สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ฉลองพระองค์ผ้าไหมแพรวาเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม”ครั้งที่ 14 ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จัดแสดงพระฉายาลักษณ์ ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าพื้นถิ่นต่างๆ แต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อแสดงถึงพระราชกรณียกิจด้านการส่งเสริมและสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยพร้อมทรงร่วมกิจกรรมทอผ้าไหมยกทองด้วยกี่ทอมือโบราณภายในงาน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตัดแถบแพรเปิดงานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 14 และเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งได้จัดแสดงพระฉายาลักษณ์ ฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจากผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผ้าพื้นถิ่นต่างๆ แต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อแสดงถึงพระราชกรณียกิจด้านการส่งเสริมและสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยนิทรรศการ “มรดกสยามอันล้ำค่า” จัดแสดงและสาธิตงานศิลปหัตถกรรมที่ล้ำค่า หาดูยาก โดยครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรมและทายาทที่ได้รับการยกย่องเชิดชูจากสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทยปี 2552-2565
อีกทั้ง ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจกรรมสาธิตกระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย โดยจัดแสดงสาธิตการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรม ซึ่งเป็นการรักษามรดกภูมิปัญญาที่แสดงถึงทักษะฝีมือเชิงช่างของครูและทายาทกิจกรรมสาธิตงานช่างศิลปาชีพนานาศิลปาชีพ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บูธกิจกรรมหัตถศิลป์ทั่วถิ่นไทย การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และทอดพระเนตรนิทรรศการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรมและทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2566
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงสนพระราชหฤทัยและมีพระราชปฏิสันถารกับครูช่างและทายาท อาทิ งานแทงหยวก โดยทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2557 จากจังหวัดเพชรบุรี งานเครื่องทองยัดสายแห่งบ้านกาด โดยทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2558 จากอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ และงานกระจกเกรียบโบราณ โดยครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2565 และงานเครื่องโลหะ โดยครูศิลป์แห่งแผ่นดิน ปี 2562 จากจังหวัดนนทบุรี เป็นต้น จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมทอผ้าไหมยกทองด้วยกี่ทอมือโบราณพันห้าร้อยตะกอ จากหมู่บ้านท่าสว่าง ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์วิธีการทอผ้าไหมยกทองแบบโบราณ ยังคงไว้ซึ่งงานหัตถศิลป์อันล้ำค่าของคนไทยก่อนที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ทั้งนี้ งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม” ครั้งที่ 14 จัดขึ้นระหว่างนี้จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้แนวคิด “ภูมิใจ ภูมิปัญญา สืบสานงานหัตถศิลป์ล้ำค่าคู่พระบารมี” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นต้นแบบด้านการส่งเสริมและสนับสนุนงานศิลปาชีพและงานศิลปหัตถกรรมไทยอันเป็นมรดกของแผ่นดิน ภายในงานนอกจากการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปหัตถกรรมไทยแล้ว ยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยจากทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย อีกทั้งมีกิจกรรมทดลองทำงานศิลปหัตถกรรมด้วยตนเอง ทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยซึ่งสอนโดยครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสืบสานและสืบทอดภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยแก่ช่างฝีมือและผู้สร้างสรรค์รุ่นใหม่สืบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี