การดูแลเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นหรือไฮเปอร์ เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรักและความเข้าใจเป็นอย่างมาก ผู้ดูแลจะเหน็ดเหนื่อยและมีปัญหาให้แก้ไขทุกวัน ในขณะเดียวกันเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ ถึงแม้ว่าสังคมจะเริ่มรับรู้ แต่ผู้ปกครองและครูส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของการมีสมาธิสั้นดีพอ เด็กกลุ่มนี้เหมือนเด็กปกติทุกอย่าง บางคนฉลาดเป็นกรด แต่ก็จะดื้อซน ก้าวร้าว ชอบแหกกฎ เกเร มีพฤติกรรมที่มีปัญหา อยู่ไม่สุข ขาดสมาธิ ไม่รับผิดชอบในชีวิตประจำวันและการเรียน หุนหันพลันแล่น วู่วาม ใจร้อน โมโหร้าย ขาดทักษะทางสังคม จึงทำให้อยู่กับคนอื่นได้ยาก เมื่อขาดความเข้าใจดูแลกันไม่ถูกต้อง ก็จะตำหนิ ดุด่า กระทบกระเทียบเปรียบเปรย หนำซ้ำเด็กยังมักถูกรังเกียจและดูถูกจากญาติพี่น้องเพื่อนฝูงว่าเป็นเด็กเลว จึงทำให้เด็กอยู่ในวงจรแห่งความทุกข์ รู้สึกเป็นคนเลว ไม่มีใครรัก มีความรันทด อมทุกข์ เก็บกด จนอาการสมาธิสั้นพัฒนากลายเป็น โรคซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวน หรือโรคอารมณ์สองขั้ว กลายเป็นวัยรุ่นก็จะเป็นกลุ่มเสี่ยงสร้างปัญหาความรุนแรงและภัยให้สังคมได้
หนังสือเรื่อง สมาธิสั้น หายได้ไม่ยาก เป็นหนังสือที่เขียนโดย นภัทร พุกกะณะสุต ผู้ปกครองที่มีประสบการณ์ตรงในการดูแลเด็กสมาธิสั้นผสมออทิซึมอ่อนๆ และเป็นประธานชมรมผู้ปกครองบุคคลสมาธิสั้น ผู้ให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ประสบปัญหาเด็กในความดูแลเป็นสมาธิสั้นมากว่า 10 ปี และได้พูดคุยกับบรรดาแม่ๆเกือบ 10,000 คน และปัญหาที่เธอพบคือส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่การเรียนของลูกโดยไม่คำนึงถึงศักยภาพปัญหา ข้อจำกัดของลูก จนปัญหาบานปลายมีผลร้ายต่อเด็ก ครอบครัวและสังคม ผู้เขียนจึงได้ทำหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดการเลี้ยงดูลูกสมาธิสั้นให้ถูกทาง ด้วยความรู้สึก ประสบการณ์และความรู้ที่ดูแลลูกของตนเองมาจนโตอย่างหมดเปลือกแบบกัลยาณมิตร เพื่อให้ผู้ปกครองคนอื่นๆที่ประสบปัญหาเดียวกันได้มีแนวทางในการช่วยเหลือลูกให้สามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข ซึ่งถือเป็นหนังสือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางสมาธิ
หนังสือเล่มนี้ มีเนื้อหาที่เริ่มต้นตั้งแต่ความเป็นมาของความบกพร่องทางสมาธิที่มาจากปัจจัยหลายอย่าง อาทิ การเกิดขึ้นของโรค ลักษณะของเด็กที่บกพร่องเป็นอย่างไร แนวทางในการช่วยเหลือเลี้ยงดูให้เขาอยู่ในสังคมได้ ดูแลตัวเองได้ มีความสุข นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าจากคุณแม่ คุณครู ที่เป็นกรณีตัวอย่าง และอื่นๆ ผู้เขียนได้ถ่ายทอดเนื้อหาออกมาได้อย่างชวนอ่าน เป็นแบ่งปันประสบการณ์ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความรู้เชิงวิชาการ และแบบประเมินผลความสำเร็จในการแก้ไขช่วยเหลือเด็ก โดยการถ่ายทอดด้วยภาษาที่อ่านง่าย และเป็นการให้ความรู้และประสบการณ์จากผู้ปกครองด้วยกัน จึงอาจสามารถช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าตนเองไม่ได้มีปัญหาอยู่คนเดียว
การเลี้ยงดูเด็กที่เป็นสมาธิสั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อแม่และผู้ปกครองและบุคคลใกล้ชิดมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของเด็กเหล่านี้ โดยต้องมีความตั้งใจ อดทน ร่วมมือกันในการช่วยเหลือ ให้เวลา ให้ความรัก ความอบอุ่น ต้องมีทัศนคติเชิงบวกอยู่เสมอ และที่สำคัญนอกเหนือจากรักและเข้าใจแล้วยังต้องมีความรู้เพื่อต่อยอดการรักษาด้วยยาหรือบำบัดด้วยแพทย์ เรื่องเล่าจากคุณนภัทรนอกจากถ่ายทอดประสบการณ์แล้ว ถือเป็นแหล่งข้อมูลที่ให้ความรู้และแนวทางอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครองในการเลี้ยงดูลูกสมาธิสั้นได้อย่างดีทีเดียว หนังสือราคา 275 บาท จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายโดย นานมีบุ๊คส์
ทิ้งอดีตที่ทำให้ชีวิตไม่ก้าวหน้า
สร้างชีวิตใหม่ที่มีความสุขด้วยตัวเอง
ให้หัวใจนำทาง ผู้เขียน Louise Hay (ลูอิส เฮย์) ผู้แปล ณัชชา บัวกลิ่น หนังสือเล่มนี้จะแนะนำเรื่องการเชื่อมโยงกับ "ตัวตนภายใน" เพื่อรับรู้ความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ทุกวัน มีความสนุก สุขใจได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น "ลูอีส เฮย์" ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นกูรูด้านจิตวิญญาณ หนโดยเนื้อหาจะเริ่มด้วยการชวนให้ผู้อ่านคิดและพิจารณาทิ้งนิสัยเสียและความเชื่อเดิม ๆ ที่คอยฉุดรั้งตัวเราไม่ให้ก้าวหน้าหรือจมอยู่กับความทุกข์ไว้เบื้องหลัง และให้หันมายอมรับและรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข และถือว่าอดีตที่ผ่านพ้นไปคือรากฐานอันดีงาม และมาสร้างอนาคตที่ดีด้วยการลงมือสร้างสรรค์ปัจจุบันให้ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยความคิดและการกระทำของตัวเอง ด้วยตัวเอง หนังสือนี้เป็นการให้ความรู้ด้านจิตวิญญาณที่มีคุณค่า ทำให้คุณตระหนักในคุณค่าของตัวเองและมองโลกด้วยหัวใจอย่างลึกซึ้ง "ลูอิส เฮย์" ยังเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีเล่มอื่นๆด้วย เช่น ชีวิตนี้ลิขิตได้ (You Can Heal Your Life) ซึ่งตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 50 ล้านเล่มทั่วโลก และเป็นผู้เขียนหนังสือสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกกว่า 30 เล่ม รวมถึงหนังสือขายดีอย่าง พลังแห่งการรักตัวเอง (The Power Is Within You) จงเป็นเธอในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด (Empowering Women) I Can Do It เชื่อสิฉันทำได้ หนังสือ ให้หัวใจนำทาง ราคา 285 บาท
ชนะใจคนอื่นด้วยด้วยความจริงใจ
การใช้คำพูดที่อ่อนน้อมถ่อมตน
หนังสือ วิธีชนะมิตรและจูงใจคน : How to Win Friends and Influence People ผู้เขียน Dale Carnegie (เดล คาร์เนกี) ผู้แปล อาษา ขอจิตต์เมตต์ "เดล คาร์เนกี" เป็นนักสังเกตการณ์มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีความเข้าใจในธรรมชาติมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือประเภท "ฮาวทู" ที่จะช่วยสร้างสรรค์ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมได้ดีกว่า ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การชนะใจผู้อื่นได้ด้วยการกระทำที่จริงใจ หรือด้วยคำพูดถ่อมตน ย่อมทำให้เกิดมิตรขึ้นได้ ดังนั้น การชนะมิตรที่มีเหตุผลและการใช้กุศโลบายที่แยบยล โดยไม่ทำให้เจ้าตัวทราบ จึงเป็นหนทางที่ถูกต้อง ซึ่งในเล่มได้แนะนำวิธีการต่างๆไว้ หนังสือเล่มนี้ถึงแม้จะเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์มานานมาก แต่เนื้อหายังคงทันสมัยและใช้ได้ตลอดการณ์ และได้ถ่ายทอดออกมาแบบสนุกสนานและน่าติดตามจนวางไม่ลง มีวิธีการเขียนแบบกึ่งเล่าเรื่องเมื่อถึงจุดที่จะเริ่มเบื่อ ก็จะเปลี่ยนแนวโดยยกตัวอย่างคนนั้นคนนี้มาเล่าให้ผู้อ่านผ่อนคลาย หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกสาขาอาชีพ เพื่อการพัฒนาตนเองไปสู่การมีมิตรที่ดี และถาวรไว้กับตนเอง และถือเป็นหนังสือที่สร้างสรรค์ให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมได้ดีกว่า ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด การชนะใจผู้อื่นได้ด้วยการกระทำที่จริงใจ หรือด้วยคำพูดถ่อมตน ย่อมทำให้เกิดมิตรขึ้นได้ หนังสือราคาเล่มละ 290 บาท
เรื่องราวที่ปรึกษาแมวเหมียว 9 ชีวิต
มารับฟัง และแนะนำการใช้ชีวิตให้มนุษย์
หนังสือ แมว9ชีวิตสอนฉันว่าเหมียว เหมียว เหมียว ผู้เขียน: อึล นยัง อี เป็นหนังสือจิตวิทยา พัฒนาตัวเอง ที่เลือกใช้แมวมาเป็นตัวชูโรงในการแนะนำการใช้ชีวิตของคน ที่ใช้แมวมาทำหน้าที่นี้ อาจเป็นเพราะว่าเพราะคนเรามักสบายใจเวลาคุยกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะแมว ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ แต่มันคิดว่าตัวเองเลี้ยงมนุษย์อีกทีหนึ่ง มนุษย์ยอมเป็นทาสแมว และเวลาที่เราแย่ๆจิตใจอ่อนแอแมวก็จะเลิกเมินเฉยแล้วเข้ามาคลอเคลียเหมือนคอยปลอบใจเรา ดังนั้นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ จึงได้นำแมวเหมียวมาเป็นที่ปรึกษา คอยรับฟังคำพูดของมนุษย์ และแนะนำการใช้ชีวิตมากมาย ทั้งความรัก ความสัมพันธ์ เพื่อน การงาน ครอบครัว รวมทั้งเรื่องราวทางด้านจิตใจ และคอยแก้ปัญหา ปลอบประโลมจิตใจมนุษย์ โดยเริ่มตั้งแต่ชีวิตที่1 ถึงชีวิตที่ 9 เพื่อช่วยลดความกังวลกับเรื่องราวทั้งความสัมพันธ์ ความรัก และสร้างคุณค่าของตัวเอง ปลอบใจในความผิดหวัง และปัญหาจิตใจในชีวิต หนังสือใช้สำนวนแบบเป็นกันเอง เข้าใจง่าย คล้ายถามตอบกับผู้มีประสบการณ์ที่เป็นแมว เนื้อหาน่าสนใจทีเดียว หนังสือเล่มละ 245 บาท
วิวัฒนาการของระบบการเงินทั่วโลก
วิเคราะห์โลกการเงินใหม่ในอนาคต
Layered Money : พีระมิดเงินซ้อนชั้น จากทองคำและดอลลาร์สู่บิตคอยน์และเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ผู้เขียน Nik Bhatia (นิก บาเทีย) ผู้แปล พิริยะ สัมพันธารักษ์ พบกับวิวัฒนาการของระบบการเงินทั่วโลก โดยย้อนกลับไปยังจุดที่ระบบการเงินพัฒนาเป็นระบบ "ซ้อนชั้น" โดยผู้เขียนใช้ทองคำเป็นตัวอย่างในการอธิบาย และพาย้อนรอยวิวัฒนาการของทองคำ ตั้งแต่เป็นแร่ทองจนกลายเป็นเหรียญทอง และตั๋วแลกทองในที่สุด ผู้เขียนมีกรอบความคิดที่แปลกใหม่อธิบายถึงสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ โดยบทวิเคราะห์เริ่มต้นขึ้นในกรุงฟลอเรนซ์ ยุคเรเนสซองส์ เหรียญทองฟลอริน และการเฟื่องฟูธุรกิจการธนาคารที่นำมาสู่วิวัฒนาการของระบบธนาคารกลาง มาจนถึงบทสรุปที่กล่าวถึงอนาคตของระบบการเงินระหว่างประเทศในปัจจุบันที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างเตรียมพร้อมที่จะสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง การเกิดขึ้นของบิตคอยน์ได้เปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ของโลกการเงินและนำศาสตร์ทางการเงินและการเข้ารหัสลับมารวมกันได้อย่างไร เสนอมุมมองการวิเคราะห์ "พีระมิดเงินซ้อนชั้น" ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ผู้อ่านอ่านแล้วสามารถเข้าใจตลาดเงินได้อย่างง่ายดาย และเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการทำงานของระบบเงินตราปัจจุบัน เหตุใดสกุลเงินดอลลาร์จึงยังมีความสำคัญ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ และเข้าใจว่าสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางและสกุลเงินคริปโตจะสามารถอยู่รวมกันในโลกการเงินใหม่ของเราได้อย่างไร เป็นต้น หนังสือราคา 285 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี