โรงแรมเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ : ซูม่า (Zuma) ห้องอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยสไตล์อิซากาย่าที่โด่งดังในกรุงลอนดอน และประสบความสำเร็จในอีกหลายเมืองทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่โรงแรมเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ เปิดตัวเมนูใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ไม่เป็นทางการ  ทันสมัย แต่มีความซับซ้อนของรสชาติ

แนวคิดการทำอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของซูม่า  ประกอบไปด้วย ห้องครัวหลัก เคาเตอร์ซูชิ และเตาย่างโรบาตะที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นที่ทันสมัยและมีความซับซ้อน ซูม่าได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากสื่อต่างๆ ระดับนานาชาติรวมไปถึงรางวัล "ร้านอาหารแห่งปี" จาก Tatler Restaurant ประเทศอังกฤษ รางวัล "ร้านอาหารใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด" จาก Conde Nest Traveler และรางวัล "ร้านอาหารใหม่ประจำปี 2009" จากนิตยสาร Time Out Istanbul อีกทั้ง Zuma London และ Zuma Hong Kong ยังติด 1 ใน 100 อันดับของร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกของ S.Pellegrino ซึ่งได้รับการโหวตจากนักวิจารณ์เชฟและภัตตาคารระดับนานาชาติกว่า 800 คน อีกทั้ง เชฟเรนเนอร์ เบคเคอร์ Rainer Becker ผู้ก่อตั้ง ยังได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมร้านอาหารด้วยรางวัลต่าง ๆ ได้แก่เชฟแห่งปีจากทั้งนิตยสาร Harper's Bazaar และ Moet ด้วย

ซูม่า กรุงเทพฯ เปิดบริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2554 และได้รับเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง จนติดในลิสต์ร้านอาหารญี่ปุ่นในสไตล์อาซากาย่าอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ ด้วยเมนูอาหารอันหลากหลาย แปลกใหม่  และเข้าถึงง่าย ซึ่ง เชฟเรนเนอร์ เบคเคอร์ (Rainer Becker)   ได้นำเอาปรัชญาการทำอาหารสมัยใหม่ที่สง่างามและซับซ้อนมาใช้กับอาหารสไตล์อิซากายะ  ให้ประสบการณ์การทานอาหารญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ไม่เป็นทางการ  เมนูอาหารของซูม่าจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่ถูกจัดว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ปรุงขึ้นในครัว 3 ส่วน คือครัวหลักที่ปรุงเมนูอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัย ซูชิบาร์ที่ดูแลโดยเชฟซูชิโดยเฉพาะ และเตาโรบาตะ  สำหรับเมนูปิ้งย่าง ซึ่งเป็นการปรุงอาหารที่มีที่มาจากวิธีการทำครัวของชาวประมงในภาคเหนือของญี่ปุ่น

เพื่อต้อนรับการกลับมาใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯ อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ซูม่า จึงเปิดตัวเมนูใหม่ที่มีความน่าสนใจและชวนลิ้มลอง  สร้างสรรค์โดย Head Chef - Cinzia Pernici ไม่ว่าจะเป็นเมนูทานเล่นที่ทานเพลินอย่าง   Grilled edamame with lemon oil and shichimi pepper (ถั่วแระญี่ปุ่นย่าง โรยพริกญี่ปุ่น) ถั่วแระญี่ปุ่นย่างบนเตาถ่านโรบาต้าทำให้ได้กลิ่นหอม เคลือบด้วยเลมอนออยล์และโรยพริกป่นญี่ปุ่นชิจิมิเพิ่มรสชาติ ต่อด้วย  Seared tuna with braised red onion and ponzu  (ปลาทูน่าแล่บาง ราดซอสพอนสึ) เสิร์ฟพร้อมหอมแดงดองพิเศษตัดกับรสเปรี้ยวของพอนสึได้อย่างดี และสามารถดึงรสชาติของทูน่าได้ดียิ่งขึ้น กระเทียมเจียวและต้นหอมเพิ่มความกรุบกรอบให้จานนี้   Crab salad, sesame dressing and tobiko (สลัดเนื้อปูราดซอสงา โทบิโกะ)  ในจานประกอบด้วย เนื้อปู อะโวคาโด ผสมผสานกับ มิซูน่า (Mizuna) หรือ ผักน้ำญี่ปุ่น และได้ความกรุบกรอบจากแป้งเทนคาสึ (Tenkasu) ราดด้วยน้ำสลัดงารสหวานหอม ท็อปด้วยโทบิโกะหรือไข่ปลาบิน  เมนูทานเล่นอีกจานที่ทานเพลิน  หรือจะเป็น Langoustine in kataifi with sour dashi  (กุ้งแลงกุสทีนห่อด้วยแป้งฟิลโลฝอยทอด ซอสดาชิ) กุ้งแลงกุสทีนแล่บางชุบแป้งเทมปุระและคลุกด้วยแป้งฟิลโลฝอยนำไปทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมซอสดาชิและมะนาว

จานหลักอย่าง   iberico pork with mushroom salad and truffle mayo (เนื้อหมูดำย่างเสิร์ฟพร้อมสลัดเห็ดและซอสทรัฟเฟิล) เนื้อหมูดำไอเบริโกหมักกับพอนสึ ราดด้วยซอสทรัฟเฟิลและเห็ดออรินจิที่เข้ากันได้อย่างลงตัว   miso marinated black cod wrapped in hoba leaf (ปลาแบล็คค้อดหมักมิโซะห่อใบโฮบะ) ปลาแบล็คค็อดดำหมักด้วยซอสมิโซะหวาน สาเก และมิรินอย่างน้อย 3 วัน ซึ่งทำให้เนื้อปลานุ่มและชุ่มฉ่ำ นำไปห่อด้วยใบโฮบะ เสิร์ฟพร้อมซอสมิโซะ  spicy beef tenderloin with sesame, red chili and sweet soy (เนื้อสันในย่างราดซอสเผ็ดหวานโรยงา) เนื้อออสเตรเลียดรายเอจ 270 วัน ตัวเนื้อชุ่มฉ่ำ พร้อมซอสจากถั่วเหลือง ขิงและงา โรยด้วยต้นหอมย่าง ที่คนรักเนื้อต้องหลงรัก  

ใครที่ชอบซีฟู้ดต้องไม่พลาด jumbo tiger prawn with yuzu kosho (กุ้งลายเสือใหญ่ซอสยุซุโคโช) กุ้งลายเสือย่าง หั่นพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมยุซุ โคโช (ผิวยุซุขูดผสมพริกเขียว) และผิวยุซุ พร้อมโอลีฟ ออยล์ เพื่อเชื่อมส่วนผสมทุกอย่างให้มีรสชาตินุ่มนวลขึ้น และ thinly sliced sea bass with yuzu, truffle oil and salmon roe (ปลากะพงขาวแล่บางราดซอสทรัฟเฟิลยุซุ) ปลากระพงขาวแล่บาง ราดด้วยซอสทรัฟเฟิลยุซุ ที่เข้ากันได้อย่างดี ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน

ซูม่า ยังมีรายการเครื่องดื่มมากมายไว้บริการคู่กับอาหาร และเป็นร้านอาหารแห่งแรกที่มี “สาเกซอมเมลิเยร์” ในยุโรป เชฟเรนเนอร์ชื่นชอบสาเกมาก และนำเสนอสาเกกว่า 40 ในซูม่า รวมทั้งสาเก บิวะ โน โชจู ของทางร้านที่ทำขึ้นเพื่อเครือร้านอาหารซูม่าโดยเฉพาะ ด้วยน้ำจากทะเลสาบบิวะในจังหวัดชิกะ  ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นจากการสนับสนุนของโชกุน โทคุกาวะ โยชิโร ในสมัยศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นผู้ออกกฏระเบียบว่าด้วยการทำอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและพิธีชงชาที่ยังคงใช้สืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน

นอกจากสาเกและไวน์แล้ว สำหรับนักดื่ม  ซูม่า ยังมีบาร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย พร้อมเสริฟเครื่องดื่มประเภทค็อกเทล ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมและสปิริตจากประเทศญี่ปุ่น  

ซูม่า เปิดให้บริการทุกวันจันทร์ – วันพฤหัสบดี มื้อกลางวัน : 11.30 น. - 15.00 น. มื้อเย็น: 18.00 น. - 01.00 น. วันศุกร์ – วันสาร์ มื้อกลางวัน: 11.30 น. - 15.30 น. มื้อเย็น: 18.00 น. - 02.00 น. และ วันอาทิตย์ บรั้นช์: 11.00 น. - 15.00 น. มื้อเย็น 18.00 น. - 00.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะ โทร: 02 252 4707 อีเมล: reservations@zumarestaurant.co.th

เว็บไซต์: www.zumarestaurant.com  เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/ZumaBangkok  อินสตาแกรม: https://www.instagram.com/zumabangkok/

-(016)