องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันปอดอักเสบโลก หรือ World Pneumonia Day มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน และสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว “เดินหน้าประเทศไทย สู่การป้องกันโรค IPD”รณรงค์ให้ความรู้ เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส สาเหตุสำคัญก่อให้เกิดโรคไอพีดี (IPD) และเรียนรู้การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคอย่างถูกวิธีพร้อมส่งมอบวัคซีน IPD3,000 โดส ภายใต้โครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส เพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง ปีที่ 7
รองศาสตราจารย์ (พิเศษ) นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ กรรมการและปฏิคมสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน เปิดเผยว่า “โรค IPD คือโรคติดเชื้อชนิดลุกลามที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อ“นิวโมคอคคัส หรือ Streptococcus pneumoniae” โดยทั่วไปแล้วเชื้อชนิดนี้มักอาศัยอยู่ในโพรงจมูกและลำคอทั้งในเด็กและผู้ใหญ่โดยยังไม่ก่อโรค แต่เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ หรือมีการติดเชื้อไวรัส เชื้อชนิดนี้ก็จะรุกรานไปอวัยวะข้างเคียงทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือปอดอักเสบรุนแรง โดยอาการของการติดเชื้อ IPD มีได้หลายอย่างขึ้นกับอวัยวะที่มีการติดเชื้อ หากเป็นโรคปอดอักเสบ มักจะมีอาการ ไข้ ไอ หายใจ หอบเหนื่อย หากมีการติดเชื้อที่ระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ในเด็กเล็กจะมีอาการงอแง ซึม ชัก และอาจเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว หากเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยก็จะมีอาการไข้สูง หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว อาจมีภาวะช็อก และอาจเสียชีวิตได้นอกจากนี้เด็กที่หายป่วยอาจมีผลกระทบระยะยาว เช่น สูญเสียการได้ยิน พิการทางสมอง การเคลื่อนไหวผิดปกติ และมีอาการชักดังนั้นหากลูกหลานมีอาการใกล้เคียงกับโรค IPD ควรรีบได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์อย่างรวดเร็ว จึงเป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่ายในการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกัน ซึ่งการฉีดวัคซีนมีบทบาทสำคัญ ช่วยสร้างเสริมภูมิป้องกัน นอกจากนี้ประชาชนเองก็สามารถดูแลตนเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ เพื่อให้ห่างไกลจากโรค IPD อาทิ หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัยเว้นและรักษาระยะห่าง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ ปรึกษาแพทย์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม”
ด้าน ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน กล่าวว่า “โรค IPD มักพบบ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ที่สุขภาพดีไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ยังพบบ่อยในเด็กที่มีโรคประจำตัวโดยไม่ขึ้นกับอายุ เช่น เด็กที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จากสาเหตุต่างๆ ภาวะไม่มีม้ามหรือการทำงานของม้ามบกพร่อง โรคเรื้อรังของอวัยวะต่างๆ เช่น โรคปอด (รวมทั้งหอบหืดรุนแรง) โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน และโรคที่เสี่ยงต่อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ นอกจากนี้ ผู้สูงวัยที่อายุเกิน 65 ปี ก็นับว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันต่ำจากสาเหตุต่างๆ และโรคเรื้อรังต่างๆ
ทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยจึงมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีน IPD ให้กับเด็ก โดยในเด็กทารกเริ่มฉีดได้เมื่ออายุ2 เดือนขึ้นไป และฉีดเข็มต่อไปเมื่ออายุได้ 4 เดือน และ 6 เดือน และครั้งสุดท้ายในช่วงอายุ 12-15 เดือน วัคซีน IPD ที่ใช้ในปัจจุบันมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีความสามารถในการครอบคลุมสายพันธุ์ของเชื้อ IPD ที่แตกต่างกันออกไป วัคซีนที่ครอบคลุมสายพันธุ์ก่อโรคในประเทศไทยได้มากกว่าจะป้องกันโรคได้กว้างกว่า วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันทุกชนิดสามารถลดอุบัติการณ์การเกิดโรค IPD ของสายพันธุ์ที่บรรจุอยู่ในวัคซีนได้ดีมากและเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง จึงทำให้หลายๆ ประเทศทั่วโลกต่างบรรจุวัคซีน IPD อยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งทำให้เด็กๆ ในประเทศเหล่านั้นเข้าถึงวัคซีนกันอย่างทั่วหน้า
ในขณะนี้ประเทศไทย มีเด็กไทยเพียงแค่ 10% เท่านั้นที่เข้าถึงวัคซีน IPD เนื่องจากยังไม่ถูกบรรจุอยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคซึ่งหมายถึงรัฐยังไม่ได้ให้ฟรี คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียเงินซื้อเองอยู่ ดังนั้นพวกเราทุกคนควรช่วยกันผลักดันให้เด็กไทยเข้าถึงวัคซีน IPD กันมากขึ้นซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ได้มีโครงการฉีดวัคซีน IPD นำร่องที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่วัคซีน IPD จะบรรจุอยู่ในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้เด็กไทยทั่วประเทศ นอกจากนี้ ทางกรุงเทพมหานคร กำลังดำเนินโครงการให้วัคซีน IPD แก่เด็กแล้ว ที่จริงแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็สามารถมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน หรือทำให้เด็กๆ ได้รับวัคซีนจำเป็นตัวนี้โดยเร็วที่สุดได้เช่นกัน เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจจัดสรรงบประมาณบางส่วนมาซื้อวัคซีน IPD ให้เด็กๆ ในเขตปกครองของตนเช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร และดังเช่นในวันนี้ สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย และมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ก็ได้จัดทำโครงการที่สำคัญนี้โดยได้รับการสนับสนุนวัคซีนจากไฟเซอร์ เพื่อให้เด็กๆ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อ IPD ได้เข้าถึงวัคซีน และได้รับการป้องกันมากขึ้น”
นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน และอดีตอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า “สำหรับในปีนี้ มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชนยังคงเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยในโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส 13 สายพันธุ์ เพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เป็นโรคมะเร็ง ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ติดเชื้อเอชไอวี หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต โรคปอด เด็กที่ไม่มีม้าม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ซึ่งในปัจจุบันวัคซีนนับเป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพ และเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรค โดยเฉพาะในวัยเด็กซึ่งเป็นวัยที่ภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่สมบูรณ์ และมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อจากโรคต่างๆ โดยในปีนี้เราได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี 13 สายพันธุ์ เพื่อเด็กกลุ่มเสี่ยงจำนวน 3,000 โดส แก่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 35 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และไม่สามารถเข้าถึงการป้องกันได้เพิ่มขึ้นและทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยจะครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งมีเด็กในกลุ่มเสี่ยงต่อโรค IPD มากกว่าหลายพันคนที่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันไปแล้วภายใต้โครงการนี้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี