโจทย์และได้ผลกับคนไข้รายนี้ ดังนั้นการรักษาแบบ Precision Cancer Medicine จึงเป็นการออกแบบมาเพื่อการรักษาแบบเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง”
เมื่อแพทย์ได้ทราบถึงสาเหตุที่สำคัญของการเกิดมะเร็งจากการตรวจ Precision Cancer Medicine แล้ว การวางแผนให้ยาในการรักษามะเร็งก็จะเป็นแบบเฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ วิธีการรักษา จะมีตั้งแต่ 1.การให้ยาต้านฮอร์โมน (Hormonal Therapy) เป็นยาที่เข้าไปยับยั้งการทำงานและหรือการสร้างฮอร์โมนเพศ ซึ่งจะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่ถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศได้ เป็นตัวอย่างของ Precision Cancer Medicine ที่ใช้กันมานาน เพราะเป็นการใช้ยาที่ตรงกับสาเหตุของการเกิดโรคจริงๆ ปัจจุบันใช้อย่างแพร่หลายในมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชาย และมะเร็งเต้านมในผู้หญิง เป็นต้น
2.การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) หลักการใช้ยาเคมีบำบัดใน Precision Cancer Medicine คือเราจะพยายามเลือกยาเคมีบำบัดที่เหมาะสมที่สุดกับโรคมะเร็งของคนไข้แต่ละคน โดยอาศัยข้อมูลทางรหัสพันธุกรรมมะเร็ง รวมถึง
การตรวจวัดการตอบสนองของเซลล์มะเร็งต่อยาเคมีบำบัดแต่ละชนิดในห้องทดลอง (Cancer Avatar) ก่อนจะนำไปใช้กับผู้ป่วยจริง และหลักการสำคัญคือเลือกใช้ยาเคมีบำบัดกับคนไข้ที่จะได้ประโยชน์จากการให้ยาเคมีบำบัดจริงๆ เท่านั้น ส่วนคนไข้ที่ไม่จำเป็นต้องได้รับยาเคมีบำบัดเนื่องจากไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ก็สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ยาเคมีบำบัดได้ ช่วยลดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น โดยที่ประสิทธิภาพการรักษาไม่ได้ลดลง
3.การใช้ยาพุ่งเป้า (Targeted Therapy) จากผลการวิเคราะห์กลไกการเกิดโรคมะเร็งของคนไข้แต่ละคน ทำให้เราทราบว่า กลไกหรือการเปลี่ยนแปลงของรหัสพันธุกรรมมะเร็งใด ที่ทำให้เซลล์ปกติเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง เราก็จะเลือกใช้ยาที่ไปยับยั้งโดยตรงแบบจำเพาะที่กลไกนั้นๆทำให้รักษามะเร็งได้อย่างตรงจุด โดยไม่มีผลกับเซลล์ปกติ (หรือมีน้อยมาก) เพราะยาไปออกฤทธิ์เฉพาะที่ เฉพาะเซลล์มะเร็งที่มีรหัสพันธุกรรมที่ผิดปกติที่เป็นเป้าหมาย ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูง และลดผลข้างเคียงจากการรักษาได้มาก
4.การรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) กลไกสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตหรือลุกลาม คือกลไกการหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ การรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด หลักการคือตัวยาจะทำหน้าที่ไปเปิดสวิตซ์ให้ระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไข้คนไหนควรใช้การรักษาแบบนี้ คนไข้คนไหนจะตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ดี Precision Cancer Medicine จึงเข้ามามีบทบาทในการคัดเลือกคนไข้ที่เหมาะสม โดยการตรวจหาตัวบ่งชี้สำคัญในเซลล์มะเร็งและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อคาดคะเนการตอบสนองล่วงหน้าได้ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ยาภูมิคุ้มกันบำบัดให้คนไข้ได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่า และไม่เสียโอกาสในการรักษา
5.การรักษาด้วยเซลล์บำบัด (Cell Therapy) ในปัจจุบันเราสามารถเสริมเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดเซลล์มะเร็งเสริมให้ผู้ป่วยได้ โดยเลือกเสริมให้เหมาะกับสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคนจริงๆ บางคนบกพร่องด้านจำนวน บางคนบกพร่องด้านคุณภาพ ซึ่งมีแนวทางการรักษาแตกต่างกัน อีกทั้งต้องเลือกเสริมเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่จำเพาะกับโรคมะเร็งของคนไข้แต่ละคน และแต่ละระยะอีกด้วย
6.การรักษาโดยวัคซีนมะเร็ง (Cancer Vaccine) เป็นนวัตกรรมใหม่ในการรักษามะเร็งที่เกิดขึ้นแล้ว โดยวัคซีนมะเร็งจะมีความจำเพาะกับเซลล์มะเร็งของคนไข้แต่ละคน เนื่องจากสกัดออกมาจากเซลล์มะเร็งของคนไข้แต่ละคนจริงๆ เพื่อช่วยให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของคนไข้คนนั้นๆ สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น ทำให้ช่วยชะลอหรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ทำให้ลดขนาดของก้อนมะเร็ง ป้องกันการกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง หรือ กำจัดเซลล์มะเร็งที่ไม่ถูกฆ่าโดยการรักษาวิธีอื่น เช่น การผ่าตัด ฉายแสง หรือให้ยาเคมีบำบัด
ดังนั้น การรักษาด้วยวิธี Precision Cancer Medicine จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็ง เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ตรงจุดและเฉพาะบุคคลมากขึ้น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และช่วยลดการเกิดผลข้างเคียงได้มากอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดและขอรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์เมต้าเวิร์ส (มะเร็งและ
โรคเลือด) โรงพยาบาลนวเวช โทร.02-4839999 www.navavej.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี