นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบงานแนว Impressionism ผลงานของศิลปินผู้หนึ่งที่จะได้ชมอย่างจุใจเมื่อมาเยือน Kunsthaus Zurich หอศิลป์ที่มีผลงานแนว Impressionism จำนวนมากจัดแสดงอยู่นั่นคือ Claude Monet เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1840 ณ กรุงปารีสโดยเป็นบุตรคนที่สองของ Claude Adolphe Monet และ Louise Justine Aubree Monet หลังเขาเกิด 5 ปีบิดาเขาย้ายไปอยู่ที่แคว้น Normandy เนื่องจากบิดาของเขาเป็นพ่อค้าขายส่งจึงต้องการให้เขาดำเนินรอยตามด้วยการทำธุรกิจค้าของชำ แต่เขากลับต้องการเป็นศิลปิน เขาจึงขอการสนับสนุนจากมารดา และเข้ารับการศึกษาทางด้านศิลปะตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ปี เขาใช้เวลาฝึกฝนเพียงแค่ 4 ปี ก็เริ่มสามารถหาเงินได้จากการเขียนภาพ เมื่อมารดาของเขาเสียชีวิตในปี 1857 เขาต้องอยู่กับบิดาและน้า ปีต่อมา เขาได้พบกับ Eugene Boudin ซึ่งเขาถือว่าเป็นครูที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งในชีวิตของเขาและได้รับการสนับสนุนให้มีทักษะในการวาดภาพกลางแจ้ง ในปี 1859 เขาได้มีโอกาสเข้าเรียนที่ Academia Suisse และได้พบกับ Camille Pissarro
อีก 2 ปีต่อมา เขาได้เข้ารับราชการทหารที่ Algeria ซึ่งกลายเป็นสถานที่ที่มีอิทธิพลต่อเขามากเพราะทำให้เขามีโอกาสที่จะศึกษาเรื่องแสงและสี ปี 1862 เขาป่วยจนต้องออกจากทหารและกลับไปอยู่ปารีสกับบิดา แต่เขาก็ได้รับอนุญาตให้ไปใช้ชีวิตในชนบทบ้างและได้พบกับ Pierre-Auguste Renoir และ Frederic Bazille จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้ง 3 คนรวมทั้ง Alfred Sisley ได้มีโอกาสวาดภาพด้วยกันบ่อยๆ ในช่วงเวลานั้นเขาได้มีโอกาสวาดภาพ Women in Garden ซึ่งเป็นภาพแรกๆ ที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงถึงกระนั้นก็ตาม เขากลับไม่สามารถส่งงานเข้าไปจัดแสดงที่ Salon อย่างสม่ำเสมอ ยิ่งหลังปี 1868 ด้วยแล้ว เขาแทบไม่เคยมีโอกาสได้จัดแสดงผลงานเลย เพราะกรรมการเห็นว่าผลงานของเขาไม่เข้าเกณฑ์มาตรฐาน
Poppy Field 1880
ในปี 1867 Camille Doncieux ชู้รักของเขาได้ให้กำเนิด Jean บุตรชายกับเขา แต่เนื่องจากเขาและชู้รักไม่ได้แต่งงานกันเป็นเรื่องเป็นราวจึงทำให้บิดาโกรธและตัดการสนับสนุนทางการเงิน เขาจึงต้องย้ายไปอยู่บ้านน้า ความที่เขารักบุตรชายมาก เขาจึงได้สร้างสรรค์งานเกี่ยวกับคนในครอบครัวไว้หลายชิ้น เช่น Child with cup, a portrait of Jean Monet ต่อมา Louis-Joachim Gaudibert นักสะสมงานศิลปะได้ช่วยให้เขาสามารถกลับมาคืนดีกับ Camille และเริ่มวาดภาพเกี่ยวกับผู้คนที่กลมกลืนไปกับภาพกลางแจ้ง เขาสามารถขายงานหลายชิ้นให้กับ Gaudibert จนทำให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก่อนที่จะมาได้รับการสนับสนุนจาก Gustave Caillebotte นักสะสมงานศิลปะอีกคนหนึ่ง ในที่สุดในวันที่ 28 มิถุนายน 1870 เขาก็ได้แต่งงานกับ Camille เขาและครอบครัวเดินทางหนีสงคราม Franco-Prussia ไปอยู่ที่ลอนดอนและเนเธอร์แลนด์ เขาได้กลับไปพบกับ Pissarro อีกครั้ง อีกทั้งยังได้พบกับ PaulDurand-Ruel นายหน้าขายภาพ เขาได้มีโอกาสชื่นชมผลงานของ J.M.W.Turner และได้ใช้งานของ Turner เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานในเวลาต่อมา
ในฤดูใบไม้ผลิปี 1871 เขาถูกปฏิเสธในการขอเข้าร่วมส่งผลงานในนิทรรศการ RoyalAcademy ประกอบกับบิดาเสียชีวิต เขาเลยพาครอบครัวย้ายไปอยู่ Argenteuil และได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานที่นั่นอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาในปี 1874 เขาเซ็นสัญญาเช่าบ้าน 6 ปีครึ่ง และย้ายไปอยู่บ้านใหม่ในเมืองเดิม และได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานจากที่นี่เพิ่มอีกเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะภาพ panoramic ขนาดใหญ่ ในช่วงเวลานั้น ฐานะของเขาก็ลุ่มๆ ดอนๆ เนื่องจากผู้สนับสนุนใหญ่หยุดการสนับสนุน เขาขายภาพได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ยังพยายามร่วมกับเพื่อนกลุ่ม Impressionist จัดแสดงผลงานภายใต้ชื่อกลุ่ม Anonymous Society of Painters, Sculptors and Engravers เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกต่อต้านจาก Salon เขาเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นกว่าศิลปินอื่นๆ ในกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลงานแนวทิวทัศน์ที่โดดเด่นและมีอัตลักษณ์
ในนิทรรศการครั้งแรกที่เก็บเงินค่าเข้าชม60 ฟรังซ์ ในปี 1874 นั้น แม้ Louis EdmondDuranty จะชื่นชมว่าผลงานของ Monet ถือเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง แต่นักวิจารณ์ศิลป์ส่วนใหญ่วิพากษ์อย่างเสียหายจึงทำให้เขาไม่สามารถขายงานได้แม้แต่ชิ้นเดียว แม้จะตั้งราคาไว้เพียงแค่ชิ้นละ 1,000 ฟรังซ์ ถึงกระนั้นก็ตามเขาก็ยังเข้าร่วมจัดแสดงผลงานเช่นนี้ต่ออีก3 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถขายภาพได้เลย ทั้งMonet, Renoir, Pissarro, Morisot, Cézanneและ Sisley ต่างทดลองแนวทางใหม่ที่เน้นความจริงและปฏิเสธความมืดโดยเน้นการใช้แสงให้ดูโรแมนติก เหมือนจริงและดูสดใส หลังให้กำเนิด Michel บุตรชายคนที่สองในปี 1878 สุขภาพของภรรยาเขาทรุดโทรมลงมากMonet จึงจำเป็นต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ Vetheuil ที่ซึ่งเขาต้องไปเช่าบ้านอยู่กับ Ernest Hoschede เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่กลายเป็นผู้อุปถัมภ์คนใหม่และได้จ้างเขาสร้างสรรค์ผลงาน 4 ชิ้น โชคร้ายภรรยาของเขาเสียชีวิตในปีต่อมา ซ้ำผู้อุปถัมภ์ก็ล้มละลายทำให้เขาต้องย้ายออกจากบ้านกลับไปอยู่ปารีส
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเยือน Kunsthaus Zurich จะได้มีโอกาสชมผลงานในช่วงต้นของชีวิตเขาจำนวนหนึ่งไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถเห็นพัฒนาการของฝีไม้ลายมือได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะ The Dinner ปี 1869 แทบจะไม่เชื่อเลยว่าเป็นผลงานของ Monet เลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี