ภายหลัง เยฟเกนี พริโกซินหัวหน้ากลุ่มนักรบรับจ้าง “แวกเนอร์”ได้รับการยืนยันว่าอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต 10 ราย จากเหตุเครื่องบินส่วนตัวแบบเอ็มบราเออร์ ประสบอุบัติเหตุตกใกล้หมู่บ้านคูเชนคิโน ในภูมิภาคตเวียร์ ทางตอนเหนือของกรุงมอสโก เมื่อวันพุธที่ผ่านมาระหว่างที่กำลังเดินทางจากกรุงมอสโก ไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยนอกจากพริโกซินแล้ว ในบรรดาผู้เสียชีวิต ยังรวมถึง ดมิทรี อุตกิ้น หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บัญชาการระดับสูงของแวกเนอร์ด้วยนั้น
แน่นอนว่า หลายฝ่ายจับจ้องไปที่ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูตินผู้นำรัสเซีย ซึ่งเคยถูกพริโกซินออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ว่าจะมีปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้อย่างไร แต่ล่าสุด ประธานาธิบดีปูตินให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รัสเซีย แสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน โดยเขาเรียกเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ว่าเป็นโศกนาฏกรรม ปูตินกล่าวด้วยว่า เขารู้จักกับพริโกซินมากว่า30 ปี เป็นบุคคลที่มีชะตากรรมซับซ้อน เคยกระทำความผิดร้ายแรงในอดีต แต่ก็ประสบความสำเร็จที่ถูกต้อง ปูติน เคยเรียกพริโกซินในช่วงเวลาที่พยายามจะก่อรัฐประหารว่าเป็นผู้ทรยศ แต่ล่าสุด เขาบอกว่าสมาชิกกลุ่มแวกเนอร์ ที่เสียชีวิตจากเครื่องบินตกครั้งนี้ มีส่วนช่วยที่เป็นแรงสำคัญให้กับรัสเซียในการรบในยูเครน ซึ่งเขาจะไม่มีวันลืม
ก่อนหน้านี้ กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซีย และสำนักงานการบินพลเรือนของรัสเซีย ต่างออกมาประกาศว่าได้เริ่มดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตพริโกซินแล้ว แต่ว่าก่อนหน้านี้ สื่อออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแวกเนอร์ ระบุว่าเครื่องบินถูกยิงโจมตีจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย สอดคล้องกับพยานที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าได้ยินเสียงระเบิดดัง 2 ครั้ง และเห็นเครื่องบินไฟไหม้พร้อมกลุ่มควันเป็นแนวยาวก่อนตกพื้น
ขณะที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะชาติตะวันตกออกมาตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของพริโกซินในครั้งนี้ล่าสุด แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัฐบาลอังกฤษระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงกลางรัสเซีย หรือ FSBหน่วยข่าวกรองหลักที่สืบทอดมาจาก KGB อาจอยู่เบื้องหลังปฏิบัติการสั่งเก็บพริโกซิน ที่พวกเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อปูตินและรัฐบาลรัสเซีย และว่าการเสียชีวิตของพริโกซิน จะช่วยให้ทั้ง เซอร์เกชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม และพลเอกวาเลอรี เกราซิมอฟ หัวหน้าคณะเสนาธิการทหาร กลับมามีอิทธิพลและอำนาจอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านมาทั้งสองคนตกเป็นเป้าโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์จากพริโกซินอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
ทั้งนี้ พริโกซิน ปรากฏตัวต่อสาธารณะน้อยลงตั้งแต่เขาเป็นผู้นำในการก่อการกบฏต่อรัสเซียในช่วงสั้นๆ ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ไม่นานมานี้ พริโกซินเพิ่งออกแถลงการณ์ สนับสนุนการรัฐประหารในไนเจอร์ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าแวกเนอร์มีบทบาทสำคัญต่อทำเนียบเครมลินอย่างไรและในสัปดาห์นี้ เขาเพิ่งโพสต์วีดีโอมาจากแอฟริกา แต่งกายตามเครื่องแบบของเขา ซึ่งดูเหมือนว่าปูตินให้อภัยเขาแล้ว และพริโกซินได้รับหน้าที่ใหม่แล้ว
สำหรับกลุ่มนักรบรับจ้าง “แวกเนอร์” ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีสมาชิกที่เป็นนักรบราว 25,000 คนเริ่มปฏิบัติภารกิจสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียทางตะวันออกของยูเครน และเชื่อกันว่ามีส่วนช่วยเรื่องการผนวกไครเมียเข้ากับรัสเซีย นอกจากนี้ กลุ่มแวกเนอร์ยังเข้าไปปฏิบัติการในแอฟริกาและตะวันออกกลางด้วย ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม พวกเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในการร่วมปฏิบัติภารกิจในสงครามยูเครน จนถึงเดือนมิถุนายนที่พวกเขาก่อกบฏ ทำให้หลังจากนั้น สมาชิกส่วนใหญ่ต้องย้ายไปอยู่ในเบลารุส
อย่างไรก็ดี ในเวลานี้ กำลังเกิดคำถามว่า กลุ่มแวกเนอร์จะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ในวันที่ไม่มีพริโกซิน จากรายงานของสื่อหลายสำนักพบว่า นักรบแวกเนอร์หลายร้อยคนที่ย้ายไปที่ฐานที่มั่นในเบลารุส ทยอยเดินทางออกจากเบลารุสแล้วเช่นกัน หลายคนไม่พอใจที่ได้ค่าจ้างที่ต่ำในเบลารุส ขณะที่ส่วนหนึ่งย้ายไปปฏิบัติภารกิจในแอฟริกา
แม้มีการเอ่ยถึงหลายชื่อที่อาจจะมาแทนที่พริโกซิน แต่ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากทำเนียบเครมลินด้วยเช่นกัน และดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครโดดเด่นที่จะมาแทนที่พริโกซินได้ เพราะที่ผ่านมาอาณาจักรแวกเนอร์ในทวีปแอฟริกานั้น ทำหน้าที่หลากหลาย ทั้งปฏิบัติการปล่อยข่าวเท็จ ทำธุรกิจสีเทา ตลอดจนภารกิจนักรบรับจ้าง แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต่างพึ่งพาสายสัมพันธ์ส่วนตัวที่พริโกซินและพันธมิตรใกล้ชิด ก่อร่างสร้างตัวมาหลายปีเช่น แวกเนอร์ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลทหารมาลี จนทำให้ฝรั่งเศสตัดสินใจยุติปฏิบัติการทางทหารในมาลีที่ยาวนานมานับทศวรรษไป
ขณะที่ทำเนียบเครมลินนั้น มักใช้วิธีการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับผู้นำทหารในชาติของภูมิภาคซาเฮลเอง แต่สำหรับพริโกซิน เขาใช้วิธีพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ ผู้นำรัฐประหาร ผู้นำกองทัพ ในพื้นที่ดังกล่าวแทน
พลอากาศตรี ฌอน เบลล์ ซึ่งขณะนี้เป็นนักวิเคราะห์ด้านการทหาร บอกกับ The Guardian ว่า หากไม่มีพริโกซิน แวกเนอร์ก็ไม่มีอะไรเลย ถ้ากลุ่มแวกเนอร์คือเยฟเกนีพริโกซิน นั่นก็จะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นแวกเนอร์รอดมาได้ และนี่ก็คือจุดจบ
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี