ภาวะสมองเสื่อม ส่วนใหญ่มักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นความเสื่อมตามวัย ส่งผลให้ความจำหรือการรับรู้บกพร่องไปหากคนใกล้ตัวของผู้ป่วยพามาพบแพทย์เร็ว ก็จะช่วยชะลอความเสื่อมลงได้
แพทย์หญิงดวงกมล สิงห์วิชา อายุรแพทย์โรคสมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า ผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมหรือผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม มักมีความผิดปกติของการรับรู้บกพร่องไป ซึ่งประกอบด้วยไปด้วยการรู้คิด 6 ด้าน ได้แก่ ความจำ, สมาธิจดจ่อ, การรับรู้ตำแหน่งของวัตถุต่างๆ, การวางแผน, การใช้ภาษา, และการใช้ชีวิตในสังคม ซึ่งผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมมักพบว่ามีการรู้คิดที่บกพร่องมากกว่า 1 ด้าน ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลงเช่น ไม่สามารถจัดยาเองได้ หรือเดินทางไปธุระคนเดียวแล้วหลงทาง
ภาวะสมองเสื่อม เกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ มีทั้งสาเหตุที่สามารถรักษาได้ เช่น โรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โรคขาดวิตามินบี 12 เนื้องอกในสมอง โรคซึมเศร้า โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และสาเหตุที่ไม่สามารถรักษาได้ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหลักในผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม ได้แก่ โรคอัลไซเมอร์ ส่วนโรคอื่นๆที่สามารถทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้ เช่น โรคพาร์กินสันโรคสมองส่วนหน้าฝ่อผิดปกติ
หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ และได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง การรักษาภาวะสมองเสื่อมในกลุ่มที่สามารถรักษาได้ จะทำให้สมองของผู้ป่วยเหล่านั้นฟื้นฟูกลับมาสู่สภาวะปกติได้รวดเร็วกว่า ซึ่งโดยปกติแล้วแพทย์จะวินิจฉัยด้วยการซักประวัติ ทั้งผู้ป่วย และญาติหรือผู้ดูแล รวมถึงตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลในการวินิจฉัยมากที่สุด และอาจมีทดสอบการรู้คิด ด้วยแบบประเมินต่างๆ เพื่อบอกถึงความรุนแรงของภาวะสมองเสื่อมนั้น โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
ส่วนการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆได้แก่ การตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุ เช่น ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ ระดับวิตามินในเลือด หรือการตรวจพิเศษในผู้ป่วยบางราย เช่น การเจาะน้ำไขสันหลัง รวมทั้งการตรวจทางรังสีไม่ว่าจะเป็น Computed Tomography (CT Scan), Magnetic Resonance Imaging (MRI) หรือ Positron Emission Tomography (PET) scan ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ เพื่อตรวจการทำงานของสมองที่ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากผู้ป่วยมีภาวะสมองเสื่อมจากสาเหตุที่รักษาได้ การรักษาที่ต้นเหตุจะเป็นการรักษาเพื่อทำให้สมองกลับมาทำงานได้ดี เกือบเท่าปกติ แต่หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมจากอัลไซเมอร์ การใช้ยารักษา เป็นเพียงแค่การชะลอความเสื่อมเท่านั้น เพื่อทำให้การรู้คิดหรือความจำที่ถดถอยดำเนินช้าลง
นอกจากการใช้ยารักษาแล้ว การฝึกสมอง หรือการพัฒนาสมองด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ฝึกความจำการพูดคุยสื่อสารกับคนในครอบครัว หรือการออกกำลังกายล้วนแล้วแต่ช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้ดีเทียบเท่ากับการรักษาโดยการใช้ยา ดังนั้น การฝึกพัฒนาสมองควบคู่ไปกับการใช้ยา จึงเป็นการรักษาภาวะสมองเสื่อมจากอัลไซเมอร์ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี