หากพูดถึงโรงแรมที่มีการตกแต่งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เก๋ไก๋ ทันสมัย ไม่เหมือนใคร ในกรุงเทพฯ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ สปา กรุงเทพฯ ที่ถนนพระรามหนึ่ง ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างดี เพียงเวลา 6 ปีก็ติดลมบนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวที่ต้องการที่พักสุดฮิปและมีสไตล์โดดเด่น ภายใต้การบริหารงานของสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวัย 27 ปี “ประธานพร พรประภา” ที่หลังเรียนจบจาก Glion Institute of Higher Education สถาบันการโรงแรมอันดับต้นๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ก็อาสารับไม้ต่อจากคุณพ่อ พรพินิจ พระประภา มาดูแลธุรกิจโรงแรมในเครือ สยามแอ็ทสยาม ทันที
“เป็นช่วงประจวบเหมาะกันมากกว่า ตอนนั้นเอ็มกำลังจะจบไฮสกูล ก็ลังเลอยู่ว่าจะไปเรียนต่อด้านไหนดี ส่วนตัวชอบศิลปะ แต่ก็คิดว่าเราน่าจะเรียนอย่างอื่นดีไหม พอดีว่าคุณพ่อมีโครงการสร้างโรงแรมอยู่แล้ว ท่านก็ถามว่าสนใจไปเรียนการโรงแรมไหม ส่วนตัวก็คิดว่าน่าสนใจดีเหมือนกัน จึงตัดสินใจไปเรียนด้านบริหารธุรกิจโรงแรม แล้วก็กลับมาทำงาน ซึ่งโชคดีว่าด้วยคอนเซ็ปต์ของโรงแรมมันมีความเป็นศิลปะผสมผสานอยู่ เอ็มก็ได้นำความรู้ในสิ่งที่เรียน กับความรู้ในสิ่งที่รัก มาใช้กับงานตรงนี้ด้วย
สำหรับ สยามแอ็ทสยาม กรุงเทพฯ เอ็มก็เข้ามาทำงานได้ 4 ปีแล้ว ตอนนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในขั้นที่น่าพอใจ คือทุกอย่างสามารถรันไปได้ด้วยของมันเอง ด้วยคอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่แปลกตาซึ่งเราเชื่อว่าแขกที่มาพัก จะไม่เคยโรงแรมที่ดีไซน์แบบนี้ที่ไหนมาก่อน มันเป็นช่วงของการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแรง การพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ ”
ปัจจุบัน ประธานพร นั่งเก้าอี้ รองกรรมการผู้จัดการ เครือสยามแอ็ทสยาม มีทั้งหมด 4 โรงแรมในความรับผิดชอบ ประกอบด้วย โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ สปา กรุงเทพฯ โรงแรมโหมด สาทร โฮเต็ล เมเนจ บาย สยามแอ็ทสยาม โรงแรมคราว ลันตา จ.กระบี่ และน้องใหม่ล่าสุดที่เรียกว่าเธอฟูมฟักมากับมือ คือ โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล พัทยา ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนธันวาคม 2556 นี้
“โรงแรมสยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล พัทยา จะยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นสยามแอ็ทสยาม คือ Industrial Hotel และการนำศิลปะวัฒนธรรมความเป็นไทย วัฒนธรรมของท้องถิ่นที่เราตั้งอยู่เข้ามาในการดีไซน์ตกแต่ง สยามแอ็ทสยาม พัทยา ก็จะมีสีสันของความเป็นบีชทาวน์ ความสดใส การนำโลหะที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งในธุรกิจยานยนต์ และงานศิลป์หลากหลายมาตกแต่ง เป็นการสร้างความแปลกใหม่ในทุกมุมมอง คือ เราจะทำให้ทุกคนที่เข้าสัมผัสสยามแอ็ทสยาม พัทยา รู้สึกแปลกตาได้ในทุกๆ มุมที่มองไป จนต้องร้องว๊าวอย่างแน่นอน สิ่งที่ยังคงไว้คือ การให้บริการที่เสมือนหนึ่งลูกค้าคือคนในครอบครัว ที่เราจะต้องดูแลเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความทับใจและประสบการณ์ที่ดีตลอดเวลาที่เข้ามาใช้บริการของเรา”
สยามแอ็ทสยาม ดีไซน์ โฮเต็ล พัทยา ก็ใกล้เปิดให้บริการ สยามแอ็ทสยาม กรุงเทพฯ ก็มีการปรับโฉมใหม่ ไหนจะอีกสองโรงแรมในเครือ เรียกว่าผู้บริหารสาวหน้าใสคนนี้ ก็แทบจะหายใจเข้า-ออก เป็นงานเลยทีเดียว
“ที่พัทยาเป็นเรื่องของการดูความพร้อมให้ 100% ในการเปิดให้บริการ เพราะอยากให้ทุกคนที่มาใช้บริการประทับใจกันตั้งแต่ก้าวแรก ส่วน สยามแอ็ทสยาม กรุงเทพฯ ถึงแม้แบรนด์เราจะติดตลาด แต่เราก็นิ่งเฉยไม่ได้ ก็ต้องมีการปรับโฉมเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้น หรืออย่าง โหมด สาทร ก็เพิ่งจะเริ่มบริหารได้ไม่นาน เป็นช่วงสร้างแบรนด์ที่ต้องทำให้แข็งแรง ตอนนี้ 7 วันก็ทำงานตลอด แต่เราก็สนุกกับงานมาก โฟกัสให้กับงานอย่างเดียวเลย ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงาน มันมีอะไรใหม่ๆ มาท้าทายความสามารถของเราตลอดเวลา
ธุรกิจโรงแรมเป็นงานให้บริการ เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก เป็นเรื่องของคน สิ่งที่คนทำงานโรงแรมอย่างเอ็มคิดอยู่ตลอดเวลาคือ จะให้บริการอย่างไรให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกประทับใจและมีประสบการณ์ที่ดีตลอดระยะเวลาที่เข้ามาใช้บริการโรงแรมในเครือสยามแอ็ทสยาม”
แม้งานจะหนัก แต่เธอคนนี้ก็เป็นสาวรักสุขภาพ ที่ใส่ใจดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพื่อที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจพร้อมรับงานหนักอยู่เสมอ
“เอ็มชอบออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะร้อน เวลาที่เราเหนื่อยล้าจากงาน พอได้เล่นโยคะจะช่วยได้มาก อีกอย่างคือเอ็มเป็นคนชอบทาน จะทานเยอะ ใครว่าอะไรดี ที่ไหนอร่อยก็ตามไปชิม เพราะเราทำธุรกิจโรงแรมการไปชิมของที่เขาว่าอร่อยก็จะได้รู้ว่าอร่อยจริงไหม แล้วเราจะนำมาปรับปรุงพัฒนาอาหารของโรงแรมเราได้ไหม ซึ่งการเล่นโยคะร้อนจะช่วยเผาผลาญได้เยอะ และมันเป็นการออกกำลังกายที่กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเราได้ผ่อนคลายมากที่สุด ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง มีสมาธิ มีสติ สุขภาพร่างกายและจิตใจดี ที่สำคัญคือไม่อ้วน เอ็มว่าคนเราจะทุ่มเทให้กับงานมากแค่ไหน ก็ต้องรู้จักที่จะดูแลตัวเองให้ดี เพราะถ้าร่างกายจิตใจไม่พร้อมที่จะทำงาน ต่อให้เราทำมากแค่ไหนก็ยากที่จะทำงานออกมาดี”
ท้ายที่สุด เธอบอกกับเราว่า แม้ความฝันในวัยเด็กเธออยากจะเรียนด้านศิลปะ แต่เมื่อได้มาทำงานโรงแรมก็มีทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะการใช้ศิลปะเพื่อ “ครองใจคน” ไม่ว่าคนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ให้มีความนับถือเชื่อมั่นในตัวเธอ และคนที่เป็นลูกค้าผู้มาใช้บริการให้เกิดความประทับใจจนต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง
4 ปีกับงานบริการ 4 โรงแรมในเครือสยามแอ็ทสยาม จึงทำให้เธอตกหลุมรักงานโรงแรมอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี