คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ในฐานะโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลรัฐมุ่งผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพโดดเด่น และมีความรู้ความสามารถที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์ต่างๆ ของโลกที่ไม่แน่นอน “สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์” อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นหนึ่งในวิทยาเขตการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีเอกลักษณ์ในการดำเนินการสร้างบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีปรัชญาของ “ชีวิตวิทยาเขต” (Campus life) บนพื้นที่ประมาณ 319 ไร่ ประกอบด้วย โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ โรงเรียนแพทย์รามาธิบดี หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรเวชศาสตร์ฉุกเฉิน และหลักสูตรวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย (ซึ่งหลักสูตรนี้มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย) และพื้นที่ในการสนับสนุนชีวิตวิทยาเขตรวมกว่า 400,000 ตารางเมตร พันธกิจหลักในการผลิตแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ระดับปริญญาตรีรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีความสามารถและมีศักยภาพสูง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขกับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกแถบเขตปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกของประเทศ อันเป็นพื้นที่ ที่มีความหนาแน่นของประชากรจำนวนมาก
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ตั้งอยู่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดให้บริการทางการแพทย์ให้แก่ประชาชนผ่าน “โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์” เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ให้บริการผู้ป่วยนอกได้มากกว่า 1,000,000 รายต่อปี และผู้ป่วยในประมาณ 17,000 รายต่อปี เน้นให้บริการทางการแพทย์แบบองค์รวมที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เพื่อเป็นต้นแบบในการรักษาที่ได้มาตรฐานแก่ผู้ป่วย ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิถึงทุติยภูมิ
เน้นการส่งเสริม ฟื้นฟูสุขภาพและสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ด้านสาธารณสุข ตลอดจนการสร้างองค์ความรู้ด้านอาชีวเวชศาสตร์ให้กับประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น ในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ได้ทำหน้าที่เป็นด่านสำคัญของการดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่ส่งต่อมาจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาวิชาทั้งวิทยาเขตพญาไท และวิทยาเขตจักรีนฤบดินทร์ จึงสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มกำลัง
ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ถือกำเนิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ร.9) และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้มีสถานพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ จึงจัดตั้งสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เพื่อบริการประชาชนในแถบจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง ให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขมากขึ้นและขยายความสามารถในการรองรับผู้ป่วยให้ได้มากขึ้น สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ถูกสร้างให้เป็น “โรงเรียนแพทย์ในฝัน” เพื่อผลิตบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล บนพื้นที่ทั้งหมด 319 ไร่ ซึ่งใหญ่กว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีศูนย์พญาไทถึง 10 เท่า โดยมี จุดประสงค์เพื่อให้เป็นโรงเรียนแพทย์ที่ผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ออกไปรับใช้ประชาชนทั่วประเทศ และเป็นพื้นที่ที่ทำให้นักศึกษาเรียนอย่างมีความสุข โดยหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตมีการปรับหลักสูตรถึง 3 ครั้ง โดยให้นักศึกษาเขามามีส่วนร่วมในการปรับหลักสูตร เพื่อให้นักศึกษาได้เลือกเรียนตามความต้องการของตนเอง (Personalized Curriculum)ในบรรยากาศการเรียนการสอนที่สนุกสนาน พร้อมสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของนักศึกษาให้ดียิ่งขึ้นซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี”
ในส่วนของการศึกษาวิจัย สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ มีการบริหารจัดการให้เกิดชีวิตวิทยาเขต (Campus life) ที่สนับสนุนพันธกิจการศึกษาและวิจัยในลักษณะการศึกษาร่วมกันของ 4 หลักสูตร(Interprofessional education : IPE) ครอบคลุมถึงการเรียนการสอน การใช้ชีวิตและมีกิจกรรมร่วมกัน ทั้งในและนอกเวลา โดยได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาที่เกี่ยวกับการแพทย์เข้ามาในหลักสูตรการเรียนการสอน มุ่งเพิ่มความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพในการให้ความรู้อย่างบูรณาการ ควบคู่ไปกับการปลูกฝังจิตวิญญาณในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมให้ใกล้ชิดกับผู้คนในชุมชน รวมถึงการสร้างสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมสายงานที่มีหลากหลายบทบาทอาชีพ เพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจ
รศ.นพ.วิชาญ โชคธนะศิริ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ กล่าวว่า “สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อพันธกิจ ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การบริการรักษาพยาบาล การศึกษาวิจัย การบริการวิชาการและรับผิดชอบต่อสังคม และการสืบสานศิลปวัฒนธรรม สำหรับการรักษาพยาบาล ปัจจุบันโรงพยาบาลฯ รองรับผู้ป่วยนอกวันละประมาณ 1,000 คน ในขณะที่เรามีศักยภาพรองรับผู้ป่วยนอกได้กว่า 3,000 คน ต่อวันในส่วนของการศึกษาวิจัย มีศูนย์การเรียนรู้ 1 และ 2 หรืออาคารพรีคลินิก ซึ่งรองรับการเรียนการสอนของทั้ง 4 หลักสูตร ซึ่งได้แก่ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรเวชศาสตร์ฉุกเฉิน และหลักสูตรความผิดปกติของการสื่อความหมาย ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวในประเทศไทย การออกแบบสถาบัน รวมทั้งโรงพยาบาล เน้นให้ตอบสนองต่อการศึกษาวิจัยและ Campus Life (ชีวิตวิทยาเขต) ซึ่งก็คือการใช้ชีวิตร่วมกัน ระหว่างนักศึกษาทั้ง 4 หลักสูตร และบุคลากรทางการแพทย์ มีแอปพลิเคชั่น “C Life” หรือ “CNMI Life” ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการบริหารจัดการ และการดำเนินชีวิต อาทิ การจองห้องประชุม การจองรถรับส่ง การจองสนามกีฬาและศูนย์ฟิตเนสในพื้นที่อาคารสันทนาการ เป็นต้นเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเอื้อต่อการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีจิตใจเป็นผู้ให้ และสามารถเป็นที่พึ่งให้สังคมได้อย่างดียิ่ง”
การก่อสร้างสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์นี้มุ่งจะให้เป็นสถาบันการศึกษาที่มีสิ่งแวดล้อมและภูมิสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ และจินตนาการอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบแนวคิด 4E ดังนี้ Educationreform เป็นการสร้างโอกาสที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีจะปฏิรูประบบการศึกษาและปฏิรูปหลักสูตรใหม่ซึ่งจะสามารถทำได้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในสถานที่ใหม่ร่วมกับกรอบแนวคิดใหม่ Excellent living and working condition คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของบุคลากร นักศึกษา และผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานพร้อมสรรพ ทั้งศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยที่สุด มีระบบสารสนเทศเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบไร้สายครอบคลุมทั้งบริเวณ มีการออกแบบหอพักให้มีความน่าอยู่โล่ง โปร่ง ไม่แออัดและใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีอาคารนันทนาการเพื่อการพักผ่อนและออกกำลังกาย เพื่อให้ครูและศิษย์อาศัยอยู่ใกล้ชิดกันอย่างมีความสุข ก่อให้เกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เป็นชุมชนของปัญญาชน และเป็นแหล่งเพาะบ่มปัญญาและการเรียนรู้อย่างแท้จริง Environmental friendly ภูมิสถาปัตยกรรมของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เน้นความเป็นมิตรและกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม เช่น มีการบำบัดน้ำเสียและนำมาใช้ประโยชน์ใหม่ การจัดศูนย์ Power Plant ไว้อย่างเป็นสัดส่วนปราศจากเสียงรบกวนและควันพิษการออกแบบทางคนเดินควบคู่กับถนน สนับสนุนให้มีการสัญจรโดยจักรยานและไม่อนุญาตให้มีการใช้จักรยานยนต์ เป็นต้น Energy saving คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน โดยมุ่งอาศัยพลังงานทางเลือกเข้ามาร่วมให้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี