ถ้ำนาคา อุทยานภูลังกา
ด้วยสังคมไทยมีความเชื่อเรื่องนาคหรือพญานาคราชสืบมายาวนาน จึงมีความเกี่ยวพันในวิถีชีวิตและสร้างประเพณี พิธีกรรมจากความเชื่อให้เป็นวัฒนธรรมมาจนถึงปัจจุบัน ในอดีตนั้นเชื่อว่าแม่น้ำโขงแห่งนี้คือรอยของพญานาคที่เลื้อยไหลจนเป็นแม่น้ำสำคัญ และเชื่อว่าพญานาคนั้นเป็นผู้พิทักษ์ศาสนาและโบราณสถาน เป็นบันไดเชื่อมระหว่างโลกและสวรรค์ จึงมีประเพณีจุดบั้งไฟพญานาคในวันออกพรรษา และประเพณีไหลเรือไฟ ที่ตกแต่งเรือเพื่อนำไปลอยบูชารอยพระพุทธบาทในแม่น้ำโขง เป็นต้น ดังนั้น วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา นายอิทธิพลคุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมนายวันชัย จันทรพร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะผู้ร่วมจัดงานแต่ละแห่ง จึงได้ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา” ภายใต้หัวข้อ“เส้นทางความเชื่อความศรัทธาแห่งลุ่มแม่น้ำโขง”ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นั้นได้จัดประเพณีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชซึ่งเป็นรูปปั้นพญานาคขดหาง ๗ เศียร พ่นน้ำได้หล่อด้วยทองเหลือง ขนาดกว้างรวมหาง ๔.๔๙ เมตรสูง ๑๐.๙๐ เมตร สูงจากฐาน ๑๖.๒๙ เมตร เศียรพญานาคหันไปทางทิศเหนือ และมีลานพนมนาคาสำหรับชมทัศนียภาพของแม่น้ำโขงด้วย สำหรับเส้นทางในกลุ่มจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อเกี่ยวกับนาคที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตในแม่น้ำโขงในจังหวัดต่างๆ ไปจนถึงวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ในจังหวัดต่างๆได้แก่ จังหวัดหนองคาย : มีวัดพระธาตุบังพวนวัดถ้ำศรีมงคล วัดโพธิ์ชัย พระธาตุหล้าหนอง เจดีย์สารพัดนึก วัดลำดวน และลานพญานาคคู่ริมโขง จังหวัดมุกดาหาร : มีวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ซึ่งมีพระพุทธมิ่งมงคลมุณีศรีมุกดาหารและ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช จุดชมวิวสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ ๒ ซึ่งมีศาลพญาอนันตนาคราช รูปปั้น “ย่านาคน้อย” พิพิธภัณฑ์ความเชื่อเรือนจอมเพชรและสวนสาธารณะแก่งกะเบา ซึ่งมีพญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช จังหวัดบึงกาฬ : วัดโพธาราม วัดอาฮงศิลาวาส วัดถ้ำชัยมงคล ศาลเจ้าแม่สองนาง ศาลปู่อือลือนาคราช และถ้ำนาคา จังหวัดนครพนม : มีพระธาตุพนม พระธาตุนคร พระธาตุประสิทธิ์พระธาตุท่าอุเทน วัดพระอินทร์แปลง แลนด์มาร์คพญาศรีสัตตนาคราช และถ้ำนาคี เป็นต้น
แม่น้ำโขงบริเวณสบรวก
นอกจากนี้ ยังสามารถเดินทางต่อไปไปยัง คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง เชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ปกครองรักษาโดย“พญานาคราชปู่ศรีสุทโธ” และ “แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี” ซึ่งปกคลุมด้วยผืนป่าคำชะโนดขนาดใหญ่ โดยมี “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” ได้ด้วย หากศึกษาถึงกลุ่มชาติพันธ์ุจากตำนานแล้วเชื่อว่านาคา หรือนาค นั้นเป็นกลุ่มชนดั้งเดิมที่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตหนองแสทางตอนใต้ของมณฑลยูนนานต่อมาได้เคลื่อนย้ายอพยพลงมาตามลำน้ำโขง และตั้งหลักแหล่งอยู่อาศัยตามลุ่มน้ำสองฝั่งโขงจนทุกวันนี้ บรรพชนของเผ่านาคานี้นับถืองูซึ่งมีพิษทำอันตรายถึงตายจึงนับถือให้ผู้คุ้มครองป้องกันอันตรายและบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ หากมนุษย์เบียดเบียนทำลายธรรมชาติ นาคก็อาจลงโทษให้เกิดภัยพิบัติถึงบ้านเมืองล่มจมได้เช่นกัน ส่วนนาคในนิบาตชาดกหลายเรื่องนั้นกล่าวว่าพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพญานาคนั้นมี ๓ ชาดก คือ ทัททรชาดกจัมเปยชาดก และภูริทัตชาดก ต่อมาหลังจากพระพุทธองค์ตรัสรู้แล้ว ได้เสด็จประทับบำเพ็ญสมาบัติเสวยวิมุติสุข ณ ร่มไม้จิก เป็นเวลา๗ วัน ได้เกิดฝนตกไม่ขาดสาย พญามุจลินท์นาคราช จึงได้ออกจากนาคพิภพ มาทำขนดล้อมพระวรกายพระพุทธองค์ ๗ ชั้น แล้วแผ่พังพานบังฝนถวายด้วยประสงค์มิให้ฝนและลมหนาวต้องพระวรกาย การกระทำของพญามุจลินท์นาคราชครั้งนี้ นับว่าเป็นผู้ประเสริฐทั้งกายและใจ จึงเป็นที่มาของสร้าง พระพุทธรูปปางนาคปรก ในเวลาต่อมาและเมื่อครั้งพระพุทธองค์เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กลับจากการเสด็จไปเทศนาโปรดพระพุทธมารดาแล้ว พญานาคได้ทอดกายเป็นบันไดนาคให้พระพุทธองค์เสด็จลงสู่โลกมนุษย์ จึงเป็นที่มาว่าบันไดนาคนั้นเป็นทางเชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ ดังนั้น เพื่อรำลึกถึงคุณของพญานาคที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ดังกล่าวจึงทำให้เกิดศิลปกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับนาคเป็นประติมากรรม และศิลปกรรมตามพระอารามต่างๆ เช่น นาคที่หน้าบัน ซุ้มประตูนาคหรือบันไดนาค เป็นต้น ซึ่งเป็นเส้นทางให้ศึกษาเรียนรู้ถึงศรัทธาธรรมจากนาคหรือพญานาคราชตนนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี