ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดโครงการ “Happy Heart Connect เชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรง” เชื่อมต่อทุกการรักษากับโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน เปิดรับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบเพิ่มจำนวน 150 ราย เข้าถึงการเปลี่ยนลิ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพหัวใจ “Happy Heart Connect เชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรง” เชื่อมต่อทุกการรักษาเปลี่ยนลิ้นหัวใจสู่ผู้ป่วยทั่วประเทศ กับโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน เพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสการเข้าถึงการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ขั้นสูงให้กับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบ ซึ่งจะเปิดรับสมัครผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโครงการเพิ่มอีกจำนวน 150 ราย เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมี ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมเป็นประธานเปิดงาน
พร้อมเปิดเวทีเสวนาให้ความรู้ “นวัตกรรมการรักษาโรคหัวใจ และโครงการ TAVR สัญจรเพื่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยผ่านโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ” จากทีมแพทย์ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย นพ.ดํารงค์ สุกิจปัญญาโรจน์, พญ.ธัญรัตน์ อร่ามเสรีวงศ์, นพ.อนุรักษ์ เจียมอนุกูลกิจ, นพ.วิโรจน์ เมืองศิลปศาสตร์, นพ.พิเชษฐ์ เลิศปันณะพงษ์ และ พว.เนตรนภิส ศรีรัตนา พร้อมด้วยกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ และกิจกรรมระดมทุนจำหน่ายเสื้อการกุศล Happy Heart Connect เพื่อโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน เชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรงด้วยหัวใจแห่งการให้ที่ได้พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ มาร่วมแคมเปญ พร้อมด้วย“คนเก่งหัวใจแกร่ง” ผู้ป่วยที่เคยผ่านการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติก มาร่วมแชร์ประสบการณ์การฟื้นฟูดูแลสุขภาพหัวใจให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง โดยงานจัดขึ้น ณ CRA HALL ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์สุขภาพที่ดี เพื่อสังคมไทยภายใต้หลักการทำงาน “ทุกชีวิตของคนไข้คือหัวใจของเรา” สืบสานการดำเนินงานตามพระปณิธาน ศ.ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงมุ่งหวังให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นที่พึ่งทางสุขภาพให้กับชนชั้นกลางจนถึงผู้ยากไร้ให้ได้รับการรักษาอย่างดีเยี่ยม และให้ประชาชนคนไทยในทุกถิ่นฐานมีสุขภาวะที่ดีและเท่าเทียมเพื่อทุกชีวิต
ทั้งนี้ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นหนึ่งในศูนย์ความเป็นเลิศที่พร้อมให้บริการดูแลด้านการตรวจรักษาในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดแก่ผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาอย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้นวัตกรรมบริการสุขภาพสู่สถานพยาบาลเครือข่ายในภูมิภาคต่าง ๆ โดยได้จัดทำโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด เพื่อมอบโอกาสทางการรักษาให้แก่ผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจด้อยโอกาสจากทั่วประเทศให้สามารถเข้าถึงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตที่ปกติสุข และมีหัวใจที่แข็งแรงอีกครั้ง”โรคหัวใจและหลอดเลือด จัดเป็นภัยอันดับต้น ๆ ของคนไทย และยังมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่อาจมีภาวะอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว ทำให้คนไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงถึงปีละ 70,000 ราย (ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค)
ทั้งนี้ โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรง เป็นความผิดปกติของลิ้นหัวใจเอออร์ติกที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เพียงพอ สาเหตุหลักเกิดจากการเกาะตัวของหินปูนแคลเซียมเมื่ออายุมากขึ้น เกิดจากไข้รูห์มาติก และบางส่วนเกิดจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจแต่กำเนิด โรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจที่เป็นไปตามวัย จึงมักพบในผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป จึงเป็นภัยเงียบสำหรับผู้สูงวัยที่อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้ และเนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถรักษาโดยการให้ยาประคองอาการไปได้ จึงต้องใช้การรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการผ่าตัดรักษามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย โครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือการทำหัตถการ TAVR :Trans catheter Aortic Valve Replacement เป็นการซ่อมแซมลิ้นหัวใจอันเก่าที่ใช้การไม่ได้ จึงเป็นทางเลือกการรักษาตามมาตรฐานในระดับสากล และเป็นเป้าหมายสำคัญของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ในการเพิ่มศักยภาพด้านการรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบรุนแรง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อช่วยให้ผู้สูงวัยกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง แต่ด้วยการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะค่าลิ้นหัวใจ 1 ลิ้น มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านบาทต่อคน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงการรักษาได้
นพ.ดํารงค์ สุกิจปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวว่า “ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้ริเริ่มจัดทำ “โครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน” ด้วยเล็งเห็นว่ากลุ่มผู้ป่วยลิ้นหัวใจตีบซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป มีโอกาสเสียชีวิตสูงหากไม่ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการรักษา อีกทั้งการรักษามีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะค่าลิ้นหัวใจ 1 ลิ้น มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านบาทต่อคน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ช่วยเหลือให้ผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบรุนแรงที่จำเป็นต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจทั่วประเทศ ทุกสิทธิการรักษาได้เข้ารับการเปลี่ยนลิ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยได้เริ่มโครงการในปี 2563 จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมให้ผู้ป่วยไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 121 ลิ้น
ในโอกาสครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์นี้ ทางศูนย์หัวใจและหลอดเลือด มีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสให้ได้รับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเพิ่มอีก จำนวน 150 รายควบคู่กับการดำเนินโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน หรือ TAVR สัญจร เชื่อมต่อสถานพยาบาล สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง โดยนำองค์ความรู้ด้านการรักษาโรคลิ้นหัวใจจากทีมบุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ไปเผยแพร่สู่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นห่างไกลสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นสูงอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม”
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหนึ่งในศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะด้านเพื่อให้บริการผู้ป่วยในทุกสิทธิการรักษาแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษา รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงบุคลากรสหสาขาวิชาชีพที่ร่วมปฏิบัติงาน โดยมีศักยภาพในการทำหัตถการได้อย่างครอบคลุม ทั้งในกลุ่มการรักษาทางห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด การผ่าตัดหัวใจแบบเปิดหน้าอก รวมถึงเทคโนโลยีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกที่สามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและพิการในกลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการผ่าตัดแบบเปิดหน้าอก เนื่องจากผู้ป่วยลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบรุนแรงที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทั้งยังเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการทำหัตถการได้เร็ว ระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสั้นลง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามกิจวัตรประจำวันได้เร็วขึ้น
โครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน ของศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เปิดรับผู้ป่วยที่มีอาการภาวะหัวใจล้มเหลวจากโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบหรือผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ให้เข้ารับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการเข้าถึงการรักษา สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการโดยมีหลักเกณฑ์การเข้าร่วมประกอบด้วย 1. เป็นคนไทยที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบรุนแรง 2. อายุ 70 ปี ขึ้นไป หรือกรณีอายุ 65-70 ปี และมีโรคร่วมที่เสี่ยงต่อการผ่าตัดแบบเปิดหน้าอก (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์พิจารณา) 3. ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดแบบเปิดหน้าอกสูง 4. ผู้ป่วยที่เคยเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกมาก่อน และ 5. กรณีผู้ป่วยมีโรคมะเร็งร่วมด้วย ต้องไม่อยู่ในภาวะโรคมะเร็งระยะลุกลาม
ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ตามข้อบ่งชี้จะได้รับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกผ่านสายสวน 1 ลิ้น = 1 ล้านบาท โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเบิกจ่ายการทำหัตถการตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย สามารถสมัครด้วยตนเองหรือให้สถานพยาบาลส่งต่อเพื่อเข้าถึงการรักษาได้ที่ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สายด่วนโรคหัวใจ โทร 064 205 3970 นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการ TAVR สัญจร เพื่อการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยผ่านโรงพยาบาลเครือข่ายทั่วประเทศ โดยเป็นโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวนให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการ โดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะนำทีมแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องรวมถึงนำลิ้นหัวใจเทียมไปร่วมทำหัตถการฯ ให้กับผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลนั้น ๆ โดยมีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมเรียนรู้ตลอดกระบวนการ เป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดให้สามารถทำหัตถการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวนได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยจากทั่วทุกภูมิภาคสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
ภายในงาน “Happy Heart Connect เชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรง” ยังมีพระเอกหนุ่มสุดฮอต มาริโอ้ เมาเร่อ มาร่วมทอล์กส่งต่อพลังบวกสร้างพลังใจให้กับผู้ป่วย และ ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ ร่วมดำเนินรายการ พร้อมด้วย “คนเก่งหัวใจแกร่ง” ผู้ป่วยที่เคยผ่านการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกมาร่วมแชร์ประสบการณ์การฟื้นฟูดูแลสุขภาพหัวใจให้กลับมาแข็งแรง พร้อมทั้งหนุ่มมาริโอ้ ยังได้ร่วมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพหัวใจคนไทยให้แข็งแรงด้วยการชวนกันลุกขึ้นมาออกกำลังและยังร่วมเป็นสะพานบุญเชื่อมต่อทุกหัวใจให้แข็งแรงด้วยหัวใจแห่งการให้ เพราะทุกลิ้นมีความหมายต่อหัวใจผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจด้อยโอกาสทั่วประเทศ ในกิจกรรมระดมทุนโดยบริจาค 500 บาท รับเสื้อการกุศล Happy Heart Connect ออกแบบลวดลายโดยคุณเพียว โลกุตรา ศิลปินนักวาดภาพประกอบ เพื่อมอบให้กับผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมทำบุญเพื่อโครงการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกเทียมผ่านสายสวน ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นที่ระลึก และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าด้วย ร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ เลขที่บัญชี 942-300099-2 และสามารถแจ้งความประสงค์ในการขอรับเสื้อการกุศล Happy Heart Connect ได้ทาง LINEmyShop @Bhadrafoundation ร่วมเชื่อมต่อทุกหัวใจแห่งการให้เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัดให้กับผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอ-ออร์ติกตีบรุนแรงทั่วประเทศที่จำเป็นต้องใช้ลิ้นหัวใจแต่ไม่สามารถเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าถึงการรักษาได้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้อีกครั้ง
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี