เป็นที่รู้กันดีว่า แพนด้าถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของจีน ที่ถูกใช้เป็นสื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในฐานะเป็นทูตสันถวไมตรี ส่งผลให้แพนด้าได้ไปเหยียบแผ่นดินของประเทศต่างๆ ทั่วโลกมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดินีบูเช็กเทียน ที่จีนส่งแพนด้าคู่หนึ่งไปที่ญี่ปุ่น จนถึง ค.ศ.685 ราชวงศ์ถังมอบแพนด้าให้แก่ต่างประเทศครั้งแรก ตามด้วย ค.ศ.1936-1945 รัฐบาลก๊กมิ่นตั๋งมอบแพนด้าให้แก่ประเทศตะวันตก 14 ตัวพอถึงทศวรรษ 1950 จีนมอบแพนด้าให้แก่รัสเซีย และเกาหลีเหนือ ทศวรรษ1970 จีนมอบให้แก่สหรัฐอเมริกาญี่ปุ่น ฝรั่งเศส แต่พอถึงทศวรรษ 1980จำนวนแพนด้าในจีนลดลงอย่างรวดเร็วจีนจึงหยุดมอบให้กับต่างประเทศ เปลี่ยนเป็นระบบเช่าช่วงแพนด้าไปจัดแสดง เปลี่ยนเป็นรูปแบบร่วมกันวิจัยระยะยาว
วันที่ 12 ตุลาคม 2003 แพนด้าคู่แรกจากจีนเดินทางถึงประเทศไทยสวนสัตว์เชียงใหม่ ตัวผู้ชื่อ ช่วงช่วง ตัวเมียชื่อ หลินฮุ่ย แพนด้าคู่นี้ได้รับความนิยมจากชาวไทยอย่างมาก ถึงขั้น“ทรูวิชั่นส์” เปิดช่องถ่ายทอดความเคลื่อนไหวของแพนด้าแบบ 24 ชั่วโมงต่อมา ไทยเป็นเจ้าภาพโลกจัดประชุมหมีแพนด้าโลกนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรกที่ จ.เชียงใหม่
หลินฮุ่ยให้กำเนิดลูกแพนด้าเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 และเปิดให้เสนอชื่อลูกแพนด้ากันเข้ามาจนสุดท้ายได้ชื่อเรียกว่า “หลินปิง”การออกอากาศดำเนินไปเป็นเวลา 3 ปีและสิ้นสุดลงในปี 2555
ปัจจุบัน มีแพนด้า 43 ตัว อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ 17 แห่ง ใน 12 ประเทศทั่วโลกนอกจากจีน การเซ็นสัญญาเกี่ยวกับการร่วมกันวิจัยแพนด้าระหว่างจีนกับต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีผลใช้บังคับเป็นเวลา 10 ปี ค่าเช่ายืมปีละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องซื้อประกันภัยไว้ด้วย หากแพนด้าตายระหว่างอยู่ต่างประเทศ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับจีนเงินจะเข้ากองทุนอนุรักษ์แพนด้าในประเทศจีน
สิ่งสำคัญคือ สัญญาระบุไว้ว่าจีนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของแพนด้าที่ไปอยู่ต่างประเทศ รวมทั้งสิ่งของต่างๆ บนตัวแพนด้า เช่น ขนทุกเส้น และตัวอย่างเลือดทุกหยดที่เก็บมาเพื่อดำเนินการวิจัย ล้วนเป็นของจีน ส่วนลูกแพนด้าที่เกิดในต่างประเทศก็เป็นของจีน กำหนดว่าต้องส่งกลับประเทศจีนก่อนอายุ 2 ขวบ ปัจจุบันอนุญาตให้อยู่ในต่างประเทศไม่เกิน 4 ปี
ฝ่ายจีนต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างในการส่งแพนด้าไปต่างประเทศ เช่น สภาพอากาศสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์ เทคโนโลยี ต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเตรียมความพร้อมทุกอย่าง สถานที่เลี้ยงแพนด้าในต่างประเทศต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองจากฝ่ายจีนตั้งแต่ก่อนลงมือก่อสร้าง จน เมื่อใกล้จะเสร็จจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากจีนไปตรวจสอบเพื่อยืนยันว่า ถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ ต้องมีพื้นที่กว้างกลางแจ้งไม่น้อยกว่า 500 ตารางเมตร ในร่มไม่น้อยกว่า 40 ตารางเมตร และต้องติดเครื่องปรับอากาศควบคุมความชื้นอุณหภูมิภายในห้องต้องควบคุมไม่ให้เกิน 25 องศา
เพื่อต้อนรับหมีแพนด้าจากจีนแต่ละประเทศลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างที่อยู่ให้แพนด้า เช่น สวนสัตว์เบลเยียมลงทุน 8 ล้านยูโร สร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน อีกทั้งปลูกสวนไผ่ไว้ 4 เฮกตาร์ส่วนสวนสัตว์ที่เอดินเบอระในสกอตแลนด์ถึงกับติดตั้งกระจกกันกระสุนด้วย
ในส่วนของพี่เลี้ยง ต้องไปอบรมที่จีนมาแล้วหลายครั้ง อย่างน้อยประมาณ 1-2 เดือน เพื่อสร้างความสนิทกัน ต้องคุยกับหมีแพนด้าตลอด แต่ไม่ต้องเรียนภาษาจีน คุยด้วยภาษาต่างประเทศก็ได้ เพราะสำหรับแพนด้าแล้ว การคุ้นกับน้ำเสียงและสัญญาณที่ผู้เลี้ยงส่งให้สำคัญที่สุด ฝึกนานๆก็จะฟังเข้าใจ
ส่วนการเพาะพันธุ์ ทางการจีนจะคัดเลือกแพนด้าออกนอกประเทศกันเป็นคู่ เนื่องจากมียีนพันธุกรรมเหมาะจะผสมพันธ์ุกันจะได้ไม่เสียเวลาในการหาคู่ ใช้วิธีดั้งเดิมแบบคลุมถุงชนแต่เนื่องด้วยการขยายพันธุ์ทำได้ยาก แพนด้าจะทำอะไรกันก็ทำไม่เป็น ยิ่งแพนด้าตัวผู้ส่วนมากไม่สามารถทำได้ จึงต้องอาศัยการผสมเทียม โดยอาศัยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจีนซึ่งเทคโนโลยีของจีนอยู่ระดับชั้นนำของโลก แพนด้าตัวเมียปีหนึ่งมีช่วงตกไข่เพียงครั้งเดียว และติดสัดเพียงปีละ 2 วันเท่านั้น พลาดไปแล้วก็ต้องรออีกหนึ่งปี ก่อนเข้าสู่ช่วงตกไข่ของแพนด้า สวนสัตว์ต่างประเทศมักจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจีนไปช่วย
เมื่อคิดบัญชีในทางตรง แพนด้าช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสวนสัตว์ แบบมหาศาล แม้จะมีต้นทุนคือค่าเช่า1 ล้านดอลลาร์ แถมมีค่าอาหาร ที่อยู่ แต่แพนด้าก็ได้สร้างรายได้ให้กับสวนสัตว์ทั่วโลกรวมทั้งเชียงใหม่ มหาศาลทั้งค่าบัตรเข้าชมและของที่ระลึกต่างๆ เช่น ตุ๊กตาหมีแพนด้า เสื้อยืด แม่เหล็กติดตู้เย็น เป็นต้น โดยเฉพาะตุ๊กตาขายดีที่สุด อาทิตย์หนึ่งขายได้หลายพันตัว แพนด้าคู่หนึ่งย้ายไปอยู่ในสวนสัตว์เอดินเบอระ ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 51% รายได้ของสวนสัตว์เพิ่มจาก5 ล้านปอนด์เป็น 15 ล้านปอนด์ พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรได้ในชั่วข้ามปี
ส่วนสวนสัตว์เชียงใหม่ จากที่เงียบเหงา กลายเป็นคึกคักโด่งดังระดับโลก ยิ่งตอนที่ตั้งท้องและคลอดแพนด้าน้อยหลินปิง เติบโตเป็นกระแสฟีเวอร์ ถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง มีรถโมโนเรลไฟฟ้าวิ่งรอบสวนสัตว์ ช่วงฮิตๆ ปีแรก รายได้จากแพนด้าทะลุ 60 ล้านบาทต่อปี ยังไม่นับว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวทางอ้อมอีกไม่รู้เท่าไหร่
เป็นเวลา 20 ปี ที่คนไทยได้เห็น หลินฮุ่ย แพนด้าน้อย จนกลายเป็นสาว เป็นแม่ เติบโต แก่ชรา และจากไป สร้างความสุขให้ชาวไทยมากมายได้เติบโตมาพร้อมกับ ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย เป็นประสบการณ์ที่ดีและปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลินฮุ่ย เป็นแม่แพนด้าที่ทำหน้าที่เลี้ยงลูกได้สมบูรณ์มาก เพียงลูกออกมาไม่กี่นาทีก็จับลูกอุ้มมากินนม สอนและเลี้ยงลูกถึง 4 ปี ในขณะที่เมืองจีนให้ลูกหย่านมเพียงอายุแค่6 เดือน ทำให้หลินปิง กลับไป เป็นแม่แพนด้าที่ดี เป็นแพนด้าสัญชาติไทยที่กลับไปมีลูกแฝดสืบตระกูลอีกถึง3 คู่
นั่นทำให้ ช่วง ช่วง และ หลินฮุ่ยจะอยู่ในใจคนไทยไปอีกนานแสนนาน
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี