Potato Eaters 1885
บนโลกใบนี้ นอกจาก Leonardo Da Vinci ที่เป็นทั้งปราชญ์และศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดแล้วคงไม่มีศิลปินคนใดมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากเท่า Van Goghหอศิลป์ใหญ่ๆ ทุกแห่งบนโลกต่างแย่งชิงกันที่จะสรรหาผลงานของศิลปินผู้นี้มาจัดแสดง แม้ Van Gogh จะมีห้องภาพของตัวเองอยู่แล้วในกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ก็ตาม Kunsthaus Zurich ซึ่งเป็นหอศิลป์ที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดของสวิสซึ่งเป็นประเทศที่เกือบจะมั่งคั่งอันดับ4 ของโลกเทียบตาม GDP ต่อหัวประชากรย่อมมีผลงานของ Van Gogh มหาศาลมิให้น้อยหน้าหอศิลป์ใดๆ ในโลกอย่างแน่นอน
Vincent Willem Van Gogh เกิดวันที่ 30 มีนาคม 1853 ณ Groot-Zundert ประเทศเนเธอร์แลนด์โดยเป็นบุตรชายคนโตของ Theodorus Van Gogh นักบวชของ Dutch Reformed Church กับมารดาซึ่งมาจากตระกูลคหบดีที่เมืองเฮก เขามีน้องชายและน้องสาวอีก 2 คน โดยคนที่สนิทที่สุดคือ Theo ซึ่งเกิดในปี 1857 เนื่องจากบิดาของเขามีรายได้น้อยและมารดาของเขาเป็นคนเคร่งศาสนาและเข้มงวดทำให้เขาเป็นคนเคร่งขรึมและช่างคิด เมื่อยังเล็กแม่ของเขาเป็นคนสอนหนังสือก่อนจะส่งเขาไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง จึงพยายามจะกลับบ้าน แต่เขากลับถูกส่งไปเรียนใหม่อีกใน Tilburg ซึ่งทำให้เขาปราศจากความสุขหนักขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดี การไปอยู่ Tilburg ทำให้เขาได้พบกับ Constant Cornelis Hijsmans ซึ่งเป็นศิลปินที่เน้นการแสดงออกตามอารมณ์และธรรมชาติมากกว่าเทคนิค ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็รู้สึกอยู่ไม่ได้จนหนีกลับบ้านอีก ในปี 1869 ลุงของเขาหางานให้เขาฝึกงานศิลป์กับ Goupil & Cie ซึ่งเป็นห้องขายภาพที่กรุงเฮก หลังจบการอบรม เขาถูกย้ายไปอยู่กับ Goupil’s Group ที่กรุงลอนดอน
Head of Peasant Woman 1885
ที่นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของ Van Gogh เขาเริ่มทำงานและประสบความสำเร็จ และมีรายได้มากกว่าบิดา มันเป็นปีที่ดีที่สุดของเขาเลยทีเดียว เขาเริ่มเกี้ยวลูกสาวของคนให้เช่าบ้าน แต่เธอปฏิเสธ เพราะเธอหมั้นกับคนเช่าก่อนหน้าไปแล้ว เขาเลยกลับมาแยกตัว และหันเหเข้าหาศาสนา เดือนเมษายน ปี 1876 เขากลับไปอังกฤษเพื่อไปเป็นครูที่ Ramsgate ก่อนที่จะไปเป็นผู้ช่วยนักบวช ส่วนพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไป Etten ปลายปีเดียวกัน เขากลับบ้านและไปทำงานที่ Dordrecht เนเธอร์แลนด์โดยทำการแปลพระคัมภีร์จนยิ่งทำให้เขารู้สึกเข้าใกล้ศาสนามากขึ้นถึงกับยกเลิกการกินเนื้อ ครอบครัวของเขาจึงส่งเขาไปอยู่กับ Johannes Stricker ลุงของเขาที่อัมสเตอร์ดัม แต่เขาสอบเพื่อเข้าเรียนศาสนศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งอัมสเตอร์ดัมไม่ได้ ปีต่อมาเขาเลยไปเป็นมิชชั่นนารีที่ Petit Wasmes และเพื่อให้เข้าถึงความยากจนมากขึ้นเขาได้ยกที่อยู่ให้กับคนไร้บ้านและหันมาใช้ชีวิตอย่างยากจนในกระท่อมที่ทำจากฟาง
ปี 1880 เขาเริ่มหันมาใช้ชีวิตอยู่กับชาวเหมืองและเริ่มวาดภาพเกี่ยวกับผู้คนและสภาพแวดล้อมก่อนย้ายไปบรัสเซลล์ประเทศเบลเยี่ยมเพื่อเรียนศิลปะกับ Willem Roelofs ผู้สนับสนุนให้เขาเข้าเรียน AcademieRoyale des Beaux-Arts ปีต่อมาเขากลับบ้านและได้รู้จักกับ Cornelia “Kee” ลูกพี่ลูกน้องม่ายที่อายุมากกว่าเขา 7 ปี และมีลูกติดอายุ 8 ขวบ ที่เขาหลงรักจนประกาศให้ครอบครัวรู้ว่าเขารักเธอและขอแต่งงานกับเธอ แต่เธอปฏิเสธ เมื่อเขาอกหัก เขาจึงย้ายไปกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ด้วยความหวังว่าจะขายผลงานได้ ปลายปี 1881 เขากลับไปอัมสเตอร์ดัมใหม่ด้วยความหวังจะได้พบกับ Kee แต่ Kee ไม่ยอมพบเขา และพ่อแม่ของ Kee ยังเขียนบอกเขาว่า ความรักของเขาเป็นเรื่องน่ารังเกียจมาก และเขาไม่มีทางได้แต่งงานกับเธออย่างเด็ดขาดไม่ว่าเขาจะทำร้ายตัวเองก็ตาม เพราะเขายังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย
The Old Tower 1884
หลังจากนั้นเขาได้พบกับ Anton Mauve ลูกพี่ลูกน้องอีกคนซึ่งแนะนำให้เขาวาดภาพสีน้ำ และสีน้ำมัน และร่วมกันเปิดห้องภาพขนาดเล็กได้เพียงเดือนเดียวก็เลิกร้างกันไป เขาสามารถจ้างนางแบบได้แค่คนข้างถนนซึ่ง Mauve ไม่ยอมรับ เดือนมกราคม 1882 Van Gogh ได้รู้จักกับ Clasina Maria “Sien” Hoorni ซึ่งมีลูกอายุ 5 ขวบ และมีความสัมพันธ์กัน เดือนมิถุนายน 1882 Van Gogh ติดหนองในและป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาล 3 สัปดาห์ หลังออกจากโรงพยาบาลเขายืมเงิน Theo น้องชายมาซื้อสีน้ำมันและเริ่มวาดภาพสีน้ำมันภาพแรกจนติดใจ พ่อของเขาทราบเรื่องที่เขาอยู่กับ Sien ซึ่งเป็นโสเภณีมาก่อนและไม่ยอมรับ Van Gogh จึงพาSien ออกจากบ้าน แต่เนื่องจากทั้งสองไม่สามารถหาเงินได้ Sien จึงกลับไปเป็นโสเภณีอีก ในที่สุดเขาก็เลิกร้างกับเธอ เพราะคิดว่าการอยู่ด้วยกันคงไม่มีทางทำให้เขาสามารถพัฒนาทางด้านศิลปะได้
หลังจากนั้นเขาย้ายกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ Nuenen และให้ความสนใจแต่กับการเขียนภาพสีน้ำมัน และได้สร้างผลงานขึ้นจำนวนหนึ่ง สิงหาคม 1884 เขาได้พบกับ Margot Begemann ลูกสาวของเพื่อนบ้านที่อายุมากกว่าเขา 10 ปีและชอบพอกันแต่ครอบครัวของทั้งสองก็ห้ามอีก ทำให้ฝ่ายหญิงกินยา Strynine โดยหวังจะฆ่าตัวตายแต่ Van Gogh เป็นคนพาเธอไปโรงพยาบาลและรักษาจนรอดชีวิต ในช่วงที่เขาอยู่ Nuenen 2 ปี เขาสร้างสรรค์งานทั้งสีน้ำมันและสีน้ำมากถึง 200 ชิ้น แต่ผลงานช่วงนี้เน้นสีเอิร์ทโทน และหมองหม่นอันเป็นผลจากชีวิตที่ไม่สมหวังในความรักของเขาสักครั้งซึ่งแตกต่างจากงานในช่วงหลังของชีวิตอย่างมาก
นักท่องเที่ยวที่ชมผลงานของ Van Gogh ใน Kunsthaus Zurich ที่มีเพียงแค่ 2 ชิ้น จะเห็นว่า ผลงานในช่วงแรกของชีวิตนั้นเต็มไปด้วยสีหมองหม่นมืดมน ทั้งนี้คงเป็นเพราะชีวิตของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความทุกข์นั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี