The Trumph of Amphritrite 1861
The Truimph of Amphritrite 1861 detail
ใน Kunsthaus Zurich นอกจากมีงานแนว Post Impressionism แล้ว ยังมีงานแนวRomanticism ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานแนว Impressionism ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของผู้นำของแนวทางศิลปะนี้ นั่นคือ EugeneDelacroix แนวทางศิลปะแบบ Romanticism นี้เป็นแนวทางศิลปะที่มีต้นกำเนิดในยุโรปปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ระหว่างปี 1800-50 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการปฏิวัติอุตสาหกรรมและยุคสมัยแห่งความรู้โดยเน้นการแสดงออกทางอารมณ์ของศิลปินแต่ละบุคคลร่วมไปกับการยกย่องธรรมชาติและอดีต แนวทางศิลปะนี้มีการแสดงออกได้อย่างหลากหลายทั้งทางด้านทัศนศิลป์ ดนตรี และวรรณกรรมจึงส่งผลกระทบรุนแรงทั้งต่อวงการวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การศึกษา รวมทั้งสังคมศาสตร์ แนวทางศิลปะนี้ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเห็นอกเห็นใจ ความหวาดกลัว ความประหลาดใจ อีกทั้งยังนำความเชื่อและประเพณีของยุคกลางกลับมาใหม่ด้วย แม้แนวทางศิลปะแบบ Romanticismจะถือกำเนิดจากนักคิดชาวเยอรมัน แต่กลับรุ่งเรืองมากในฝรั่งเศสจนกลายเป็นต้นกำเนิดของการปฏิวัติฝรั่งเศส ทั้งนี้ เพราะแนวทางศิลปะนี้ให้ความสำคัญกับความคิดใหม่ๆ มากกว่าการเดินตามทางเส้นทางสายหลักของทุกศาสตร์
Appolo Slays Python 1853
ผู้นำของศิลปะแนวทาง Romanticism ก็คือ Eugene Delacroix เขาเกิดวันที่ 26 เมษายน 1798 ใกล้ปารีสกับ Victoire Oeben ลูกสาวของเจ้าของร้านผลิตตู้โดยที่ไม่มีใครทราบว่า แท้ที่จริงแล้วใครเป็นบิดาของเขากันแน่ เขาเข้าเรียนที่ Lycee Louis le Grandในเมือง Rouen จนได้รับรางวัลทางด้านแบบร่างก่อนเข้าฝึกงานกับ Pierre Nacisse Guerinผลงานในช่วงแรกของเขาได้รับอิทธิพลทั้งจาก Raphael และ Jacques Louis David การได้ฝึกงานกับ Guerin ทำให้เขาได้รับการกระตุ้นให้สร้างงานที่เริ่มมีอัตลักษณ์ของตัวเองจนได้รับการยอมรับจาก Paris Salon ในปี 1822 จนถูกซื้อโดยรัฐบาลเพื่อไว้ประดับใน Luxembourg Galleries การที่เขาเน้นสร้างสรรค์ผลงานที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง และเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามที่สะท้อนเหตุการณ์ปัจจุบันในช่วงเวลานั้น ประกอบกับฝีไม้ลายมือที่มีความแตกต่างจากศิลปินทั่วไปทำให้เขาเป็นที่รับรู้ในหมู่ข้าราชการว่าเป็นศิลปินชั้นนำของยุคโรแมนติกส่งผลให้งานของเขาได้รับการซื้อไปติดตั้งในสถานที่ราชการเป็นจำนวนมาก
Appolo Slays Python 1853 detail
สำหรับแวดวงศิลปินด้วยกันนั้น การที่ผลงานของเขาเน้นให้เห็นถึงแต่ความเสียหายจากสงครามทำให้ผลงานของเขาได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรรมของศิลปะ ผลงานชิ้นโบแดงของDelacroix ที่ชื่อ Liberty Leading the People เกิดขึ้นในปี 1830 ผลงานชิ้นนี้ทำให้เขาสามารถแยกแนวทางศิลปะแบบ Neoclassic ออกจาก Romanticism ได้อย่างเด็ดขาดและส่งให้เขากลายเป็นเจ้าพ่อ Romanticism หรือบิดาของศิลปะยุคใหม่อย่างแท้จริง ยิ่งกว่านั้นผลงานชิ้นนี้ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพต่อทุกการต่อสู้ต่อมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากผลงานของเขาจะได้เข้าไปในสถานที่ราชการหลายแห่งแล้ว เขายังได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งโบสถ์อีกหลายแห่งด้วย อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างสรรค์งานจิตรกรรมบนหลังคาของมิวเซียม Lourveอีกต่างหากด้วย การที่เขามีชื่อเสียงมากทำให้เขาทำงานหนักตลอดจนฤดูหนาวปี 1862 เขาติดหวัดระหว่างเดินทาง หลังไปพบแพทย์และได้ยามารักษาในเดือนมิถุนายน 1863 เขาเดินทางกลับไปบ้านนอกก่อนที่จะป่วยหนักอีกในวันที่ 15 กรกฎาคม ปีเดียวกัน แต่การไปพบแพทย์ครั้งสุดท้ายนี้ แพทย์ไม่สามารถเยียวยาอะไรเขาได้อีกแล้ว เขาจึงกลับบ้านเขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่งให้คนดูแลและผองเพื่อนเขาเสียชีวิตในวันที่ 13 สิงหาคม 1863
เป็นที่น่าเสียดายว่า ผลงานที่จัดแสดงใน Kunsthaus Zurich ของ Delacroix ทั้งหมดเป็นช่วงหลังของชีวิตที่เขาพัฒนาฝีมือมาจนถึงขีดสุดแล้ว นักท่องเที่ยวจึงไม่มีโอกาสที่จะศึกษาพัฒนาการของศิลปินจากการชมผลงานในมิวเซียมแห่งนี้ อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจะเห็นว่าผลงานของเขาที่ได้ชื่นชมนั้น ก็มีความเป็นอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะความยุ่งเหยิงขององค์ประกอบในหลายๆ ภาพ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัยสมกับเป็นบิดาแห่งศิลปะยุคใหม่อย่างแท้จริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี