ในห้วงเวลานี้คงไม่มีข่าวเศรษฐกิจใดในโลกที่โด่งดังและช็อกโลกได้เท่ากับการล่มสลายของธนาคาร Credit Suisse ธนาคารที่ใหญ่อันดับสองของสวิส บริษัท Credit Suisse เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมากว่า 160 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซูริคนี้ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ ส่วนบริหารความมั่งคั่ง ส่วนการลงทุน ส่วนธนาคาร และส่วนบริหารสินทรัพย์ การที่กฎหมายของสวิสไม่มีข้อกำหนดเรื่องการตรวจสอบที่มาของแหล่งเงิน ต้องปิดข้อมูลของลูกค้าเป็นความลับ เป็นธนาคารที่มีสาขาในประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศ และมีงานหลักคือ รับฝากเงินและบริหารสินทรัพย์ให้กับกลุ่มคนมั่งคั่ง ธนาคารแห่งนี้จึงเป็นที่ซุกเงินอย่างดีของนักธุรกิจที่เลี่ยงภาษี และนักการเมืองฉ้อฉลทั่วโลก
เมื่อธนาคารมีเงินสีเทามากมาย และการฟ้องร้องทำได้ยาก ผู้บริหารธนาคารจึงเห็นช่องทางของการฉ้อฉลเช่นกันจนทำให้ถูกปรับเงินมากมายหลายพันล้านดอลลาร์หลายครั้งตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาเพื่อกลบเกลื่อนความร่วมมือกับผู้กระทำผิดต่างๆ ทั่วโลก แม้ธนาคารจะถูกปรับเป็นเงินมหาศาล แต่ธนาคารก็สามารถดำเนินการได้ดีมาตลอดเป็นเพราะมี เงินเติมเข้ามาใหม่ๆ ตลอดเวลาจากเงินฉ้อฉลของเศรษฐีเลี่ยงภาษีและนักการเมือง การล่มสลายของธนาคารแห่งนี้เริ่มต้นจากปี 2021 จากการล่มสลายของกองทุน Archegos Capital Management ทำให้บริษัทขาดทุนมากถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากนั้นบริษัทก็มีปัญหาเดิมๆ ที่ถูกปรับเงินอีกหลายครั้งติดๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกันจากข้อหาพัวพันกับการฉ้อโกงของนักการเมืองและกองทุนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เมื่อธนาคารประกาศผลการดำเนินการของปี 2022 ที่ขาดทุนถึง 7.3พันล้าน ร่วมกับการที่ธนาคารชาติซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึง 9.9% ไม่ยอมเพิ่มทุนจึงทำให้ผู้ฝากเงินขาดความเชื่อมั่นและแห่กันมาถอนเงินจนทำให้ธนาคารที่อายุกว่า 160 ปีถึงการล่มสลายภายในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง2 สัปดาห์
การที่ธนาคาร Credit Suisse ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยของมหาเศรษฐี และนักการเมืองที่มั่งคั่งทั้งหลายทั่วโลกมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซูริคจึงทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองการเงินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก เมื่อซูริคเป็นถิ่นของคนมั่งคั่ง ที่นี่จึงไม่เพียงเป็นเมืองที่มีสนามบินใหญ่ที่สุดของสวิส ยังเป็นทั้งเมืองทางผ่าน และปลายทางของการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว นอกจาก Zurich จะเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ที่นี่ยังมีความสำคัญทางด้านสังคม และวัฒนธรรมที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศด้วย เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบซูริคที่มีความเป็นเลิศทางด้านคุณภาพชีวิตนี้เป็นเมืองที่มีการบริหารจัดการด้านของเสียและการเดินทางที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก การที่ความเป็นอยู่ของที่นี่ดีเลิศ ที่นี่จึงมีประชากรกว่า 30% เป็นชาวต่างชาติ นอกจากนักการเงินแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมของบริษัททางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมรวมทั้งการท่องเที่ยวอีกด้วย
นักท่องเที่ยวที่มีเวลาหรือมีจุดหมายปลายทางที่ซูริคสามารถเดินทางจากสนามบินเข้าสู่กลางเมืองมาที่สถานีรถไฟกลางโดยทางรถไฟในเวลาเพียงแค่ 10 นาที หากนักท่องเที่ยวมี Swiss pass ก็สามารถใช้ได้เลยโดยไม่ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม หลังจากเก็บกระเป๋ากับตู้ที่ชานชาลาเรียบร้อยโดยมีค่าเก็บแตกต่างกันตามขนาดของตู้และเวลาที่เก็บแล้ว ก็สามารถออกเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองที่มีอยู่หลายแห่ง อาทิ เดินเล่นในเมืองไปตามถนนBahnhof เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของบ้านเรือนและร้านค้าโดยอาจแวะช้อปปิ้ง หรือลิ้มลองอาหารหรือขนมอย่างเดียวโดยไม่แวะเที่ยวอะไรในเมืองเลยทั้งวันก็ได้ หรือจะแวะเข้าเข้าชม Uhrenmuseum ก็ได้หากผ่านจุดนี้ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ระหว่าง 14.00-18.00 น. หรือจะเข้าโบสถ์ St.Peter ที่มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Uhrenmuseum ก่อนข้ามสะพาน Munsterbruke เพื่อไปยังโบสถ์ Gross Munster ที่มีหอคอยคู่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็ได้แล้วแต่เวลาที่นักท่องเที่ยวและความสนใจ การเดินเล่นไม่เพียงไม่กี่จุดนี้ก็สามารถทำให้นักท่องเที่ยวหมดเวลาของวันไปอย่างงงๆ ได้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี